สุดสัปดาห์หยุดยาวที่ผ่านมา ได้เวลาหนังไทยกลับมาทวงบัลลังก์แชมป์อีกครั้ง กับหนังระทึกขวัญคำวิจารณ์ดี อย่าง แอน Faces Of Anne ของสองผู้กำกับ คุณคงเดช จาตุรันต์รัศมี และคุณราสิเกติ์ สุขกาล กลายเป็นหนังไทยเรื่องที่ 7 ของปีนี้ที่สามารถก้าวขึ้นมาคว้าอันดับ 1 ประจำสุดสัปดาห์ไปครอง จากรายได้เปิดตัวสุดสัปดาห์แรกในเขตกรุงเทพฯ, ปริมณฑล, เชียงใหม่ที่ทำได้ 4.85 ล้านบาท ซึ่งเป็นรายได้เปิดตัวสุดสัปดาห์แรกสูงสุดของหนังไทยในรอบ 3 เดือนนี้ (แทนที่ ใจฟู สตอรี่ ซึ่งเปิดตัวเมื่อช่วงเดือนสิงหาคมไปที่ 3 ล้านบาท) และสูงเป็นอันดับ 2 ของหนังไทยในรอบครึ่งปีหลัง (สูงสุดนับตั้งแต่ บุพเพสันนิวาส ๒ เคยทำเอาไว้ช่วงเดือนกรกฎาคมไปที่ 71 ล้านบาท) , ทำเงินสุดสัปดาห์แรกในเขตกรุงเทพฯ, ปริมณฑล, เชียงใหม่สูงเป็นอันดับ 6 ของหนังไทยปีนี้ (ตามหลัง เทอมสอง สยองขวัญ ที่ 6.5 ล้านบาท) และยังคงทำเงินเปิดตัวใกล้เคียงกับ Where We Belong ที่ตรงนั้น มีฉันหรือเปล่า ผลงานเรื่องก่อนหน้าของผู้กำกับคงเดช (ซึ่งทำเงินสุดสัปดาห์แรกเมื่อปี 2019 ไปที่ 4.4 ล้านบาท) ส่วนรายได้เปิดตัวสุดสัปดาห์แรกทั่วประเทศ ทำไปแล้วทั้งสิ้น 9 ล้านบาท สูงเป็นอันดับ 6 ของหนังไทยปีนี้เช่นกัน (ตามหลัง เทอมสอง สยองขวัญ ที่ 14 ล้านบาท)

อีกหนึ่งหนังใหม่คือหนังสยองขวัญไล่เชือดปิดไตรภาคจากค่าย Blumhouse อย่าง Halloween Ends เจ้าของตำแหน่งแชมป์ในอเมริกาสัปดาห์นี้ ส่วนในบ้านเรา หนังเปิดตัวเข้ามาในอันดับที่ 2 กับรายได้สุดสัปดาห์แรกที่ทำได้ 2.18 ล้านบาท ซึ่งเป็นรายได้เปิดตัวสุดสัปดาห์แรกสูงอันดับ 4 ของหนังสยองขวัญต่างประเทศที่เข้าฉายในบ้านเราปีนี้ (ตามหลังอีกหนึ่หนังไล่เชือดระดับตำนาน อย่าง Scream ภาคล่าสุด ที่ 2.2 ล้านบาท) และทำเงินเปิดตัวสูงเป็นอันดับ 2 ของไตรภาค ตามหลัง Halloween ฉบับปี 2018 (ที่ 6.9 ล้านบาท) เพียงภาคเดียว

ขณะที่แชมป์เก่าเมื่อสุดสัปดาห์ก่อน อย่างอนิเมะฉบับหนังโรงภาคล่าสุดของเจ้าหุ่นยนต์แมวสีฟ้า Doraemon the Movie: Nobita’s Little Star Wars 2021 ลงมาอยู่อันดับที่ 3 กับรายได้สุดสัปดาห์นี้ที่ทำไปอีก 2.18 ล้านบาท (ลดลงจากสุดสัปดาห์แรกไม่ถึงครึ่ง ที่ 47%) ซึ่งเป็นรายได้สุดสัปดาห์ที่สองสูงอันดับ 4 ของหนังแอนิเมชั่นญี่ปุ่นที่เข้าฉายในบ้านเราปีนี้ (ตามหลัง Detective Conan: The Bride of Halloween เพียงเล็กน้อย ที่ 2.3 ล้านบาท) และทำเงินรวมสองสัปดาห์ไปแล้ว 7.91 ล้านบาท กระโดดเข้าสู่ Top 10 หนังโรงโดราเอม่อนทำเงินในเขตกรุงเทพฯ, ปริมณฑล, เชียงใหม่สูงสุดตลอดกาลในบ้านเราเรียบร้อยแล้ว (มาอยู่อันดับที่ 10 พอดี แทนที่ภาค Great Adventure in the Antarctic Kachi Kochi เมื่อปี 2017 ที่ 7 ล้านบาท)
ส่วนหนังใหม่อีกสามเรื่องที่เปิดตัวเข้ามาใน Top 10 ช่วงหยุดยาวนี้ ประกอบไปด้วยภาคต่อของหนังเกาหลีแนวแอ็กชั่นปนฮา อย่าง Confidential Assignment 2: International เปิดตัวเข้ามาในอันดับที่ 4 กับรายได้สุดสัปดาห์แรกในบ้านเราที่ทำได้ 1.07 ล้านบาท (เปิดตัวสูงเป็นอันดับ 6 ของหนังเกาหลีใต้ที่เข้าฉายในบ้านเราปีนี้ ตามหลัง Seoul Ghost Stories และ The Witch: Part 2. The Other One ที่ 1.11 ล้านบาทเท่ากัน)

อนิเมะฉบับหนังโรงภาคปิดท้ายซีรี่ส์ Shin Evangelion ของผู้กำกับ Hideaki Anno อย่าง Evangelion: 3.0+1.01 Thrice Upon a Time ทำเงินเปิดตัวสุดสัปดาห์แรกในบ้านเราไปที่ 7.4 แสนบาท และทำเงินรวมรอบพิเศษตั้งแต่สุดสัปดาห์ก่อนไปแล้วทั้งสิ้น 8.9 แสนบาท ใช้เวลาไม่ถึงหนึ่งสัปดาห์ขึ้นแท่นเป็นหนังโรง Evangelion ภาคที่ทำเงินรวมสูงที่สุดในบ้านเราเรียบร้อยแล้ว (แซงภาคก่อนหน้า อย่าง Evangelion: 3.0 You Can (Not) Redo ซึ่งทำเงินเอาไว้เมื่อปี 2013 ไป 5 แสนบาท)

และหนังรถซิ่งญี่ปุ่นของผู้กำกับ Ten Shimoyama อย่าง Alive Drift ทำเงินเปิดตัวสุดสัปดาห์แรกในบ้านเราไปที่ 3.8 แสนบาท (เปิดตัวสูงเป็นอันดับ 8 ของหนังคนแสดงญี่ปุ่นที่เข้าฉายในบ้านเราปีนี้ ตามหลัง Plan 75 ที่ 4.2 แสนบาท)

Top 10 สุดสัปดาห์นี้ให้ทำเงินรวมไปทั้งสิ้น 13.6 ล้านบาท
เพิ่มขึ้นจาก Top 10 สุดสัปดาห์ก่อน 10% (12.2 ล้านบาท)
แต่ลดลงจากสุดสัปดาห์เดียวกันของปีก่อน 51% (28.3 ล้านบาท)
ซึ่งเป็นสุดสัปดาห์ที่หนังซูเปอร์ฮีโร่เอเชียจากจักรวาล Marvel อย่าง Shang-Chi and the Legend of the Ten Rings คว้าตำแหน่งแชมป์ไปครองที่รายได้เปิดตัว 15 ล้านบาท

อ้างอิงตัวเลขรายได้จาก – ชมรมวิจารณ์บันเทิง