หลังจากที่ขับเคี่ยวลุ้นตำแหน่งแชมป์กันมาตลอดสุดสัปดาห์ ท้ายที่สุดแล้ว ก็กลายเป็นฝั่งของหนังแฟนตาซีสุดฮิตในอดีต อย่าง Harry Potter and the Prisoner of Azkaban ที่พลิกแซงกลับมาคว้าแชมป์ประจำสุดสัปดาห์ไปครองได้สำเร็จ (กลายเป็นหนังจากตระกูล Harry Potter ภาคที่ 2 ที่สามารถคว้าแชมป์จากการกลับมาฉายใหม่ได่้อีกครั้ง ถัดจากภาคแรกเมื่อช่วงต้นปี) จากรายได้สุดสัปดาห์แรกในการกลับมาฉายใหม่อีกครั้งที่ทำได้ 3.68 ล้านบาท ซึ่งเป็นรายได้สุดสัปดาห์แรกจากการกลับมาฉายใหม่อีกครั้งสูงเป็นอันดับ 2 ในรอบสิบปีของบ้านเราเลยทีเดียว (เป็นรองภาคแรก อย่าง Harry Potter and the Philosopher’s Stone ซึ่งทำสถิติเอาไว้ในรอบปีนี้เช่นกันที่ 10 ล้านบาทเพียงเรื่องเดียว)

ด้านแชมป์เก่าสองสมัย อย่าง One Piece Film: Red ลงมาอยู่อันดัยที่ 2 กับรายได้สุดสัปดาห์นี้ที่ทำไปอีก 3.36 ล้านบาท (ลดลงจากสุดสัปดาห์ก่อน 63%) ซึ่งเป็นรายได้สุดสัปดาห์ที่สามสูงเป็นอันดับ 2 ของหนังแอนิเมชั่นในรอบปีนี้ (ตามหลัง Minions: The Rise of Gru ที่ 4.2 ล้านบาทเพียงเรื่องเดียว) และเป็นรายได้สุดสัปดาห์ที่สามสูงที่สุดตลอดกาลของหนังแอนิเมชั่นญี่ปุ่นที่มาเข้าฉายในบ้านเรา (รับไม้ต่อจาก Jujutsu Kaisen 0 ที่เพิ่งทำสถิติใหม่ในปีนี้ไปที่ 2.27 ล้านบาท) ส่วนรายได้รวมสามสัปดาห์ ในเขตกรุงเทพฯ, ปริมณฑล, เชียงใหม่ ทำไปแล้วทั้งสิ้น 52.04 ล้านบาท (ขยับขึ้นมาอยู่อันดับที่ 7 หนังทำเงินสูงสุดในเขตกรุงเทพฯ, ปริมณฑล, เชียงใหม่ปีนี้ แทนที่ The Batman ที่ 51 ล้านบาท) และทำเงินรวมทั่วประเทศไปแล้วถึง 116.6 ล้านบาท กลายเป็นหนังแอนิเมชั่นญี่ปุ่นทำเงินทะลุหลักร้อยล้านบาททั่วประเทศเรื่องที่ 2 ตลอดกาลของบ้านเรา (ถัดจาก Demon Slayer: Kimetsu no Yaiba – The Movie: Mugen Train ซึ่งทำรายได้รวมในบ้านเราไปมากกว่า 120 ล้านบาท)

ด้านหนังไทยสุดฮิต อย่าง บุพเพสันนิวาส ๒ ที่ลงมาอยู่อันดับที่ 3 ในสัปดาห์นี้ สร้างสถิติใหม่เป็นหนังที่อยู่ใน Top 3 ติดต่อกันยาวนานที่สุดในรอบปีนี้ถึง 7 สัปดาห์ติดต่อกัน (สถิติเดิมเป็นของ Doctor Strange in the Multiverse of Madness ที่ 6 สัปดาห์) กับรายได้สุดสัปดาห์นี้ที่ทำไปอีก 1.24 ล้านบาท (ลดลงจากสุดสัปดาห์ก่อนครึ่งนึงพอดี ที่ 50%) ซึ่งเป็นรายได้สุดสัปดาห์ที่เจ็ดสูงที่สุดของบ้านเราในรอบปีนี้ (แซง Top Gun: Maverick ที่ 1.0 ล้านบาท) และสูงที่สุดในรอบ 9 ปี (นับตั้งแต่หนังไทยสุดฮิต อย่าง พี่มาก..พระโขนง เคยทำเอาไว้เมื่อปี 2013 ที่ 6 ล้านบาท) ส่วนรายได้รวมเจ็ดสัปดาห์ ในเขตกรุงเทพฯ, ปริมณฑล, เชียงใหม่ ทำไปแล้วทั้งสิ้น 166.1 ล้านบาท และทำเงินรวมทั่วประเทศไปแล้วถึง 388.4 ล้านบาท

ส่วนหนังใหม่อีกสามเรื่องที่เปิดตัวเข้ามาใน Top 10 สุดสัปดาห์นี้ ประกอบไปด้วยหนังไทย LOVE เลย 101 ผลงานการแสดงนำเรื่องล่าสุดของคุณหม่ำ จ๊กมกมา เข้ามาในอันดับที่ 4 กับรายได้เปิดตัวสุดสัปดาห์แรกที่ทำได้ 8.8 แสนบาท

หนังดราม่าตัวแทนจากประเทศญี่ปุ่น ลุ้นเข้าชิงรางวัลออสการ์สาขาภาพยนตร์นานชาติยอดเยี่ยมในปีหน้า อย่าง Plan 75 ทำเงินเปิดตัวสุดสัปดาห์แรกในบ้านเราไปที่ 4.2 แสนบาท (สูงเป็นอันดับ 6 ของหนังคนแสดงญี่ปุ่นที่เข้าฉายในบ้านเราปีนี้)

และหนังแฟนตาซีบอลลิวูดฟอร์มยักษ์ภาคปฐมบท อย่าง Brahmāstra: Part One – Shiva ของพระเอกมาแรง Ranbir Kapoor ที่กำลังทำเงินถล่มทลายในบ้านเกิดอยู่ในขณะนี้ ทำเงินเปิดตัวสุดสัปดาห์แรกในบ้านเราไปที่ 3.9 แสนบาท จากการเข้าฉายเพียงสิบโรงเท่านั้น

Top 10 สุดสัปดาห์นี้ให้ทำเงินรวมไปทั้งสิ้น 12.6 ล้านบาท

ลดลงจาก Top 10 สุดสัปดาห์ก่อน 32% (18.7 ล้านบาท)

โดยสุดสัปดาห์เดียวกันของปีก่อน โรงหนังในเขตกรุงเทพฯ, ปริมณฑล และเชียงใหม่ ยังคงหยุดให้บริการเช่นเดิม

อ้างอิงตัวเลขรายได้จาก – ชมรมวิจารณ์บันเทิง , เพจ GDH