[Daily Box Office] หนังทำเงินในไทย ประจำวันพฤหัสบดีที่ 1 กันยายน 2565 : One Piece Film: Red ขึ้นแท่นหนังแอนิเมชั่นทำเงินสูงสุดบ้านเราปีนี้

วันพฤหัสที่ผ่านมายังคงเป็นช่วงเวลาทองของ One Piece Film: Red หนังโรงฉลองครบรอบ 25 ปีของการ์ตูนวันพีซ ที่ครองตำแหน่งแชมป์เอาไว้ได้อย่างเหนียวแน่น จากรายได้วันพฤหัสนี้ในเขตกรุงเทพฯ, ปริมณฑล และเชียงใหม่ที่ทำไปอีก 1.32 ล้านบาท (ลดลงจากวันแรก 83%) ซึ่งเป็นรายได้วันพฤหัสสุดสัปดาห์ที่สองสูงอันดับ 8 ของบ้านเราปีนี้ (ตามหลัง Fantastic Beasts: The Secrets of Dumbledore ที่ 1.4 ล้านบาท) และสูงที่สุดในกลุ่มหนังแอนิเมชั่นที่เข้าฉายในบ้านเรารอบ 3 ปีนี้ (แซงทั้ง Raya and the Last Dragon และ Demon Slayer: Kimetsu no Yaiba the Movie: Mugen Train ที่ 1.2 และ 1.1 ล้านบาท ตามลำดับ) ส่วนรายได้รวม 8 วันทำไปแล้วทั้งสิ้น 38.83 ล้านบาท กลายเป็นหนังแอนิเมชั่นทำเงินสูงสุดในรอบปีนี้ (แซง Minions: The Rise of Gru ที่ 37.9 ล้านบาท) , กระโดดเข้าสู่ Top 10 หนังทำเงินสูงสุดในบ้านเราปีนี้ (มาอยู่อันดับที่ 10 พอดี แทนที่ Jujutsu Kaisen 0 ที่ 37 ล้านบาท) และขึ้นแท่นเป็นหนังโรงวันพีซภาคที่ทำเงินสูงที่สุดตลอดกาลในบ้านเราเป็นที่เรียบร้อยแล้ว (รับไม้ต่อจากภาคก่อน อย่าง One Piece Stampede ที่ 36.8 ล้านบาท)

เช่นเดียวกับหนังไทยสุดฮิต อย่าง บุพเพสันนิวาส ๒ ที่นอกจากจะครองตำแหน่งรองแชมป์เอาไว้ได้เช่นเดิม ยังได้อานิสงค์จากโปรโมชั่นตั๋วหนังซื้อ 1 แถม 1 ช่วยให้ทำเงินวันพฤหัสที่ผ่านมาในเขตกรุงเทพฯ, ปริมณฑล และเชียงใหม่ไปอีก 3.8 แสนบาท (เพิ่มขึ้นจากวันพฤหัสที่แล้ว 8%) ซึ่งเป็นรายได้วันพฤหัสสุดสัปดาห์ที่หกสูงอันดับ 2 ของบ้านเราปีนี้ (ตามหลัง Top Gun: Maverick ที่ 5.4 แสนบาท) และเป็นรายได้เป็นรายได้วันพฤหัสสุดสัปดาห์ที่หกสูงสุดของหนังไทยในรอบ 9 ปี (สูงสุดนับตั้งแต่ พี่มาก..พระโขนง เคยทำเอาไว้เมื่อปี 2013 ที่ 2 ล้านบาท) ส่วนรายได้รวมสามสิบหกวันในเขตกรุงเทพฯ, ปริมณฑล และเชียงใหม่ ทำไปแล้วทั้งสิ้น 162 ล้านบาท คว้าตำแหน่งหนังไทยทำเงินสูงสุดในเขตกรุงเทพฯ, ปริมณฑล และเชียงใหม่รอบ 6 ปีนี้ (แทนที่ นาคี ๒ ที่ 161 ล้านบาท) และกระโดดเข้าสู่ Top 10 หนังไทยทำเงินสูงสุดตลอดกาลในเขตกรุงเทพฯ, ปริมณฑล และเชียงใหม่เรียบร้อยแล้ว (มาอยู่อันดับที่ 10 พอดี ตามหลัง หลวงพี่แจ๊ส 4G อีกไม่ไกลมากนัก) ขณะที่รายได้รวมทั่วประเทศ ทำไปแล้วถึง 380.3 ล้านบาท

ส่วนในกลุ่มหนังใหม่ที่เข้าฉายหลากหลายแนวเมื่อวันพฤหัสที่ผ่านมา เรื่องที่เปิดตัวได้สูงที่สุด คือหนังสยองขวัญ The Invitation ที่ได้แรงบันดาลใจจากวรรณกรรมสุดคลาสสิค อย่าง Dracula ของ Bram Stoker และขึ้นอันดับ 1 Box Office ที่อเมริกาไปเมื่อสัปดาห์ก่อน ทำเงินเปิดตัววันแรกในบ้านเราไปที่ 3.6 แสนบาท ซึ่งเป็นรายได้เปิดตัววันแรกสูงอันดับ 4 ของหนังสยองขวัญต่างประเทศที่เข้าฉายในบ้านเราปีนี้ (ตามหลัง Scream ภาคล่าสุด ที่ 4 แสนบาท)

ตามมาติดๆ กับหนังไทยแนวฆาตกรไล่เชือดเลือดสาดจากค่ายเนรมิตรหนัง ฟิล์ม อย่าง คืนหมีฆ่า ทำเงินเปิดตัววันแรกไปที่ 3.3 แสนบาท (ทำได้ใกล้เคียงกับอีกหนึ่งหนังไล่เชือดในปีนี้ อย่าง Scream ภาคล่าสุด ซึ่งทำได้ 4 แสนบาท)

อีกหนึ่งหนังไทยแหวกแนวสุดเดือด อย่าง The Up Rank อาชญาเกม จากค่ายกันตนา ร่วมกับค่ายเอ็กซ์สปริง ที่มาพร้อมกับเรื่องราวด้านมืดในวงการเกม ทำเงินเปิดตัววันแรกไปที่ 2.1 แสนบาท

และหนังเอเชียอีกสองเรื่องในสัปดาห์นี้ อย่าง Hunt หนังแอ็กชั่นสายลับสุดเดือดสัญชาติเกาหลี ที่ได้พระเอก Lee Jung-Jae (ซีรี่ส์ Squid Game) มานั่งแท่นเป็นผู้กำกับและแสดงนำ ทำเงินเปิดตัววันแรกในบ้านเราไปที่ 1.7 แสนบาท (สูงเป็นอันดับ 8 ของหนังเกาหลีที่เข้าฉายในบ้านเราปีนี้)

และหนังอินเดีย Laal Singh Chaddha ผลงานเรื่องใหม่ของพระเอกอินเดียชื่อดัง Aamir Khan (3 Idiots , PK) ที่ครั้งนี้นำหนังระดับคลาสสิก อย่าง Forrest Gump มารีเมกใหม่ในฉบับบอลลิวู้ด ทำเงินเปิดตัววันแรกในวงจำกัดในบ้านเราไป 5.5 หมื่นบาท

อ้างอิงตัวเลขรายได้จาก – ชมรมวิจารณ์บันเทิง , เพจ GDH

Leave a Reply

Fill in your details below or click an icon to log in:

WordPress.com Logo

You are commenting using your WordPress.com account. Log Out /  Change )

Facebook photo

You are commenting using your Facebook account. Log Out /  Change )

Connecting to %s