สุดสัปดาห์นี้ ยังคงเป็นช่วงเวลาทองของหนังไทยสุดฮิต อย่าง บุพเพสันนิวาส ๒ ที่ครองอันดับ 1 เอาไว้ได้เป็นสมัยที่สองติดต่อกัน (กลายเป็นหนังไทยเรื่องแรกในรอบปีนี้ที่ครองอันดับ 1 ได้มากกว่าหนึ่ง) จากรายได้สุดสัปดาห์นี้ในเขตกรุงเทพฯ, ปริมณฑล และเชียงใหม่ที่ทำไปอีก 28.76 ล้านบาท (ลดลงจากสุดสัปดาห์แรก 60%) ขึ้นแท่นเป็นรายได้สุดสัปดาห์ที่สองสูงสุดของหนังไทยในรอบ 6 ปีนี้ (สูงสุดนับตั้งแต่ หลวงพี่แจ๊ส 4G เคยทำเอาไว้เมื่อปี 2016 ที่ 33 ล้านบาท) รวมทั้งเป็นรายได้สุดสัปดาห์ที่สองสูงอันดับ 2 ของบ้านเราปีนี้ (ตามหลัง Doctor Strange in the Multiverse of Madness)

ส่วนรายได้รวมสองสัปดาห์ ทำไปแล้วทั้งสิ้น 119.13 ล้านบาท กลายเป็นหนังไทยเรื่องแรกในรอบ 3 ปีนี้ ที่สามารถทำเงินรวมในเขตกรุงเทพฯ, ปริมณฑล และเชียงใหม่ทะลุหลักร้อยล้านขึ้นมาได้ (เรื่องก่อนหน้านี้คืออีกหนึ่งหนังฮิตจากค่าย GDH เช่นกัน อย่าง ตุ๊ดซี่ส์ แอนด์ เดอะเฟค เคยทำเอาไว้เมื่อปี 2019) และกระโดดเข้าสู่ Top 5 หนังจากค่าย GDH ทำเงินในเขตกรุงเทพฯ, ปริมณฑล และเชียงใหม่สูงสุดตลอดกาลเรียบร้อยแล้ว (มาอยู่อันดับที่ 4 แทนที่ ฉลาดเกมส์โกง ที่ 112 ล้านบาท) ขณะที่รายได้รวมทั่วประเทศสองสัปดาห์ ทำไปแล้วถึง 288.4 ล้านบาท

ส่วนหนังใหม่ที่เปิดตัวได้สูงที่สุดในสัปดาห์นี้ คือหนังเกาหลีลุ้นระทึกกลางเวหา อย่าง Emergency Declaration เข้ามาในอันดับที่ 2 กับรายได้สุดสัปดาห์แรกในบ้านเราที่ทำไปได้ 5.73 ล้านบาท กลายเป็นหนังเกาหลีเปิดตัวสุดสัปดาห์แรกสูงที่สุดในบ้านเรารอบสองปีนี้ (แซงหนังสารคดีของวงBLACKPINK อย่าง BLACKPINK The Movie ที่ 3 ล้านบาท) และสูงที่สุดนับตั้งแต่หนังซอมบี้เกาหลีสุดฮิต อย่าง Train to Busan: Peninsula เคยทำเอาไว้เมื่อปี 2020 ที่ 19 ล้านบาท

ส่วนหนังใหม่อีกสามเรื่องที่เปิดตัวเข้ามาใน Top 10 สุดสัปดาห์นี้ ประกอบไปด้วยหนังแอนิเมชั่นของเหล่าสรรพสัตว์พลังวิเศษในจักรวาลซูเปอร์ฮีโร่ DC อย่าง DC League of Super-Pets ทำเงินสุดสัปดาห์แรกในบ้านเราไปที่ 2.24 ล้านบาท (สูงเป็นอันดับ 6 ของหนังแอนิเมชั่นที่เข้าฉายในบ้านเราปีนี้ ตามหลัง My Hero Academia: World Heroes’ Mission เช่นเดิม ที่ 3 ล้านบาท)

อนิเมะฉบับหนังโรงภาคขุดเริ่มต้นของอีกหนึ่งการ์ตูนญี่ปุ่นชื่อดัง อย่าง Fruits Basket: Prelude ทำเงินสุดสัปดาห์แรกในบ้านเราไปที่ 5.4 แสนบาท (สูงเป็นอันดับ 5 ของหนังอนิเมะญี่ปุ่นที่เข้าฉายในบ้านเราปีนี้ ตามหลัง Gintama: The Very Final อีกเช่นกัน ที่ 7.7 แสนบาท)

และหนังแอ็กชั่นระห่ำปนฮาของพระเอก Brad Pitt อย่าง Bullet Train ที่ขอชิมลางเข้าฉายรอบพิเศษ (เฉพาะในโรง IMAX และ Zigma) ไปเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ทำเงินรอบพิเศษสามวันแรกไปที่ 4.8 แสนบาท ซึ่งเป็นรายได้สุดสัปดาห์รอบพิเศษสูงที่สุดของบ้านเรารอบปีนี้
Top 10 สุดสัปดาห์นี้ให้ทำเงินรวมไปทั้งสิ้น 41.1 ล้านบาท
ลดลงจาก Top 10 สุดสัปดาห์ก่อน 51% (84.5 ล้านบาท)
โดยสุดสัปดาห์เดียวกันของปีก่อน โรงหนังในเขตกรุงเทพฯ, ปริมณฑล และเชียงใหม่ ยังคงหยุดให้บริการเช่นเดิม

อ้างอิงตัวเลขรายได้จาก – ชมรมวิจารณ์บันเทิง , เพจ GDH