แชมป์ประจำสุดสัปดาห์นี้เปลี่ยนมือมาเป็นของอีกหนึ่งหนังซูเปอร์วายรายจากจักรวาลไอ้แมงมุม อย่าง Morbius ที่ก้าวขึ้นมาคว้าอันดับ 1 ไปครองได้ตามคาด จากรายได้เปิดตัวสุดสัปดาห์แรก 10.69 ล้านบาท ซึ่งเป็นรายได้เปิดตัวสูงอันดับ 3 ของบ้านเราปีนี้ (เฉือนเอาชนะรายได้จากการกลับมาฉายใหม่ในสุดสัปดาห์แรกของ Harry Potter and the Philosopher’s Stone ไปแบบหวุดหวิดที่ 10.68 ล้านบาท) และสูงเป็นอันดับ 6 ในกลุ่มหนังดัดแปลงจากคอมมิคซูเปอร์ฮีโร่ที่เข้าฉายในบ้านเรารอบสองปีนี้ (ตามหลัง Shang-Chi and the Legend of the Ten Rings ที่ 15 ล้านบาท รวมทั้งตามหลังอีกหนึ่งหนังแอนตี้-ฮีโร่จากค่าย Sony เมื่อปีก่อน อย่าง Venom: Let There Be Carnage ที่ 15.5 ล้านบาท)

อีกหนึ่งหนังใหม่เปิดตัวเข้ามาในอันดับที่ 2 คือหนังสยองขวัญปนฮาจากตำนานผีไทยสุดคลาสสิคที่ถูกนำมาเล่าในมุมมองใหม่ อย่าง แดง พระโขนง ทำเงินเปิดตัวสุดสัปดาห์แรกในเขตกรุงเทพฯ , ปริมณฑล และเชียงใหม่ไปที่ 7.96 ล้านบาท (ทำเงินรวมทั่วประเทศไปแล้ว 30 ล้านบาท) ซึ่งเป็นรายได้เปิดตัวสุดสัปดาห์แรกสูงอันดับ 6 ของหนังที่เข้าฉายในบ้านเราปีนี้ และสูงเป็นอันดับ 3 ของหนังไทยปีนี้ (ตามหลัง พี่นาค 3 ที่ 9.42 ล้านบาท) รวมทั้งทำเงินเปิดตัวสุดสัปดาห์แรกสูงเป็นอันดับ 5 ของหนังไทยในรอบสองปีนี้อีกด้วย (ตามหลัง พี่นาค 3 อีกเช่นกัน)

แชมป์เก่าเมื่อสุดสัปดาห์ก่อน อย่าง เทอมสอง สยองขวัญ ลงมาอยู่อันดับที่ 3 กับรายได้สุดสัปดาห์นี้ที่ทำไปอีก 3.47 ล้านบาท (ลดลงจากสุดสัปดาห์แรกไม่ถึงครึ่ง ที่ 47% กลายเป็นหนังทำเงินเปิดตัวเกินห้าล้านบาทเรื่องแรกของปีนี้ที่ทำเงินสุดสัปดาห์ต่อมาลดลงไม่เกิน 50%) ซึ่งเป็นรายได้สุดสัปดาห์ที่สองสูงอันดับ 3 ของบ้านเราปีนี้ (ตามหลัง The Batman และ One for the Road วันสุดท้าย..ก่อนบายเธอ ที่ 9.9 และ 6.8 ล้านบาท ตามลำดับ) และสูงเป็นอันดับ 4 ของหนังไทยในรอบสองปีนี้ (ตามหลัง One for the Road วันสุดท้าย..ก่อนบายเธอ เช่นเดิม) ส่วนรายได้รวมสองสัปดาห์ ทำไปแล้วทั้งสิ้น 13.08 ล้านบาท ขยับขึ้นมาอยู่อันดับที่ 6 หนังเข้าฉายใหม่ในบ้านเราปี 2565 ทำเงินรวมสูงที่สุด (แซง Moonfall ที่ 12 ล้านบาท)

อันดับ 4 คือภาคต่อของหนังสยองปนฮา พี่นาค 3 ทำเงินสุดสัปดาห์นี้ไปอีก 1.52 ล้านบาท (ลดลงจากสุดสัปดาห์ก่อน 55%) ซึ่งเป็นรายได้สุดสัปดาห์ที่สามสูงอันดับ 3 ของบ้านเราปีนี้ (ตามหลัง The Batman และ One for the Road วันสุดท้าย..ก่อนบายเธอ ที่ 4 และ 2 ล้านบาท ตามลำดับ) และสูงเป็นอันดับ 4 ของหนังไทยในรอบสองปีนี้ (ตามหลัง One for the Road วันสุดท้าย..ก่อนบายเธอ อีกเช่นกัน) ส่วนรายได้รวมสามสัปดาห์ ทำไปแล้วทั้งสิ้น 20.55 ล้านบาท

ส่วนหนังฮีโร่จากค่าย DC อย่าง The Batman กลายเป็นหนังที่อยู่ใน Top 5 ยาวนานที่สุดของบ้านเราในปีนี้ (ร่วมกับ Uncharted ที่ 5 สัปดาห์) เรียบร้อยแล้ว โดยทำเงินสุดสัปดาห์นี้ไปอีก 7.2 แสนบาท (ลดลงจากสุดสัปดาห์ก่อน 64%) และทำเงินรวมห้าส้ปดาห์ไปแล้ว 49.87 ล้านบาท (กำลังจะกลายเป็นหนังปี 2565 ทำเงินทะลุหลักห้าสิบล้านบาทในเขตกรุงเทพฯ , ปริมณฑล และเชียงใหม่ได้เป็นเรื่องแรกในไม่ช้านี้แล้ว)

และหนังใหม่อีกหนึ่งเรื่องที่เปิดตัวเข้ามาในอันดับ 8 คือหนังสยองขวัญชวนระทึก อย่าง เล่น ซ่อน ตาย Hide and Seek ทำเงินเปิดตัวสุดสัปดาห์แรกในบ้านเราไป 1.2 แสนบาท

Top 9 สุดสัปดาห์นี้ ทำเงินรวมกันไปทั้งสิ้น 25.3 ล้านบาท (สูงเป็นอันดับ 2 ของปีนี้ เป็นรองสุดสัปดาห์เปิดตัวของ The Batman เมื่อช่วงต้นเดือนก่อนเพียงไม่กี่แสนบาท)

เพิ่มขึ้นจาก Top 10 สุดสัปดาห์ก่อน 51% (16.7 ล้านบาท)

แต่ยังคงลดลงจาก Top 10 สุดสัปดาห์เดียวกันเมื่อปีก่อน 33% (38 ล้านบาท)

ซึ่งเป็นสุดสัปดาห์ที่หนังสัตว์ประหลาดฟอร์มยักษ์ Godzilla vs. Kong ยังคงครองแชมป์ต่อเป็นสมัยที่สอง ที่รายได้ 28 ล้านบาท (โดยมีหนังโรงภาคพิเศษของยอดนักสิบจิ๋วโคนัน Detective Conan: The Scarlet Alibi ทำเงินเปิดตัวสูงสุดในกลุ่มหนังใหม่ที่รายได้ 3.5 ล้านบาท)

อ้างอิงตัวเลขรายได้จาก – ชมรมวิจารณ์บันเทิง