วันพฤหัสที่ผ่านมา ถึงคิวของหนังแอนตี้-ฮีโร่จากค่าย Sony ที่เลื่อนฉายมาหลายครั้งหลายครา อย่าง Morbius ก้าวขึ้นมาคว้าตำแหน่งแชมป์ไปครองได้ตามคาด จากรายได้เปิดตัววันแรกในเขตกรุงเทพฯ , ปริมณฑล และเชียงใหม่ที่ทำได้ 3.36 ล้านบาท กลายเป็นหนังเปิดตัววันแรกสูงอันดับ 3 ของบ้านเราปีนี้ (ตามหลัง The Batman และ Uncharted ที่ 5 และ 3.7 ล้านบาท ตามลำดับ) และเป็นหนังเปิดตัววันแรกสูงอันดับ 11 ของบ้านเราในรอบสองปีนี้ (ตามหลังอีกหนึ่งหนังแอนตี้-ฮีโร่จากค่าย Sony เมื่อปีก่อน อย่าง Venom: Let There Be Carnage และหนังผีไทย ร่างทรง ที่ 3.68 ล้านบาทเท่ากัน)

อีกหนึ่งหนังใหม่ตามมาไม่ไกลมากนัก คือหนังไทยแนวสยองขวัญปนฮาที่นำตำนานผีไทยสุดคลาสสิคมาเล่าในมุมมองใหม่อีกครั้ง อย่าง แดง พระโขนง ผลงานจากค่าย บั้งไฟ ฟิล์ม ที่ได้สองนักแสดงหนุ่ม อย่างคุณเฉลิมพล ทิฆัมพรธีระวงศ์ (แจ๊ค แฟนฉัน) และคุณเอ็กซ์ วัชรพงษ์ ปัทมะ มานั่งแท่นผู้กำกับ ทำเงินเปิดตัววันแรกในเขตกรุงเทพฯ , ปริมณฑล และเชียงใหม่ไปที่ 2.27 ล้านบาท (ทำเงินรวมทั่วประเทศวันแรกไปที่ 8 ล้านบาท) กลายเป็นหนังเปิดตัววันแรกสูงเป็นอันดับ 6 ของบ้านเราปีนี้ และสูงเป็นอันดับ 3 ในกลุ่มหนังไทยปีนี้ (ตามหลัง พี่นาค 3 ที่ 2.56 ล้านบาท) รวมทั้งกระโดดเข้าสู่ Top 5 หนังไทยเปิดตัววันแรกสูงสุดในรอบสองปีนีั (มาอยู่อันดับที่ 5 ตามหลัง พี่นาค 3 อีกเช่นกัน) และกระโดดเข้าสู่ Top 10 หนังไทยเปิดตัววันแรกสูงสุดในรอบสามปีนีัอีกด้วย (มาอยู่อันดับที่ 9 ตามหลัง Low Season สุขสันต์วันโสด ที่ 2.47 ล้านบาท)

แชมป์เก่าเมื่อสุดสัปดาห์ก่อน อย่างหนังสยองสามตอนย่อย เทอมสอง สยองขวัญ ถือว่ายังประคองตัวเอาไว้ได้ค่อนข้างดีทีเดียว จากรายได้วันพฤหัสนี้ที่ทำไปอีก 8.7 แสนบาท (ลดลงจากวันแรกครึ่งนึงที่ 50% พอดี) ซึ่งเป็นรายได้วันพฤหัสสุดสัปดาห์ที่สองสูงอันดับ 3 ของบ้านเราปีนี้ และสูงเป็นอันดับ 2 ของหนังไทยปีนี้ (ตามหลัง The Batman และ One for the Road วันสุดท้าย..ก่อนบายเธอ ที่ 1.6 และ 1.2 ล้านบาท ตามลำดับ) รวมทั้งทำรายได้วันพฤหัสสุดสัปดาห์ที่สองสูงเป็นอันดับ 4 ของหนังไทยในรอบสองปีนี้อีกด้วย (ตามหลัง One for the Road วันสุดท้าย..ก่อนบายเธอ อีกเช่นกัน) ส่วนรายได้รวมแปดวัน ทำไปแล้วทั้งสิ้น 10.48 ล้านบาท กลายเป็นหนังเรื่องที่ 7 ที่สามารถทำเงินทะลุหลักสิบล้านบาทในเขตกรุงเทพฯ , ปริมณฑล และเชียงใหม่ขึ้นมาได้ และกำลังจะกระโดดเข้าสู่ Top 5 หนังไทยทำเงินสูงสุดรอบสองปีนี้ในไม่ช้านี้แล้ว (ตามหลัง หอแต๋วแตก แหกโควิดปังปุริเย่ อีกเพียงไม่กี่แสนบาทเท่านั้น)
อีกหนึ่งเรื่องที่ยังคงทำได้ดีเช่นกัน คือภาคต่อของหนังสยองปนฮา พี่นาค 3 ทำเงินวันพฤหัสนี้ไปอีก 3.9 แสนบาท (ลดลงจากวันพฤหัสที่แล้วเพียง 38% เท่านั้น) ซึ่งเป็นรายได้วันพฤหัสสุดสัปดาห์ที่สามสูงอันดับ 3 ของบ้านเราปีนี้ (ตามหลัง The Batman และ One for the Road วันสุดท้าย..ก่อนบายเธอ ที่ 6 และ 4 แสนบาท ตามลำดับ) และทำเงินรวมสิบห้าวันไปแล้ว 19.42 ล้านบาท ขยับขึ้นมาอยู่อันดับที่ 4 หนังเข้าฉายใหม่ปี 2565 ทำเงินรวมในบ้านเราสูงที่สุดเรียบร้อยแล้ว (แซง Harry Potter and the Philosopher’s Stone ที่ทำเงินรวมจากการกลับมาฉายใหม่ในปีนี้ไป 18 ล้านบาท)
และหนังใหม่อีกหนึ่งเรื่องที่เปิดตัวเข้ามาใน Top 10 เมื่อวันพฤหัสที่ผ่านมา คือหนังสยองขวัญชวนระทึก อย่าง เล่น ซ่อน ตาย Hide and Seek ทำเงินเปิดตัววันแรกในบ้านเราไป 3.3 หมื่นบาท

อ้างอิงตัวเลขรายได้จาก – ชมรมวิจารณ์บันเทิง