ถึงเวลาที่หนังไทยกลับมาทวงบัลลังก์แชมป์บ้านเรากันอีกครั้ง กับภาคต่อของหนังสยองขวัญปนฮา ที่เดินทางมาถึงไตรภาคเป็นที่เรียบร้อยแล้ว อย่าง พี่นาค 3 ทำเงินเปิดตัววันแรกในเขตกรุงเทพฯ, ปริมณฑล และเชียงใหม่ไปที่ 2.56 ล้านบาท (ทำเงินรวมทั่วประเทศวันแรกไปสูงถึง 14 ล้านบาท) กลายเป็นหนังทำเงินวันแรกในเขตกรุงเทพฯ, ปริมณฑล สูงเป็นอันดับ 5 ของปีนี้ และสูงเป็นอันดับ 2 ของหนังไทยปีนี้ (ตามหลัง One for the Road วันสุดท้าย..ก่อนบายเธอ ที่ 3.32 ล้านบาท)

นอกจากนั้น พี่นาค 3 ยังกระโดดเข้าสู่ Top 5 หนังไทยเปิดตัววันแรกสูงสุดในรอบสองปีนี้ (มาอยู่อันดับที่ 4 ตามหลัง One for the Road วันสุดท้าย..ก่อนบายเธอ อีกเช่นกัน) และเข้าสู่ Top 10 หนังไทยเปิดตัววันแรกสูงสุดในรอบสามปีนี้ (อยู่อันดับที่ 7 ตามหลัง One for the Road วันสุดท้าย..ก่อนบายเธอ เช่นเดิม) โดยมีหนังพี่นาคภาคก่อนอย่าง พี่นาค 2 ยังคงครองแชมป์หนังไทยทำเงินวันแรกในเขตกรุงเทพฯ, ปริมณฑล และเชียงใหม่รอบสามปีนี้เอาไว้อย่างเหนียวแน่น ที่ 3.9 ล้านบาท

แชมป์เก่าสองสมัย อย่าง The Batman ทำเงินวันพฤหัสนี้ไปอีก 6 แสนบาท (ลดลงจากวันพฤหัสที่แล้ว 62%) ซึ่งเป็นรายได้วันพฤหัสสุดสัปดาห์ที่สามสูงที่สุดของบ้านเราปีนี้ (แทนที่ One for the Road วันสุดท้าย..ก่อนบายเธอ ที่ 4 แสนบาท) และสูงเป็นอันดับ 8 ของบ้านเราในรอบสองปี (ตามหลัง Raya and the Last Dragon ไม่มากนักที่ 6.5 แสนบาท) ส่วนรายได้รวมสิบหกวัน (รวมรอบพิเศษ) ทำไปแล้วทั้งสิ้น 41.47 ล้านบาท กลายเป็นหนังที่เข้าฉายใหม่ในบ้านเราปี 2565 ทำเงินรวมสูงที่สุดไปเป้นที่เรียบร้อยแล้ว (แซง One for the Road วันสุดท้าย..ก่อนบายเธอ ที่ 40 ล้านบาท)

ส่วหนังใหม่อีก 4 เรื่องต่างก็ตบเท้าเข้าสู่ Top 10 กันอย่างพร้อมเพรียงเมื่อวันพฤหัสที่ผ่านมา ประกอบไปด้วย Ambulance หนังรีเมคแนวโจรกรรม-ไล่ล่า ผลงานเรื่องล่าสุดของผู้กำกับจอมระเบิดภูเขาเผากระท่อม Michael Bay ทำเงินเปิดตัววันแรกในบ้านเราไป 5.3 แสนบาท

หนังคอมเมดี้ผสมไซไฟและความโรแมนติกของกลุ่มวัยรุ่นสร้างหนัง อย่าง It’s a Summer Film! ที่เคยสร้างความฮือฮาในบ้านเรามาแล้ว ในเทศกาลหนังญี่ปุ่น Japanese Film Festival 2022 เมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา ทำเงินเปิดตัววันแรกในบ้านเราไป 6.4 หมื่นบาท สูงเป็นอันดับที่ 6 ในกลุ่มหนังญี่ปุ่นที่เข้าฉายในบ้านเราปีนี้ (ตามหลัง Fate/Grand Order Final Singularity Grand Temple of Time: Solomon ที่ 8.7 หมื่นบาท) และสูงเป็นอันดับ 2 ของหนังคนแสดงญี่ปุ่นที่เข้าฉายในบ้านเราปีนี้ (ตามหลัง Cube ฉบับรีเมค ที่ 1.4 แสนบาทเพียงเรื่องเดียว)

หนังโรงภาคล่าสุดของก๊วนสุดฮาที่ยังคงมาพร้อมกับลูกบ้าเต็มพิกัด อย่าง Jackass Forever ที่ต้องเลื่อนฉายอย่างกระทันหันจากสัปดาห์ก่อน มาเข้าฉายรอบพิเศษชิมลางล่วงหน้าในสัปดาห์นี้ ทำเงินวันแรกจากรอบพิเศษไป 4.9 หมื่นบาท

และหนังโรแมนติก-คอมเมดี้ อย่าง Book of Love ที่เล่าเรื่องราวของหนุ่มนักเขียนนิยาย ที่ได้พบและสานสัมพันธ์กับหญิงผู้แปลนิยายของเขาในต่างแดน ทำเงินเปิดตัววันแรกในบ้านเราไป 2.9 หมื่นบาท

อ้างอิงตัวเลขรายได้จาก – ชมรมวิจารณ์บันเทิง