แชมป์ประจำสุดสัปดาห์วันเด็กแห่งชาติที่ผ่านมา ยังคงเป็นของหนังซูเปอร์ฮีโร่ภาคต่อมาแรง อย่าง Spider-Man: No Way Home ที่ยึดอันดับ 1 เอาไว้ได้ถึงสามสมัยติดต่อกัน จากรายได้สุดสัปดาห์นี้ที่ทำไปอีก 11.17 ล้านบาท (ลดลงจากสุดสัปดาห์ก่อน 74%) ซึ่งเป็นรายได้สุดสัปดาห์ที่สามสูงสุดของบ้านเราทั้งในรอบปีก่อน และในรอบ 2 ปี (แซง อีเรียมซิ่ง ที่ 6.8 ล้านบาท) และสูงเป็นอันดับ 4 ของบ้านเราในรอบ 3 ปี (ตามหลัง Frozen II ที่ 13 ล้านบาท) ส่วนรายได้รวมสี่สัปดาห์ (รวมรอบพิเศษ) ทำไปแล้วทั้งสิ้น 220.38 ล้านบาท กระโดดเข้าสู่ Top 10 หนังจากจักรวาล Marvel ทำเงินสูงสุดตลอดกาลในบ้านเราเรียบร้อยแล้ว (ล่าสุดอยู่อันดับที่ 9 ตามหลังหนังไอ้แมงมุมภาคก่อน อย่าง Spider-Man: Far From Home ที่ 238 ล้านบาท)
อีกหนึ่งเรื่องที่ยังคงอยู่ที่เดิมเช่นกัน คือหนังภาคต้นของจักรวาล Kingsman อย่าง The King’s Man อยู่ในอันดับที่ 2 กับรายได้สุดสัปดาห์นี้ที่ทำไปอีก 3.57 ล้านบาท (ลดลงจากสุดสัปดาห์แรก 58%) และทำเงินรวมสองสัปดาห์ไปแล้ว 15.75 ล้านบาท (ขยับขึ้นมาอยู่อันดับที่ 13 หนังทำเงินสูงสุดของบ้านเราเมื่อปีก่อน)
หนังใหม่ที่เปิดตัวได้สูงที่สุดประเดิมปี 2565 คืออนิเมะฉบับหนังโรงภาคที่สามของก๊วนนักเรียนโรงเรียนซูเปอร์ฮีโร่ อย่าง My Hero Academia: World Heroes’ Mission เข้ามาในอันดับที่ 3 กับรายได้สุดสัปดาห์แรกที่ทำได้ 3.04 ล้านบาท กลายเป็นหนังญี่ปุ่น (และหนังเอเชีย) ทำเงินเปิดตัวสุดสัปดาห์แรกสูงอันดับ 3 ของบ้านเราในรอบ 2 ปีนี้ (ตามหลังหนังของยอดนักสืบจิ๋วโคนันทั้งสองเรื่อง อย่าง Detective Conan: The Scarlet Bullet และ Detective Conan: The Scarlet Alibi ที่ 4.8 และ 3.5 ล้านบาท ตามลำดับ) รวมทั้งเปิดตัวสูงเป็นอันดับ 6 ในกลุ่มหนังญี่ปุ่นที่เข้าฉายในบ้านเรารอบ 3 ปี (ตามหลังหนังภาคก่อน อย่าง My Hero Academia: Heroes Rising ที่ 3.2 ล้านบาท) และเปิดตัวสูงเป็นอันดับ 2 ในกลุ่มหนัง My Hero Academia ที่เข้าฉายในบ้านเราอีกด้วย (ตามหลังภาคก่อนหน้า อย่าง My Hero Academia: Heroes Rising อีกเช่นกัน)

ขณะที่หนังไทยสุดฮิต อย่าง 4Kings ยังคงอยู่อันดับที่ 4 เช่นเดิมในสัปดาห์นี้ กับรายได้ที่ทำไปอีก 1.29 ล้านบาท (ลดลงจากสุดสัปดาห์ก่อน 62%) ซึ่งเป็นหนังเรื่องแรกในรอบปีก่อนและในรอบ 2 ปี ที่ทำรายได้สุดสัปดาห์ที่ห้าเกินหลักล้านขึ้นมาได้ (แซงสถิติเดิมของ Mulan ซึ่งเคยทำเอาไว้ใกล้เคียงที่สุด ที่ 9.5 แสนบาท) และทำเงินรวมห้าสัปดาห์ไปแล้ว 64.44 ล้านบาท
ส่วนหนังใหม่อีกสามเรื่องที่เปิดตัวเข้ามาใน Top 10 สุดสัปดาห์นี้ ประกอบไปด้วย หนังดัดแปลงจากวรรณกรรมเยาวชนสุดคลาสสิกต้อนรับวันเด็ก อย่าง เจ้าสุนัขสีแดงตัวยักษ์ Clifford the Big Red Dog ทำเงินเปิดตัวสุดสัปดาห์แรกในบ้านเราไป 1.15 ล้านบาท

หนังสยองขวัญเกาหลี อย่าง แมนชั่นผีดุ Ghost Mansion ทำเงินเปิดตัวสุดสัปดาห์แรกในบ้านเราไป 9.6 แสนบาท ซึ่งเป็นรายได้เปิดตัวสุดสัปดาห์แรกสูงที่สุดในกลุ่มหนังผีเกาหลีที่เข้าฉายในบ้านเรารอบ 3 ปีนี้ (เอาชนะโรงแรมผี Lingering ที่ 8.5 แสนบาท)

และผลงานเรื่องล่าสุดของพระเอกเจ้าบทบาท Nicolas Cage ที่กวาดคำชมไปมากมาย อย่าง Pig ทำเงินเปิดตัวสุดสัปดาห์แรกในบ้านเราไป 2.9 แสนบาท

Top 10 สุดสัปดาห์แรกของปี 2565 ทำเงินรวมกันไปทั้งสิ้น 23.3 ล้านบาท
ลดลงจาก Top 10 สุดสัปดาห์ก่อน 62% (62.8 ล้านบาท)
แต่ยังคงเพิ่มขึ้นจาก Top 10 สุดสัปดาห์เดียวกันเมื่อปีก่อนถึง 320% (5.5 ล้านบาท)
ซึ่งเป็นสุดสัปดาห์ที่ไม่มีหนังใหม่เข้าฉาย จึงทำให้หนังแอ็กชั่น-ผจญภัยจากเกมชื่อดัง อย่าง Monster Hunter ยังคงครองแชมป์ต่อเป็นสมัยที่สองที่รายได้ 2 ล้านบาท

อ้างอิงตัวเลขรายได้จาก – ชมรมวิจารณ์บันเทิง