วันพฤหัสที่ผ่านมา มีหนังใหม่เบียดกันเข้าฉายในบ้านเราจนแน่นโปรแกรมถึง 10 เรื่องเลยทีเดียว แต่เรื่องที่ได้รับความสนใจจากคนดูมากที่สุดคงหนีไม่พ้นหนังสยองขวัญร่วมทุนจากค่าย GDH อย่าง ร่างทรง ผลงานเรื่องล่าสุดของผู้กำกับโต้ง บรรจง ปิสัญธนะกูล ที่ได้เข้าฉายในบ้านเราเป็นที่เรียบร้อยแล้ว หลังจากออกเดินทางสร้างความหลอนและทำสถิติใหม่ๆ ให้กับหนังไทยในหลายประเทศแถบเอเชียมาก่อนหน้านี้แล้ว ทำเงินเปิดตัววันแรกในเขตกรุงเทพฯ, ปริมณฑล และเชียงใหม่ไปที่ 3.68 ล้านบาท (และทำเงินรวมทั่วประเทศวันแรกไปทั้งสิ้น 8.69 ล้านบาท) ขึ้นแท่นเป็นหนังไทยเปิดตัวสูงที่สุดของปีนี้ไปอย่างไม่ยากเย็นนัก (แซง บอสฉัน..ขยันเชือด ซึ่งทำรายได้รวมสี่วันสุดสัปดาห์ไป 2.6 ล้านบาท) รวมทั้งทำรายได้เปิดตัววันแรกสูงเป็นอันดับ 4 ของปีนี้ (ตามหลัง Fast & Furious 9 ที่ 4.7 ล้านบาท) และเปิดตัววันแรกสูงเป็นอันดับ 2 ในกลุ่มหนังไทยที่เข้าฉายรอบสองปีนี้อีกด้วย (เฉือนเอาชนะสองหนังไทยสุดฮิตประจำปีก่อน อย่าง อ้ายคนหล่อลวง และ อีเรียมซิ่ง ที่ 3.67 และ 3.64 ล้านบาท ตามลำดับ และตามหลังหนังภาคต่อ พี่นาค 2 ที่ 3.9 ล้านบาทเพียงเรื่องเดียว)

แชมป์เก่าเมื่อสุดสัปดาห์ก่อน อย่างหนังรถซิ่งภาคต่อ Fast & Furious 9 ทำเงินวันพฤหัสที่ผ่านมาไปอีก 1.35 ล้านบาท (ลดลงจากวันแรก 71%) และทำเงินรวมแปดวันไปแล้วทั้งสิ้น 27.87 ล้านบาท ซึ่งใกล้เคียงกับที่หนังซูเปอร์ฮีโร่ Marvel อย่าง Shang-Chi and the Legend of the Ten Rings ทำได้เมื่อสัปดาห์ก่อน (ทำเงินรวมแปดวันไป 27.7 ล้านบาท) และกระโดดเข้าสู่ Top 5 หนังปี 2564 ทำเงินสูงที่สุดในบ้านเราได้แล้ว (มาอยู่อันดับที่ 5)

ขณะที่หนังมหากาพย์ไซไฟจากนิยายขึ้นหิ้ง อย่าง Dune ยังคงประคองตัวเอาไว้ได้ค่อนข้างดี จากรายได้วันพฤหัสที่ทำไปอีก 6.3 แสนบาท (ลดลงจากวันแรกไม่ถึงครึ่ง ที่ 47%) และทำเงินรวมแปดวันไปแล้ว 9.23 ล้านบาท ก้าวเข้าสู่ Top 10 หนังปี 2564 ทำเงินสูงที่สุดในบ้านเราเรียบร้อยแล้ว (อยู่อันดับที่ 9)

ด้านหนังซูเปอร์ฮีโร่เอเชียจากค่าย Marvel อย่าง Shang-Chi and the Legend of the Ten Rings ทำเงินเมื่อวันพฤหัสที่ผ่านมาไปอีก 5.8 แสนบาท (ลดลงวันวันพฤหัสที่แล้ว 57%) และทำเงินรวมสิบหกวันไปแล้ว 38.45 ล้านบาท กลายเป็นหนังทำรายได้รวมสูงที่สุดนับตั้งแต่โรงหนังในเขตกรุงเทพฯ, ปริมณฑล และเชียงใหม่กลับมาเปิดให้บริการอีกครั้งเป็นที่เรียบร้อยแล้ว (แซงหนัง James Bond ภาคล่าสุด อย่าง No Time To Die ซึ่งทำเงินรวมยี่สิบสองวันไปทั้งสิ้น 37.26 ล้านบาท) และขยับขึ้นมาอยู่อันดับที่ 3 หนังปี 2564 ทำเงินสูงที่สุดในบ้านเราได้แล้วเช่นกัน (ตามหลังหนังแอนิเมชั่น Raya and the Last Dragon ที่ 44 ล้านบาทอีกอีกไม่มากนัก)

ส่วนหนังใหม่อีก 4 เรื่องที่เปิดตัวเข้ามาใน Top 10 หนังทำเงินเมื่อวันพฤหัสที่ผ่านมา ประกอบไปด้วยหนังสยองขวัญจากค่าย Ghost House อย่าง The Unholy ทำเงินเปิดตัววันแรกในบ้านเราไป 1.8 แสนบาท กลายเป็นหนังสยองขวัญต่างประเทศทำเงินเปิดตัววันแรกสูงสุดของบ้านเราปีนี้ (แทนที่ The Conjuring: The Devil Made Me Do It ซึ่งทำเงินวันแรกในเขตกรุงเทพฯ, ปริมณฑล และเชียงใหม่ไป 1.5 แสนบาท)

หนังแอ็กชั่นซิ่งรถบรรทุกในดินแดนหนาวเหน็บ The Ice Road ผลงานเรื่องที่สองที่ได้เข้าฉายในบ้านเราปีนี้ของนักแสดงรุ่นเก๋า Liam Neeson (ถัดจาก The Marksman เมื่อช่วงต้นปี) ทำเงินเปิดตัววันแรกไป 9.7 หมื่นบาท

หนังไทยเรื่องใหม่อีกหนึ่งเรื่องจากค่ายไฟว์สตาร์ อย่าง โกงพลิกเกม ที่ได้นักร้องเสียงดี คุณทอม อิศรา มาประเดิมจอใหญ่เป็นครั้งแรก ร่วมกับแร็ปเปอร์ชื่อดัง คุณโต้ง พิทวัส และนักแสดงหญิงมาแรง คุณพลอย พลอยไพลิน ทำเงินเปิดตัววันแรกไป 5.9 หมื่นบาท

และหนังดราม่าย้อนยุค รวมดารามากฝีมือ อย่าง The Last Duel ผลงานเรื่องล่าสุดของผู้กำกับ Ridley Scott ซึ่งได้เข้าฉายในวงที่ค่อนข้างจำกัดอยู่พอสมควร ทำเงินเปิดตัววันแรกในบ้านเราไป 4.1 หมื่นบาท

อ้างอิงตัวเลขรายได้จาก – ชมรมวิจารณ์บันเทิง