สุดสัปดาหืนี้ ถึงคิวของหนังอนิเมะภาคปิดตำนานที่หลายๆ คนรอคอย อย่าง Digimon Adventure: Last Evolution Kizuna ก้าวขึ้นมาคว้าแชมป์ประจำสุดสัปดาห์ไปครองได้ตามคาด (ถือเป็นครั้งแรกในรอบเกือบสองทศวรรษ ที่หนังเอเชียสามารถคว้าตำแหน่งแชมป์ในบ้านเราได้ถึงสามสัปดาห์ติดต่อกัน) ด้วยรายได้เปิดตัวสุดสัปดาห์แรก 2.84 ล้านบาท ซึ่งเป็นรายได้เปิดตัวสุดสัปดาห์แรกสูงอันดับ 2 นับตั้งแต่โรงหนังในบ้านเรากลับมาเปิดให้บริการอีกครั้ง และสูงเป็นอันดับที่ 2 ในกลุ่มหนังญี่ปุ่นที่เข้าฉายในบ้านเราปีนี้ (ตามหลัง My Hero Academia: Heroes Rising เพียงเรื่องเดียวเช่นเดิม ที่ 7 แสนบาท) รวมทั้งกระโดดเข้าสู่ Top 5 หนังแอนิเมชั่นเปิดตัวสูงที่สุดของปีนี้ด้วยเช่นกัน (อยู่อันดับที่ 4 ตามหลัง Onward , My Hero Academia: Heroes Rising และ Spies in Disguise)

หนังสยองขวัญสัญชาติไต้หวัน อย่าง The Bridge Curse ตามมาในอันดับที่ 2 กับรายได้เปิดตัวสุดสัปดาห์แรกในบ้านเรา 1.06 ล้านบาท กลายเป็นหนังสยองขวัญเอเชียเรื่องแรกของปีนี้ที่เปิดตัวสุดสัปดาห์แรกเกินหลักล้านบาท (ใกล้เคียงที่สุดก่อนหน้านี้ คือหนังสยองสัญชาติเกาหลี อย่าง The Closet ซึ่งเปิดตัวสุดสัปดาห์แรกไป 7 แสนบาท) , เป็นหนังเอเชียเปิดตัวสูงอันดับที่ 7 ของปีนี้ และใช้เวลาเพียงสัปดาห์เดียว กลายเป็นหนังไต้หวันทำเงินเกินหลักล้านเรื่องแรกของบ้านเราในรอบหลายปีที่ผ่านมา

แชมป์เก่าสองสมัยอย่างหนังอนิเมะ My Hero Academia: Heroes Rising โดนเบียดลงมาอยู่อันดับที่ 3 กับรายได้สุดสัปดาห์นี้ที่ทำไปอีก 5.2 แสนบาท (ลดลงจากสุดสัปดาห์ก่อน 61%) และทำเงินรวมสิบห้าวันไปแล้ว 7.36 ล้านบาท กระโดดเข้าสู่ Top 10 หนังอนิเมะญี่ปุ่นทำเงินสูงสุดในรอบสี่ปีนี้ได้แล้ว (อยู่อันดับที่ 10 พอดี แทนที่หนังยอดนักสืบจิ๋วโคนันเมื่อสองปีก่อน อย่าง Detective Conan: Zero the Enforcer ที่ 7 ล้านบาท)
หนังซอมบี้เกาหลีสุดฮิต อย่าง Train to Busan ทำเงินจากการกลับมาเข้าฉายอีกครั้งในสัปดาห์นี้ไปอีก 4.7 แสนบาท ซึ่งเป็นรายได้เปิดตัวสุดสัปดาห์แรกของหนังเก่าที่กลับมาฉายใหม่ สูงที่สุดนับตั้งแต่โรงหนังบ้านเรากลับมาเปิดให้บริการอีกครั้ง (ร่วมกับหนังอนิเมะระดับตำนาน อย่าง Akira ที่เคยเปิดตัวเอาไว้ 4.7 แสนบาทเท่ากัน) และทำรายได้รวมกับการเข้าฉายครั้งก่อนไปแล้ว 75 ล้านบาท
ส่วนในกลุ่มหนังไทยหลายเรื่องที่เข้าฉายมาแล้วหลายสัปดาห์ ยังคงเรียกคนดูเข้าโรงได้จำนวนไม่น้อยจากโปรโมชั่นราคาตั๋วหนังที่ถูกลง ทั้งหนังปักษ์ใต้อารมณ์ดี อย่าง มนต์รักดอกผักบุ้ง เลิกคุยทั้งอำเภอ ที่ทำเงินสุดสัปดาห์นี้ไปอีก 4.3 แสนบาท (ลดลงจากสุดสัปดาห์ก่อนเพียง 43%) ซึ่งเป็นรายได้สุดสัปดาห์ที่สี่ สูงอันดับ 5 ของปีนี้ (ตามหลัง Birds of Prey เล็กน้อย ที่ 4.6 แสนบาท) และทำเงินรวมสี่สัปดาห์ไปแล้ว 6.57 ล้านบาท
หรือหนังสยองขวัญ อย่าง Check-in Shock เกมเซ่นผี ทำเงินสุดสัปดาห์นี้ไปอีก 2.9 แสนบาท (ซึ่งเพิ่มขึ้นจากสุดสัปดาห์ก่อน 7%!!) และทำเงินรวมสามสัปดาห์ไปแล้ว 1.92 ล้านบาท
กระทั่งหนังขายความฮาที่เข้าฉายมานานเกือบสองเดือน อย่าง พจมาน สว่างคาตา ก็สร้างเซอร์ไพรส์ กระโดดกลับเข้ามาสู่ Top 10 ประจำสุดสัปดาห์ได้อีกครั้ง กับรายได้สุดสัปดาห์นี้ที่ทำไปอีก 3.3 แสนบาท (ขึ้นแท่นเป็นหนังทำรายได้สุดสัปดาห์ที่เจ็ดสูงสุดของปีนี้ แทนที่อีกหนึ่งหนังไทย อย่าง Low Season สุขสันต์วันโสด ที่ 2.5 แสนบาท) และทำเงินรวมเจ็ดสัปดาห์ไปแล้ว 8.26 ล้านบาท
ด้านหนังไทยเรื่องใหม่ประจำสัปดาห์นี้ อย่าง รักข้ามคาน ทำเงินเปิดตัวสุดสัปดาห์แรกไป 1.7 แสนบาท ซึ่งสูงเป็นอันดับ 4 ในกลุ่มหนังไทยที่เข้าฉายหลังโรงหนังกลับมาเปิดให้บริการอีกครั้ง

หนังนักฆ่าไตรภาค John Wick ที่กลับมาฉายในโรงอีกครั้งครบทั้งสามภาค ภาคที่เปิดตัวสูงที่สุดในสัปดาห์นี้ ยังคงเป็นภาคที่ทำเงินรวมสูงที่สุดในบ้านเรา อย่าง John Wick: Chapter 3 – Parabellum ซึ่งทำเงินสุดสัปดาห์นี้ไป 1.6 แสนบาท และทำเงินรวมจากการเข้าฉายครั้งก่อนไปแล้ว 120 ล้านบาท
และหนังฝรั่งเศสของผู้กำกับดีกรีผู้ชนะรางวัลออสการ์ อย่าง The Lost Prince เปิดตัวสุดสัปดาห์แรกในบ้านเราไป 1.1 แสนบาท ซึ่งยังคงใกล้เคียงกับผลงานเรื่องก่อนหน้าของพระเอก Omar Sy อย่าง Belleville Cop (เคยเปิดตัวเอาไว้ที่ 1.9 แสนบาท)

Top 10 สุดสัปดาห์นี้ ทำเงินรวมกันไปทั้งสิ้น 6.3 ล้านบาท
เพิ่มขึ้นจาก Top 10 สุดสัปดาห์ก่อน 41% (4.5 ล้านบาท)
แต่ยังคงลดลงจาก Top 10 สุดสัปดาห์เดียวกันของปีก่อน 89% (60 ล้านบาท)
ซึ่งเป็นสุดสัปดาห์ที่หนังเวอร์ชั่นใหม่ของเจ้าป่า The Lion King ขึ้นครองบัลลังก์ในบ้านเรา ด้วยรายได้เปิดตัว 40 ล้านบาท
