ด้วยความที่มีหนังใหม่เข้าฉายในวงกว้างจำนวนไม่มากนักเมื่อวันพฤหัสที่ผ่านมา จึงกลายเป็นโอกาสทองให้หนังอนิเมะเรื่องดัง อย่าง My Hero Academia: Heroes Rising ยังคงครองบัลลังก์แชมป์หนังทำเงินต่อไป จากรายได้วันพฤหัสนี้ที่ทำไปอีก 2.2 แสนบาท (ลดลงจากวันพฤหัสแรก 69%) ซึ่งเป็นรายได้วันพฤหัสสุดสัปดาห์ที่สองสูงที่สุดนับตั้งแต่โรงหนังกลับมาเปิดให้บริการอีกครั้ง เท่ากับหนังไทยขายความฮา พจมาน สว่างคาตา (ทำเงินไป 2.2 แสนบาทเหมือนกัน) และทำเงินรวมแปดวันไปแล้ว 5.27 ล้านบาท แซงหนังไทย มนต์รักดอกผักบุ้ง เลิกคุยทั้งอำเภอ (ทำเงินรวมถึงวันพฤหัสที่ผ่านมาไป 5.22 ล้านบาท) ขึ้นมาอยู่อันดับที่ 2 หนังทำเงินสูงสุดในบ้านเรานับตั้งแต่โรงหนังกละบมาเปิดให้บริการอีกครั้ง
หนังใหม่เปิดตัวได้สูงที่สุดเมื่อวันพฤหัสที่ผ่านมา คือหนังซอมบี้แหวกแนวสัญชาติแคนาดา อย่าง Quantum Blood เปิดตัววันแรกในบ้านเราไป 1.5 แสนบาท โดยหนังซอมบี้ที่เปิดตัวได้ใกล้เคียงกันก่อนหน้านี้คือหนังซอมบี้แหวกแนว อย่าง Little Monsters ที่เปิดตัววันแรกไป 2 แสนบาท
นอกจาก My Hero Academia ยังมีหนังญี่ปุ่นเรื่องใหม่อีก 2 เรื่องที่เปิดตัวเข้ามาใน Top 10 เมื่อวันพฤหัสที่ผ่านมาอีกด้วย ทั้งหนังครอสโอเวอร์ของไรเดอร์สองยุค อย่าง Kamen Rider Zi-O (ยุคเฮเซ) และ Kamen Rider Zero-One (ยุคเรวะ) ใน Kamen Rider Reiwa: The First Generation เปิดตัววันแรกในบ้านเราไป 9.2 หมื่นบาท กลายเป็นหนังคนแสดงญี่ปุ่นทำเงินวันแรกสูงสุดในบ้านเราปีนี้ (มากกว่า Show Me The Way To The Station ที่เคยทำเอาไว้ 4.8 หมื่นบาทเกือบเท่าตัว) แต่ยังตามหลังหนังรวมพลไรเดอร์ยุคเฮเซเมื่อปีก่อน อย่าง Kamen Rider Heisei Generations FOREVER อยู่พอสมควร (เปิดตัววันแรกเอาไว้ที่ 3 แสนบาท)
อีกหนึ่งเรื่องคือหนังโรแมนติก-แฟนตาซี เคล้าเสียงเพลง อย่าง Our 30 Minute Sessions ผลงานเรื่องใหม่จากผู้เขียนบท The 100th Love With You ทำเงินเปิดตัววันแรกในบ้านเราไป 5.5 หมื่นบาท โดยเป็นการกลับมาร่วมจอกันอีกครั้งของสองนักแสดงหนุ่ม แมคเคนยู อาราตะ และ ทาคุมิ คิทามูระ ถัดจากเรื่อง Over Drive เมื่อสองปีก่อน (เปิดตัววันแรกในบ้านเราไป 3.7 หมื่นบาท)
ส่วนกลุ่มหนังเก่าที่เคยเข้าฉายไปแล้วช่วงก่อนโรงหนังจะหยุดให้บริการ หนึ่งเรื่องที่กลับมาฉายใหม่ในสัปดาห์นี้คือหนังแอนิเมชั่นเรื่องล่าสุดจากค่าย Pixar อย่าง Onward ทำเงินวันแรกจากการกลับมาฉายอีกครั้งไป 3.9 หมื่นบาท (ลดลงจากวันพฤหัสก่อนหน้าที่โรงฉายจะหยุดให้บริการไป 77%)
และอีกเรื่องที่เข้าฉายไปตั้งแต่สัปดาห์ก่อน อย่าง Jojo Rabbit ทำเงินเมื่อวันพฤหัสที่ผ่านมาไปอีก 2.9 หมื่นบาท (ลดลงจากวันวันพฤหัสที่แล้วเพียง 38%) ทำเงินรวมจากการกลับมาฉายใหม่แปดวันไป 5.4 แสนบาท และทำเงินรวมตั้งแต่การเข้าฉายครั้งก่อนในบ้านเราทะลุหลักล้านเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
