เข้าสู่วันพฤหัสพร้อมกับหนังใหม่อีกล็อตใหญ่ แต่ตำแหน่งแชมป์ยังคงเป็นของหนังซูเปอร์ฮีโร่ของพระเอก Vin Diesel อย่าง Bloodshot ที่ชิงออกตัวก่อนใครเพื่อนไปตั้งแต่วันพุธที่ผ่านมา โดยทำเงินวันพฤหัสนี้ไปอีก 2.42 ล้านบาท (ลดลงจากวันแรก 25%) ซึ่งเป็นรายได้วันพฤหัสแรกสูงอันดับ 6 ของปีนี้ (ตามหลัง Low Season สุขสันต์วันโสด ไม่มากนัก ที่ 2.47 ล้านบาท) และทำเงินรวมสองวันไปแล้ว 5.65 ล้านบาท

ส่วนในกลุ่มหนังเข้าใหม่เมื่อวันพฤหัสที่ผ่านมา เรื่องที่เปิดตัววันแรกได้สูงที่สุดคือหนังหลอนภาคต่อ อย่างตุ๊กตาซ่อนผี Brahms: The Boy II ที่ภาคแรกเคยทำเงินไปแบบเกินคาด (จากกระแสลูกเทพที่กำลังดังในช่วงนั้นพอดี) มาแล้ว โดยภาคนี้เปิดตัววันแรกในบ้านเราไป 8.2 แสนบาท ลดลงจากที่ The Boy ภาคแรกเคยทำเอาไว้ (2 ล้านบาท) พอสมควร

แชมป์เก่าเมื่อสุดสัปดาห์ก่อน อย่าง The Invisible Man ทำเงินวันพฤหัสนี้ไปอีก 2.6 แสนบาท (ลดลงจากวันพฤหัสแรก 80%) และทำเงินรวมแปดวันไปแล้ว 8.96 ล้านบาท ซึ่งถือเป็นตัวเลขที่ค่อนข้างใกล้เคียงกับหนังอีกหนึ่งเรื่องจากค่าย Blumhouse อย่าง Halloween อยู่พอสมควร (ทำเงินวันพฤหัสสุดสัปดาห์ที่สองเอาไว้ที่ 2.7 แสนบาท และทำรายได้รวมแปดวันแบบไม่รวมกับรอบพิเศษหนึ่งสัปดาห์ก่อนหน้านั้นไป 9 ล้านบาท)

อีกหนึ่งหนังใหม่ประจำสุดสัปดาห์นี้ กับหนังพยัคฆ์ร้าย น่ารักปนฮา อย่าง My Spy ผลงานเรื่องใหม่ของพระเอกกล้ามโต Dave Bautista ที่เปิดตัววันแรกในบ้านเราไป 1.8 แสนบาท ซึ่งถือว่าลดลงมาจากหนังขายแอ็กชั่นแนวถนัดของพระเอกกล้ามโตคนนี้อยู่บ้าง (หากไม่นับ Avengers: Engame เมื่อปีก่อน ผลงานเรื่องก่อนหน้าของ Dave Bautista อย่าง Master Z: The Ip Man Legacy และ Final Score เคยเปิดตัววันแรกเอาไว้ที่ 4 แสนบาท) แต่เมื่อเทียบกับผลงานขายความน่ารักของอีกหนึ่งพระเอกกล้ามโต John Cena ในปีนี้เช่นกัน อย่าง Playing With Fire ก็ถือว่าทำได้ไม่ห่างกันมากเท่าไหร่นัก (เปิดตัววันแรกในวงค่อนข้างจำกัด ที่ 7 หมื่นบาท)

หนังแอนิเมชั่นจากค่าย Pixar อย่าง Onward ทำเงินวันพฤหัสนี้ไปอีก 1.7 แสนบาท (ลดลงจากวันพฤหัสแรก 83%) และทำเงินรวมแปดวันไปแล้ว 6 ล้านบาทพอดี แม้จะอยู่ห่างจากตำแหน่งหนังแอนิเมชั่นทำเงินสูงสุดของปีนี้อีกไม่มาก (ห่างจากรายได้รวมของ Spies in Disguise อีกเพียงล้านกว่าบาท) แต่โอกาสที่จะทำเงินทะลุหลักสิบล้านบาทดูเหมือนจะยากขึ้นไปทุกทีแล้ว

หนังใหม่อีกสามเรื่อง สามแนว เริ่มกันที่หนังตลกร้ายบรรยากาศสงครามโลก Jojo Rabbit ผลงานที่ส่งให้ผู้กำกับ Taika Waititi คว้ารางวัลออสการ์สาขาบทภาพยนตร์ดัดแปลงยอดเยี่ยมในปีนี้ไปครอง เปิดตัววันแรกแบบจำกัดโรงมากๆ (สิบโรงฉาย) ในบ้านเราไป 9.6 หมื่นบาท

ภาคต่อของหนังไทยแนวดราม่า-โรแมนติก อย่าง Present Still Perfect แค่นี้..ก็ดีแล้ว 2 ที่ยังคงได้สองนักแสดงหนุ่ม อย่างคุณไอซ์ อดิศร โทณะวณิก และคุณโจ๊ก กฤษณะ มฤคสนธิ กลับมาสานต่อเรื่องราวจากภาคที่แล้ว เปิดตัววันแรกในวงค่อนข้างจำกัดไป 8 หมื่นบาท โดย Present Perfect ภาคแรก เปิดตัววันแรกเมื่อ 3 ปีก่อน ที่ 3 หมื่นบาท

และหนังญี่ปุ่น ผลงานเรื่องล่าสุดของผู้กำกับ Iwai Shunji อย่าง Last Letter เปิดตัววันแรกในวงจำกัดไป 4.7 หมื่นบาท