สถานการณ์การแพร่ระบาดของ COVID-19 ส่งผลให้โรงหนังในบ้านเรายังคงเงียบเหงาอย่างต่อเนื่อง ไม่เว่นแม่กระทั่งเจ้าของตำแหน่งแชมป์ประจำสุดสัปดาห์นี้ อย่าง Sonic the Hedgehog ที่เข้าป้ายอันดับหนึ่งด้วยรายได้เปิดตัวไม่สูงมากนัก ที่ 7 ล้านบาท ซึ่งเป็นหนังเรื่องที่ 2 ของปีนี้ที่คว้าตำแหน่งแชมป์ประจำสุดสัปดาห์ด้วยรายได้ต่ำกว่าหลักสิบล้านบาท (ต่อจากหนังฮิตข้ามปี Jumanji: The Next Level ที่คว้าแชมป์ในสุดสัปดาห์ที่สามด้วยรายได้ 8 ล้านบาท) รวมไปถึงเปิดตัวได้น้อยกว่าหนังคนแสดงดัดแปลงจากเกมชื่อดังในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาอยู่พอสมควร (หากนับเฉพาะในรอบสามปีที่ผ่านมา เจ้าเม่นโซนิคเปิดตัวสูงเป็นลำดับที่ 4 ตามหลังอีกสามเรื่องซึ่งทำเอาไว้มากกว่าหลักยี่สิบล้านบาท) แต่อย่างน้อยๆ เจ้าเม่นโซนิค ก็กลายเป็นหนังเปิดตัวสุดสัปดาห์แรกสูงสุดในรอบ 17 ปี ของนักแสดงตลกชื่อดัง Jim Carrey นับตั้งแต่หนังตลกสุดฮิต Bruce Almighty (เคยทำเอาไว้ที่ 23 ล้านบาท) เลยทีเดียว

แชมป์เก่าเมื่อสุดสัปดาห์ก่อน อย่างหนังไทยภาคต่อ พี่นาค 2 ยังอยู่ในเส้นทางไล่ล่าตำแหน่งหนังทำเงินสูงสุดของปีนี้อยู่ จากรายได้สุดสัปดาห์นี้ไปอีก 6.06 ล้านบาท (ลดลงจากสุดสัปดาห์ก่อน 62%) ซึ่งเป็นรายได้สุดสัปดาห์ที่สองสูงอันดับ 2 ของปีนี้ (เป็นรอง Low Season สุขสันต์วันโสด เพียงเรื่องเดียว ที่ 7 ล้านบาท) และทำเงินรวมสองสัปดาห์ไปแล้ว 29.06 ล้านบาท (มากกว่า Low Season สุขสันต์วันโสด ซึ่งทำเงินรวมสองสัปดาห์เอาไว้ที่ 27 ล้านบาท)

แต่ที่ไม่ต้องลุ้นแล้ว คืออีกหนึ่งหนังไทย อย่าง Low Season สุขสันต์วันโสด ที่ทำเงินสุดสัปดาห์นี้ไปอีก 3.35 ล้านบาท (ลดลงจากสุดสัปดาห์ก่อน 52%) ซึ่งเป็นรายได้สุดสัปดาห์ที่สามสูงที่สุดของปีนี้ (แชมป์เก่าอย่างหนังสงครามโลก 1917 เคยทำเอาไว้เกือบ 3 ล้านบาท) และทำเงินรวมสามสัปดาห์ไปแล้ว 34.38 ล้านบาท คว้าตำแหน่งหนังทำเงินสูงสุดของปีนี้มาจาก Birds of Prey (ที่เพิ่งจะได้นั่งบัลลังก์หนังทำเงินสูงสุดของปีเพียงไม่กี่วันก่อนหน้านี้เอง โดยล่าสุดทำเงินรวมไป 32.82 ล้านบาท) ได้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว

ส่วนหนังใหม่อีกสามเรื่องที่อันดับตามกันมาติดๆ เริ่มกันที่หนังดัดแปลงจากวรรณกรรม อย่าง The Call of The Wild เปิดตัวสุดสัปดาห์แรกในบ้านเราไป 2.73 ล้านบาท ซึ่งยังคงเพิ่มขึ้นจากหนังเกี่ยวกับสุนัขหลายๆ เรื่องเมื่อปีก่อน ทั้ง The Art of Racing in the Rain (1.1 ล้านบาท) , A Dog’s Journey (1.8 ล้านบาท) และใกล้เคียงกับที่ A Dog’s Way Home เคยทำเอาไว้ (ที่ 2.9 ล้านบาท) แต่ทำเงินลดลงจากผลงานเรื่องก่อนของนักแสดงรุ่นเก๋า Harrison Ford อย่างหนังแอนิเมชั่นภาคต่อ The Secret Life of Pets 2 ซึ่งเคยเปิดตัวในบ้านเราเอาไว้ที่ 9 ล้านบาท

ตามมาด้วยอนิเมะสามมิติฉบับหนังโรงของจอมโจรลูแปงรุ่นที่สาม Lupin III: The First เปิดตัวสุดสัปดาห์แรกในบ้านเราไป 9.3 แสนบาท ขึ้นแท่นเป็นหนังญี่ปุ่นเปิดตัวสุดสัปดาห์แรกสูงสุดของปีนี้ไปอีกหนึ่งตำแหน่ง (แทนที่หนังอนิเมะ KonoSuba: God’s Blessing on this Wonderful World! Legend of Crimson ที่ 6 แสนบาท) รวมทั้งทำได้เพิ่มขึ้นจากหนังจอมโจรลูแปงเวอร์ชั่นคนแสดง อย่าง Lupin the 3rd ซึ่งเปิดตัวสุดสัปดาห์แรกในบ้านเราไป 1 แสนบาท แต่ยังไม่ถือว่าเป็นหนังจากตระกูลจอมโจรลูแปงเปิดตัวสูงสุดในบ้านเรา เพราะยังตามหลังหนังอนิเมะครอสจักรวาลระหว่างจอมโจรลูแปง กับเจ้าหนูยอดนักสืบโคนัน อย่าง Lupin the Third vs. Detective Conan The Movie เคยทำเอาไว้เมื่อ 6 ปีก่อนไป 1 ล้านบาท

และหนังสยองขวัญสัญชาติเกาหลี อย่างตู้นรก The Closet เปิดตัวสุดสัปดาห์แรกในบ้านเราไป 7.7 แสนบาท ยังคงเป็นหนังเกาหลีเปิดตัวสุดสัปดาห์แรกสูงอันดับ 3 ในบ้านเราปีนี้เช่นเคย (ตามหลัง Ashfall และ Secret Zoo ที่ 3 และ 1 ล้านบาท ตามลำดับ)

Top 10 สุดสัปดาห์นี้ ทำเงินรวมกันไปทั้งสิ้น 22 ล้านบาท (ซึ่งเป็นสุดสัปดาห์ที่ Top 10 ทำเงินรวมกันน้อยที่สุดในรอบปีนี้ และน้อยที่สุดในรอบ 58 สัปดาห์ที่ผ่านมา นับตั้งแต่สุดสัปดาห์ที่หนังเรื่อง Glass ครองแชมป์เป็นสมัยที่สอง โดยทั้ง Top 10 ทำเงินรวมกันไม่ถึงยี่สิบล้านบาท)

ลดลงจาก Top 10 สุดสัปดาห์ก่อน 29% (32 ล้านบาท)

และลดลงจาก Top 10 สุดสัปดาห์เดียวกันของปีก่อน 42% (39 ล้านบาท)

ซึ่งเป็นสุดสัปดาห์ที่แทบไม่มีหนังฟอร์มดีเข้าฉาย เพราะหลีกทางให้ Captain Marvel ที่จะมาในสัปดาห์หน้ากันหมด เลยเป็นโอกาสดีให้หนังไทยสยองปนฮาอย่าง พี่นาค ภาคแรก ยังคงครองแชมป์ต่อเนื่องเป็นสมัยที่สอง ด้วยรายได้ 12 ล้านบาท (โดยมีหนังอนิเมะ Fate/stay night: Heaven’s Feel II. lost butterfly เปิดตัวสูงที่สุดในกลุ่มหนังใหม่ที่ 1 ล้านบาท)