ถึงเวลาที่หนังฟอร์มเต็งล็อตแรกของปีนี้เริ่มเข้าฉายเรียกคนดูกันแล้ว ซึ่งก็เป็นไปตามคาด เมื่อตำแหน่งแชมป์ตกเป็นของ คุณหมอผู้ที่สามารถสื่อสารกับเหล่าสรรพสัตว์ได้ อย่าง Dolittle ทำรายได้เปิดตัววันแรกในบ้านเราไป 4.07 ล้านบาท กลายเป็นหนังเรื่องแรกของปีนี้ที่เปิดตัววันแรกทะลุหลักล้านในบ้านเรา และใช้เวลาเพียงวันเดียว ขึ้นแท่นเป็นหนังเปิดตัวสูดสัปดาห์แรกสูงสุดของปีนี้ได้แล้วด้วย (แซงหนังเกาหลี Ashfall ซึ่งทำเงินสี่วันสุดสัปดาห์แรกในบ้านเราไป 3.6 ล้านบาท) รวมไปถึงกลายเป็นหนังเปิดตัววันแรกในบ้านเราสูงสุดนอกจักรวาลหนังมาร์เวลของพระเอกชื่อดัง Robert Downey Jr. ในรอบหลายปีที่ผ่านมาอีกด้วย (นับตั้งแต่หนังภาคต่ออย่าง Sherlock Holmes: A Game of Shadows เคยทำเอาไว้เกือบหน้าล้านบาทเมื่อ 9 ปีก่อน)

อีกหนึ่งเรื่องที่เปิดตัวเกินหลักล้านในวันแรก คือ มฤตยูใต้ทะเลลึก Underwater เปิดตัววันแรกในบ้านเราไป 1.61 ล้านบาท ซึ่งใกล้เคียงกับที่อีกหนึ่งหนังระทึกใต้น้ำเมื่อปีก่อน อย่าง 47 Meters Down: Uncaged เคยทำเอาไว้ (1.9 ล้านบาท) และเปิดตัวได้ไม่ห่างจากผลงานเมื่อปีก่อนของนักแสดงสาว Kristen Stewart อย่าง Charlie’s Angels เวอร์ชั่นใหม่ไม่มากนัก (เปิดตัววันแรกไป 2.3 ล้านบาท)

แชมป์เก่าสามสมัย อย่าง Jumanji: The Next Level แม้จะร่วงลงมาถึงสองอันดับ แต่ดูเหมือนว่าจะได้รับผลกระทบจากบรรดาหนังฟอร์มเต็งไม่เยอะอย่างที่คิด โดยทำเงินวันพฤหัสนี้ไป 5.2 แสนบาท (ลดลงจากวันพฤหัสที่แล้วไม่ถึงครึ่ง ที่ 45%) และทำเงินรวมหนึ่งเดือนเต็มไปแล้ว 105.61 ล้านบาท กระโดดขึ้นมาอีกสองขั้น มาอยู่อันดับที่ 12 หนังทำเงินสูงสุดในบ้านเราประจำปี 2019 แทนที่ Aladdin (ที่ 105 ล้านบาท) ได้แล้ว

หนังใหม่แนวระทึกจากประเทศเวียดนาม อย่าง กุมารทอง ราคะ-เฮี้ยน Kumanthong เปิดตัววันแรกในบ้านเราไป 2.9 แสนบาท ซึ่งเป็นรายได้เปิดตัววันแรกที่สูงสุดในรอบห้าปีที่ผ่านมา สำหรับหนังจากกลุ่มประเทศ ASEAN ที่มาเข้าฉายในบ้านเราเลยก็ว่าได้ (อีกหนึ่งก่อนหน้านี้ที่เคยเข้าฉายในวงกว้างบ้านเรา คือหนังผีจากประเทศอินโดนีเซีย อย่าง Satan’s Slave เคยเปิดตัววันแรกเมื่อสองปีก่อนไป 1.6 แสนบาท)

ส่วนหนังใหม่แนวระทึกขวัญ อย่าง Who ปิดป่าหลอน ที่ได้พระเอกหนุ่มขวัญใจชาวโซเชี่ยว คุณแน็ก ชาลี ไตรรัตน์ มาเป็นจุดขายช่วยเรียกคนดู เปิดตัววันแรกไปที่รายได้ 2.6 แสนบาท โดยผลงานเรื่องก่อนหน้าของหนุ่มแน็กเมื่อปีก่อน อย่างหนังรวมศิลปินอีสาน ออนซอนเด เคยเปิดตัววันแรกตรงกับวันแรงงานแห่งชาติไปถึง 5 ล้านบาท

หนังแอนิเมชั่นจากค่าย Blu Sky อย่าง Spies in Disguise ทำเงินวันพฤหัสนี้ไปอีก 2.2 แสนบาท (ลดลงจากวันพฤหัสที่แล้วเกินครึ่งไปนิดหน่อย ที่ 53%) และทำเงินรวมสิบเจ็ดวันไปแล้ว 6.19 ล้านบาท ใกล้จะทำเงินแซงหนังแอนิเมชั่นเรื่องก่อนของค่าย Blue Sky อย่าง Ferdinand เมื่อสามปีก่อนในไม่ช้านี้แล้ว (ทำเงินไป 7 ล้านบาท)

หนึ่งในผู้เข้าชิงรางวัลออสการ์สาขาภาพยนตร์ยอดเยี่ยมในปีนี้ อย่าง Little Women ดูเหมือนจะได้รับอานิสงค์จากการเข้าชิงรางวัลใหญ่ไปพอสมควร จากรายได้วันพฤหัสนี้ที่เก็บไปอีก 2.2 ล้านบาท (ลดลงจากวันพฤหัสแรกครึ่งหนึ่งพอดีเป๊ะ ที่ 50%) และทำเงินรวมแปดวันไปแล้ว 3.56 ล้านบาท กลายเป็นหนังทำเงินสูงสุดในรอบ 7 ปีของนางเอกสาว Saoirse Ronan ไปแล้ว (นับตั้งแต่หนังดัดแปลงจากนิยายขายดีอย่าง The Host เคยทำเงินเอาไว้ในบ้านเรามากกว่าสิบล้านบาท)

หนังไทยจากค่าย GDH อย่าง ฮาวทูทิ้ง ทิ้งอย่างไร..ไม่ให้เหลือเธอ ทำเงินวันพฤหัสนี้ไปอีก 1.8 แสนบาท (ลดลงจากวันพฤหัสที่แล้ว 59%) และทำเงินรวม ยี่สิบสองวันไปแล้ว 55.86 ล้านบาท

และหนังมหันตภัยฟอร์มยักษ์จากเกาหลี อย่าง Ashfall ทำเงินวันพฤหัสนี้ไปอีก 1.5 แสนบาท (ลดลงจากวันพฤหัสแรก 79%) และทำเงินรวมแปดวันไปแล้ว 5.1 ล้านบาท กลายเป็นหนังเกาหลีที่ทำเงินทะลุหลักห้าล้านขึ้นมาได้ในบ้านเราเป็นเรื่องที่ 3 ในรอบ 2 ปีนี้ (ถัดจากหนังเต็งรางวัลอย่าง Parasite และหนังของวง BTS อย่าง Bring The Soul: The Movie)