ถึงแม้ภาพรวมของหนังไทยในปี 2019 ที่ผ่านมาจะได้รับความสนใจลดลงมาจากปี 2018 อยู่พอสมควร หากดูจาก Top 10 หนังไทยทำเงินสูงสุดของปีนี้ ที่มีหนังไทยที่ทำเงินทะลุหลัก 20 ล้านบาทเพียง 7 เรื่องเท่านั้น (ลดลงจากปี 2018 ที่มี 12 เรื่อง และเป็นปีที่ 3 ในรอบ 5 ปีหลังสุดที่หนังไทยทำเงินทะลุหลัก 20 ล้านบาท / ปีไม่ถึงสิบเรื่อง) แต่อย่างน้อยๆ ก็ยังมีหนังไทยที่ทำเงินแบบฮิตเซอร์ไพรส์หรือสร้างปรากฏการณ์ทางรายได้ให้เห็นกันอยู่ ซึ่งรวมไปถึงมีหนังไทยทำเงินทะลุหลัก 100 ล้านบาทในเขตกรุงเทพฯ, ปริมณฑล และเชียงใหม่ในปี 2019 ถึง 2 เรื่อง (เท่ากับปี 2018) และติด Top 10 หนังทำเงินสูงสุดในไทยประจำปี 2019 ได้ทั้งสองเรื่องอีกด้วย

ส่วน 10 อันดับหนังไทยทำเงินสูงสุดประจำปี 2019 มีเรื่องอะไรบ้างนั้น? มาติดตามกันต่อเลยครับ

อันดับ 10 – ฮาร์ทบีท เสี่ยงนัก…รักมั้ยลุง (18 ล้านบาท)

หนังรักต่างวัยจากค่าย Transformation ที่ได้นักแสดงชายมากความสามารถ คุณเคน ธีรเดช มาประกบคู่กับนักแสดงสาว คุณพรอยมน มนสภรณ์ ที่เพิ่งจะแจ้งเกิดจากหนังร้อยล้าน อย่าง น้อง.พี่.ที่รัก เมื่อหนึ่งปีก่อนหน้านั้น ซึ่งถึงแม้หนังจะเข้าฉายแบบปุบปับอยู่ซักหน่อย รวมไปถึงต้องฉายชนกับทั้งหนังไทยและหนังเทศฟอร์มเต็งในช่วงนั้นหลายเรื่อง แต่ท้ายที่สุดหนังก็ยังประคองรายได้จนเข้าสู่ Top 10 ของหนังไทยปีนี้ได้ในที่สุด ซึ่งเป็นปีที่ 2 ติดต่อกันของทั้งคุณเคน ธีรเดช (ต่อจากหนังเรื่อง The Pool นรก 6 เมตร ที่รั้งอันดับ 10 ของปี 2018 เอาไว้พอดีเหมือนกัน) และคุณพรอยมน มนสภรณ์ (ต่อจาก น้อง.พี่.ที่รัก ซึ่งทำเงินสูงเป็นอันดับ 2 ของหนังไทยในปี 2018)

อันดับ 9 – ออนซอนเด (19 ล้านบาท)

หนังรอมคอมรวมศิลปินจากแดนอีสานต้อนรับวันแรงงานแห่งชาติ ที่กลับมาสานต่อความสำเร็จจากหนังเรื่อง ฮักแพง ของทีมผู้สร้างและนักแสดงชุดเดียวกันเมื่อหนึ่งปีก่อนหน้านั้น ซึ่งถึงแม้จะต้องเข้าฉายไล่หนังยักษ์กระแสแรงอย่าง Avengers ถึงสองปีติด แต่ทั้งสองเรื่องก็ยังคงกวาดเงินจากช่วงวันแรงงานไปได้ไม่น้อย และทำรายได้รวมไปใกล้เคียงกันอีกด้วย (ฮักแพง ทำเงินรวมไปมากกว่านิดหน่อย ที่ 20 ล้านบาท แต่ไต่ขึ้นไปไม่ถึง Top 10 หนังไทยทำเงินสูงสุดของปี 2018)

อันดับ 8 – จอมขมังเวทย์ 2020 (23 ล้านบาท)

ภาคต่อของหนังแอ็กชั่น-ไสยเวทที่ทิ้งช่วงจากภาคแรกไปนานถึง 14 ปี แต่ยังคงได้ผู้กำกับท่านเดิม (คุณต้อม ปิยะพันธุ์) กลับมาร่วมงานกับนักแสดงจากภาคก่อน อย่างคุณนก ฉัตรชัย อีกครั้ง สมทบด้วยทีมนักแสดงรุ่นใหม่ซึ่งเป็นการขึ้นจอใหญ่ครั้งแรกของสองนักแสดงดังจากฝั่งโทรทัศน์ อย่างคุณ หมาก ปริณ และคุณก๊อต จิรายุ อีกด้วย ซึ่งกลายเป็นหนังไทยทำเงินสูงสุดของค่ายสหมงคลฟิล์มเมื่อปีที่ผ่านมา ถึงแม้ว่าภาคนี้จะทำเงินลดจากภาคแรกลงพอสมควรก็ตาม (จอมขมังเวทย์ ภาคแรกทำเอาไว้ที่ 39 ล้านบาท)

อันดับ 7 – ขุนแผน ฟ้าฟื้น (26 ล้านบาท)

หนังเรื่องใหม่ของผู้กำกับก้องเกียรติ โขมศิริ ที่จับเอาวรรณคดีไทยสุดอมตะ อย่าง ขุนช้าง ขุนแผน มาตีความใหม่เป็นหนังแอ็กชั่น-คอมเมดี้ใส่สารพัดมุข และได้พระเอกหนุ่ม มาริโอ้ เมาเร่อ (ซึ่งกลายเป็นเจ้าพ่อหนังย้อนยุคไปอีกหนึ่งคนแล้ว) มาช่วยเพิ่มสีสันให้กับเรื่องนี้ด้วย ซึ่งถึงแม้ว่า ขุนแผน ฟ้าฟื้น จะทำเงินเพิ่มขึ้นจากผลงานเรื่องก่อนหน้าที่ผู้กำกับก้องเกียรติ และคุณมาริโอ้ได้ร่วมงานกัน อย่าง Take Me Home สุขสันต์วันกลับบ้าน (14 ล้านบาท) และทำเงินสูงที่สุดในรอบ 6 ปีของหนุ่มมาริโอ้ (นับตั้งแต่หนังระดับปรากฏการณ์อย่าง พี่มาก..พระโขนง เป็นต้นมา)แต่หนังขุนแผนเวอร์ชั่นนี้ ถือว่าทำเงินลดลงมาจากหนัง ขุนแผน เวอร์ชั่นก่อนเมื่อ 17 ปีที่แล้วพอสมควรทีเดียว (ทำเอาไว้ที่ 53 ล้านบาท)

อันดับ 6 – ไบค์แมน 2 (35 ล้านบาท)

หลังจากภาคแรกกวาดทั้งคำชมและทำเงินไปแบบฮิตเกินคาดเพียงปีเดียว ทางค่ายก็ไม่ปล่อยให้แฟนๆ ของ ไบค์แมน ต้องคอยนาน รีบเข็นภาค 2 ออกมาสานต่อความสำเร็จกันอย่างรวดเร็ว ซึ่งยังคงได้ทีมนักแสดงจากภาคแรกมาเรียกเสียงฮากันแบบครบทีม พ่วงด้วยตัวละครใหม่ อย่างคุณเต๋า สมชาย มาช่วยสร้างสีสันอีกแรง โดยหนังทำสถิติเปิดตัววันแรกสูงเป็นอันดับ 3 ในกลุ่มหนังไทยปีนี้ และสูงกว่าภาคแรกเกือบเท่าตัวเลยทีเดียว (เข้าฉายวันแรกตรงกับวันหยุดวันปิยมหาราช) แต่รายได้รวมถือว่าลดลงมาจากภาคแรกพอสมควรอีกเช่นกัน (ภาคแรกทำเงินรวมไป 67 ล้านบาท)

อันดับ 5 – แสงกระสือ (39 ล้านบาท)

ตัวแทนหนังไทยลุ้นเช้าชิงรางวัลออสการ์สาขาภาพยนตร์ภาษาต่างประเทศยอดเยี่ยมเมื่อปีก่อน ถือเป็นหนังไทยอีกหนึ่งเรื่องที่ได้รับเสียงชื่นชมค่อนข้างมากเมื่อปีก่อน รวมไปถึงทีมนักแสดงรุ่นใหม่หลายท่าน อย่างสองหนุ่ม คุณโอบ โอบนิธิ , คุณเกรท สพล และหนึ่งสาว คุณมินนี่ ภัณฑิรา ที่ได้รับคำชมไปไม่น้อยเช่นกัน จนท้ายที่สุดหนังก็สามารถขึ้นแท่นเป็นหนังเกี่ยวกับผีกระสือ ทำเงินสูงสุดตลอดกาลในบ้านเรา และทำเงินสูงสุดในเครดิตของผู้กำกับสิทธิศิริ มงคลศิริ (แทนที่ Last Summer ฤดูร้อนนั้น ฉันตาย ที่ 29 ล้านบาท) อีกด้วย

อันดับ 4 – พี่นาค (53 ล้านบาท)

กลายเป็นหนังฮิตเซอร์ไพรส์อีกหนึ่งเรื่องของปี 2019 สำหรับหนังสยองขวัญปนฮาจากค่ายไฟว์สตาร์ ที่ได้เน็ตไอดอลชื่อดังอย่าง คุณเอม ตามใจตุ๊ด มาร่วมสมทบกับทีมนักแสดงวัยรุ่นทั้งหน้าเก่าและหน้าใหม่ รวมไปถึงเจ้าพ่อหนังสยองขวัญในช่วงหลายปีที่ผ่านมาอย่างคุณชิน ชินวุฒ มารับบทเป็นพี่นาคอีกด้วย ซึ่งหนังก็ได้รับการตอบรับจากแฟนๆ เป็นอย่างดี จนทำสถิติใหม่ๆ ให้กับค่ายไฟว์สตาร์มากมาย รวมไปถึงเกือบจะขึ้นแท่นเป็นหนังทำเงินสูงสุดตลอดกาลของค่ายไฟว์สตาร์ได้แล้ว (ตามหลัง ขุนแผน อีกเพียงไม่กี่แสนบาทเท่านั้น)

อันดับ 3 – ฮาวทูทิ้ง..ทิ้งอย่างไรไม่ให้เหลือเธอ (54 ล้านบาท) [* ยังไม่สิ้นสุดการฉาย]

หนังส่งท้ายปีของค่าย GDH ที่ได้ผู้กำกับเต๋อ นวพล กลับมาร่วมงานกับสองนักแสดงมากความสามารถ อย่างคุณออกแบบ ชุติมณฑน์ และคุณซันนี่ สุวรรณเมธานนท์ อีกหนึ่งครั้ง (หลังจากเคยร่วมงานกันมาแล้วในหนังเรื่อง Die Tomorrow เมื่อปี 2017) ซึ่งนอกจากหนังจะไต่อันดับทะลุขึ้นมาถึง Top 3 ได้ในท้ายที่สุด ยังทำเงินสูงเป็นอันดับสองในเครดิตการทำงานร่วมกันของผู้กำกับผู้กำกับนวพล กับ คุณซันนี่ (ตามหลัง ฟรีแลนซ์..ห้ามป่วย ห้ามพัก ห้ามรักหมอ ที่ 86 ล้านบาท) และสูงเป็นอันดับสองในเครดิตของคุณออกแบบอีกด้วย (ตามหลัง ฉลาดเกมส์โกง ที่ 112 ล้านบาท)

อันดับ 2 – Friend Zone ระวัง..สิ้นสุดทางเพื่อน (130 ล้านบาท)

หนังรอม-คอมต้อนรับวันวาเลนไทน์จากค่าย GDH ที่นอกจากจะเคยขึ้นแท่นเป็นหนังทำเงินวันแรกสูงสุดตลอดกาลของค่ายอยู่ช่วงหนึ่ง ยังกลายเป็นหนังร้อยล้านเรื่องแรกของทั้งนางเอกสาว คุณใบเฟิร์น พิมพ์ชนก (ทำเงินสูงสุด แซง สิ่งเล็กเล็กที่เรียกว่ารัก ที่ 79 ล้านบาท) , พระเอกหนุ่ม คุณนาย ณภัทร และผู้กำกับของเรื่องอย่างคุณหมู ชยนพ อีกด้วย (ทำเงินสูงสุด แซง ซักซี้ด ห่วยขั้นเทพ ที่ 78 ล้านบาท)

อันดับ 1 – ตุ๊ดซี่ส์ แอนด์ เดอะเฟค (140 ล้านบาท)

ปี 2018 มีหนังไทยที่สานต่อความสำเร็จจากละครโทรทัศน์ชื่อดัง อย่าง นาคี ๒ ออกมาสร้างปรากฏการณ์กวาดรายได้จนขึ้นแท่นเป็นหนังไทยทำเงินสูงสุดประจำปีมาแล้ว พอมาถึงปี 2019 ก็ยังคงเป็นหนังไทยจากซีรี่ส์โทรทัศน์เรื่องดัง ที่สามารถสร้างปรากฏการณ์ในบ้านเราจนขึ้นแท่นเป็นหนังทำเงินสูงสุดประจำปีได้อีกหนึ่งครั้ง ซึ่งหนึ่งในไฮไลท์สำคัญคือรายได้เปิดตัววันแรกของหนัง (ตรงกับวันหยุดวันพ่อแห่งชาติ) ที่สูงในระดับทำสถิติเป็นรายได้เปิดตัววันแรกของหนังไทยสูงที่สุดในรอบ 5 ปีที่ผ่านมา และสูงเป็นอันดับ 2 ในรอบทศวรรษที่ผ่านมาอีกด้วย (ตามหลัง ไอฟาย..แต๊งกิ้ว..เลิฟยู้ เพียงเรื่องเดียว) และจบรายได้สูงเป็นอันดับที่ 2 ตลอดกาลของค่าย GDH ไปในท้ายที่สุด (ตามหลัง น้อง.พี่.ที่รัก ที่ 146 ล้านบาทเพียงเรื่องเดียว)

ปี 2019 ถือเป็นปีทองของค่าย GDH อย่างแท้จริง เพราะนอกจากจะมีหนังทำเงินทะลุหลักร้อยล้านได้มากกว่าหนึ่งเรื่องในปีเดียวได้เป็นครั้งแรก และหนังทั้งสามเรื่องที่ทำเงินรวมกันไปสูงถึง 324 ล้านบาท ซึ่งเป็นรายได้ในรอบหนึ่งปีระดับสถิติใหม่ของทางค่าย (แซงสถิติเก่าของปี 2018 ที่ 234 ล้านบาท) ยังทำสถิติเป็นครั้งแรกในรอบ 13 ปีที่หนังไทยทำเงินสูงสุดประจำปีสามอันดับแรก เป็นหนังที่มาจากค่ายเดียวกันอีกด้วย (สถิติครั้งก่อนเป็นของค่ายสหมงคลฟิล์ม ที่เคยมีหนังติดสี่อันดับแรกของปี 2007)

Top 10 หนังไทยทำเงินสูงสุดประจำปี 2019 ทำเงินรวมกันไปทั้งสิ้น 540 ล้านบาท ซึ่งลดลงจากปีก่อนหน้าถึงหลักร้อยล้านบาท (ปี 2018 ทำเอาไว้ที่ 672 ล้านบาท ) แต่สำหรับในรอบ 5 ปีที่ผ่านมา ปี 2019 ถือเป็นปีที่ 3 ที่ Top 10 หนังไทยทำเงินทะลุหลัก 500 ล้านบาทขึ้นมาได้ และทำเงินเป็นงรองปี 2018 เพียงปีเดียวเท่านั้น