ถึงคราว-ของหนังไทยกลับมาสร้างปรากฏการณ์อีกครั้ง เมื่อหนังไทยฟอร์มเต็งที่สานต่อความสำเร็จมาจากซีรี่ส์ของค่าย GDH เอง อย่าง ตุ๊ดซี่ส์ แอนด์ เดอะเฟค ก้าวขึ้นมาคว้ามงกุฎแชมป์เมื่อวันหยุดซึ่งกับวันพ่อแห่งชาติที่ผ่านมา ด้วยรายได้เปิดตัววันแรกในเขตกรุงเทพฯ, ปริมณฑล และเชียงใหม่ ที่สูงถึง 24.59 ล้านบาท (รวมทั่วประเทศทำเงินวันแรกไปถึง 55 ล้านบาท) กลายเป็นหนังไทยเปิดตัววันแรกสูงสุดของปีนี้ไปแบบแทบจะไม่ต้องลุ้น (แซงหนังฮิตจากค่ายเดียวกันอย่าง Friend Zone ระวัง..สิ้นสุดทางเพื่อน ไปไกลทีเดียว ที่ 14 ล้านบาท) รวมไปถึงกระโดดขึ้นไปถึง Top 5 หนังทำเงินเปิดตัววันแรกสูงสุดของปีนี้ได้อีกด้วย (มาอยู่อันดับที่ 4 ตามหลังสามหนังฮีโร่มาร์เวลอย่าง Avengers: Endgame , Captain Marvel และ Spider-Man: Far From Home ซึ่งทำเอาไว้มากกว่าสามสิบล้านบาททั้งสามเรื่อง)

ส่วนในกลุ่มหนังจากค่าย GDH ด้วยกัน นอกจากจะขึ้นแท่นเป็นหนังเปิดตัววันแรกสูงสุดตลอดกาลของค่ายได้แล้ว (รับไม้ต่อจาก Friend Zone ระวัง..สิ้นสุดทางเพื่อน ที่เพิ่งจะสร้างสถิติใหม่ให้กับค่ายไปเมื่อช่วงต้นปีนี่เอง) หนังยังก้าวขึ้นไปอีกขั้นด้วยการทะยานเข้าสู่ถึง Top 3 หนังเปิดตัววันแรกสูงสุดของค่าย GDH ในปัจจุบันและค่ายเก่าอย่าง GTH ได้อีกด้วย ซึ่งถือเป็นหนังจาก GDH เรื่องแรกที่ก้าวขึ้นมาถึงจุดนี้ได้ (มาอยู่อันดับที่ 2 ตามหลังเจ้าของตำแหน่งหนังไทยทำเงินในเขตกรุงเทพฯ วันแรกสูงสุดตลอดกาลอย่าง ไอฟาย..แต๊งกิ้ว..เลิฟยู้ ที่ 29 ล้านบาทเพียงเรื่องเดียวเท่านั้น) รวมไปถึงกลายเป็นหนังไทยเรื่องที่ 5 ในรอบสิบปีที่ผ่านมา ที่สามารถทำเงินวันแรกทะลุหลักยี่สิบล้านขึ้นมาได้ (เรื่องก่อนหน้าคือหนังตลกฮิตเซอร์ไพรส์ หลวงพี่แจ๊ส 4G เคยทำเงินตรงกับวันหยุดวันจักรีในเขตกรุงเทพฯ ไปถึง 22 ล้านบาท) ด้านเครดิตของทีมนักแสดงและผู้กำกับของเรื่องนั้น แน่นอนว่า ตุ๊ดซี่ส์ แอนด์ เดอะเฟค สามารถสร้างสถิติใหม่ให้กับทุกคนลงได้แบบสบายๆ ทั้งกลุ่มนักแสดงหนังโรงหน้าใหม่ อย่างคุณเพชร เผ่าเพชร เจริญสุข, คุณปิงปอง ธงชัย ทองกันทม , ผู้กำกับเติ้ล กิตติภัค ทองอ่วม ที่ได้หนังโรงเรื่องนี้เป็นหนังทำเงินสูงสุดเรื่องแรกเช่นกัน หรือหลายๆ ท่านที่เคยมีผลงานหนังโรงมาแล้ว อย่างคุณเต๋อ รัฐนันท์ จรรยาจิรวงศ์ , คุณเจเจ กฤษณภูมิ พิบูลสงคราม (มากกว่ารายได้รวมของ 20 ใหม่ ยูเทิร์นวัย หัวใจรีเทิร์น ไปแล้ว ที่ 23 ล้านบาท) , คุณพีค ภัทรศยา เครือสุวรรณศิริ ที่หายจากจอใหญ่ไปนานถึง 7 ปี (เปิดตัววันแรกสูงสุด เอาชนะ รัก/สาม/เศร้า ที่ 5 ล้านบาท รวมไปถึงหนังที่คุณพีคมีบทรับเชิญเล็กๆ อย่าง รถไฟฟ้า..มาหานะเธอ ซึ่งทำเอาไว้ที่ 15 ล้านบาท) และคุณชมพู่ อารยา เอ ฮาร์เก็ต (เอาชนะรายได้วันแรกของ คุณนายโฮ ไปหลายเท่าตัว ที่ 5 ล้านบาท)

แชมป์เก่าสองสมัยอย่าง Frozen 2 กลายเป็นอีกหนึ่งเรื่องที่ได้รับประโยชน์จากวันหยุดไปแบบเต็มเม็ดเต็มหน่วย จากรายได้วันพฤหัสนี้ที่ทำไปอีกถึง 5.83 ล้านบาท (เพิ่มขึ้นจากวันพฤหัสที่แล้วถึง 108%!) ซึ่งเป็นรายได้วันพฤหัสสุดสัปดาห์ที่สามสูงถึงอันดับ 2 ของปีนี้ (พ่ายให้กับ Avengers: Endgame ไปแค่หมื่นเดียวเท่านั้น!) และทำเงินรวมสิบห้าวันไปแล้ว 110.34 ล้านบาท กลายเป็นหนังทำเงินทะลุหลักร้อยล้านเรื่องที่ 12 ของปีนี้เป็นที่เรียบร้อย และเป็นหนังแอนิเมชั่นเรื่องที่ 3 ของปีนี้ที่สามารถทำเงินทะลุหลักร้อยล้านขึ้นมาได้อีกด้วย (ต่อจาก How to Train Your Dragon: The Hidden World และ The Lion King) โดยมีอีกสองเป้าหมายใหญ่ที่หนังใกล้จะทำได้เข้าไปทุกขณะแล้ว นั่นก็คือการคว้าตำแหน่งหนังแอนิเมชั่นทำเงินสูงสุดของปีนี้ (ล่าสุดอยู่อันดับที่สอง ตามหลัง The Lion King อีกเพียงไม่กี่ล้านแล้ว) และตำแหน่งหนังแอนิเมชั่นทำเงินสูงสุดตลอดกาลในบ้านเรา ที่มีโอกาสทำสถิติใหม่ค่อนข้างสูงทีเดียว ซึ่งตอนนี้หยุดอยู่ที่อันดับ 3 เตรียมแซง The Lion King ในอีกไม่กี่วันข้างหน้า และเจ้าของตำแหน่งแชมป์เรื่องปัจจุบัน อย่าง Minions (แซงรายได้รวมสิบห้าวันของเหล่า Minions ไปพอสมควรทีเดียว ที่ 103 ล้านบาท)

อีกหนึ่งหนังแอนิเมชั่นหน้าใหม่ประจำสุดสัปดาห์นี้ กับหนังม้ามืดเจ้าของตำแหน่งหนังทำเงินสูงสุดในจีนปีนี้ อย่าง Ne Zha หรือชื่อไทยที่เราคุ้นเคยกันว่า นาจา เปิดตัวรับวันหยุดในบ้านเราไป 2.3 ล้านบาท กลายเป็นหนังจีนเปิดตัววันแรกสูงสุดในบ้านเราปีนี้ไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว (แชงหนังแฟนตาซี The Knight of Shadows: Between Yin and Yang ของพระเอกเฉินหลง ที่ 1.4 ล้านบาท) และเป็นหนังเอเชียเปิดตัววันแรกสูงเป็นอันดับ 2 ในบ้านเราปีนี้อีกด้วย (ตามหลังอนิเมะญี่ปุ่นสุดฮิต อย่าง One Piece: Stampede ซึ่งทำเอาไว้สูงถึง 5 ล้านบาทเพียงเรื่องเดียว) ส่วนในกลุ่มหนังแอนิเมชั่นด้วยกัน รายได้วันแรกของนาจาถือว่าสูงเป็นอันดับ 6 ของปีนี้ (ตามหลังหนังแอนิเมชั่นซูเปอร์ฮีโร่ Spider-Man: Into the Spider-Verse ไม่มากนัก ที่ 2.9 ล้านบาท)

หนังใหม่อีกหนึ่งเรื่อง แต่ชิมลางเข้าฉายรอบพิเศษไปตั้งแต่สุดสัปดาห์ก่อนแล้ว อย่าง Ford v Ferrari  ทำเงินวันแรกแบบเต็มวันต้อนรับวันหยุดไป 1.51 ล้านบาท (รวมรายได้จากรอบพิเศษสัปดาห์ก่อน ทำเงินไปแล้วทั้งสิ้น 2.97 ล้านบาท) ซึ่งทำได้มากกว่าหนังที่พูดถึงนักแข่งรถ(กับเจ้าตูบ)ในปีนี้เช่นกัน อย่าง The Art of Racing in the Rain (1.9 แสนบาท) หรือเรื่องที่หลายๆ คนน่าจะนึกถึงเมื่อพูดถึงหนังแข่งรถดัดแปลงจากเรื่องจริง อย่าง Rush ซึ่งก็เปิดตัววันแรกไปไม่ต่างกันมากนัก (ที่ 1 ล้านบาท) รวมไปถึงเป็นหนังเปิดตัววันแรกสูงสุดในรอบหลายปีของทั้งสองนักแสดงนำ อย่างแมตต์ เดมอน (สูงสุดในรอบสามปี นับตั้งแต่หนังร่วมทุน อย่าง The Great Wall ทำเิาไว้ที่ 6 ล้านบาทเป็นต้นมา) และคริสเตียน เบล (สูงสุดในรอบห้าปี หลังจากหนังทุนสูง Exodus: Gods and Kings เคยทำเอาไว้ที่ 4 ล้านบาท)

หนังไทยแนวแอ็กชั่น-คอเมดี้ บอดี้การ์ดหน้าหัก ทำเงินวันพฤหัสนี้ไปอีก 1.19 ล้านบาท (ลดลงจากวันพฤหัสแรกไม่ถึงครึ่ง ที่ 41% ลดลงมาน้อยเป็นอันดับที่ 2 ในกลุ่มหนังไทยปีนี้ด้วยกัน เป็นรอง The Cave นางนอน ที่เพิ่งทำสถิติใหม่เอาไว้เมื่อสุดสัปดาห์ก่อน ที่ 16% เพียงเรื่องเดียว) ซึ่งเป็นรายได้วันพฤหัสสุดสัปดาห์ที่สอง สูงเป็นอันดับ 4 ของหนังไทยปีนี้ (ตามหลัง แสงกระสือ ที่ 1.4 ล้านบาท) และทำเงินรวมแปดวันไปแล้ว 13.94 ล้านบาท ขยับเข้าใกล้ Top 10 หนังไทยทำเงินสูงสุดของปีนี้ขึ้นอีกนิด (หยุดอยู่อันดับที่ 12 ตามหลัง สงกรานต์ แสบสะท้านโลกันต์ อีกไม่กี่แสนบาท)

เหล่านางฟ้าชาร์ลีเวอร์ชั่นใหม่ ใน Charlie’s Angels ทำเงินวันพฤหัสนี้ไปอีก 1.01 ล้านบาท (ลดลงจากวันพฤหัสแรก 56%) และทำเงินรวมแปดวันไปแล้ว 14.85 ล้านบาท

มีหนังใหม่อีกสองเรื่องที่ขอชิมลางเข้าฉายรอบพิเศษเมื่อวันพ่อแห่งชาติที่ผ่านมา นั่นคือหนังสืบสวนคำวิจารณ์ดี รวมทีมนักแสดงมากฝีมือเอาไว้คับคั่ง อย่าง Knives Out ทำเงินรอบพิเศษหลังสองทุ่มในวันแรกไป 4.6 แสนบาท ซึ่งเป็นรายได้รอบพิเศษวันพฤหัสสูงเป็นอันดับ 2 ของปีนี้ (ตามหลังหนังแอนิเมชั่น Spider-Man: Into the Spider-Verse เพียงไม่กี่แสนบาท)

และหนังแอนิเมชั่นภาคต่อจากเกมดัง The Angry Birds Movie 2 ทำเงินรอบพิเศษหลังบ่ายสองในวันแรกไป 2.2 แสนบาท ซึ่งเป็นรายได้รอบพิเศษวันพฤหัสสูงเป็นอันดับ 3 ของปีนี้ (ตามหลังทั้ง Spider-Man: Into the Spider-Verse และ Knives Out เช่นกัน)

ส่วนหนังเก่าอีกสองเรื่อง อย่างหนังไทยดัดแปลงจากเหตุการณ์จริง อย่าง The Cave นางนอน ทำเงินวันพฤหัสนี้ไปอีก 3.5 แสนบาท (ลดลงจากวันพฤหัสที่แล้ว 61%) และทำเงินรวมสิบห้าวันไปแล้ว 16.79 ล้านบาท ขยับขึ้นมาอีกหนึ่งขั้น มาอยู่อันดับที่ 9 หนังไทยทำเงินสูงสุดของปีนี้แล้ว (แซง มิสเตอร์ดื้อ กันท่าเหรียญทอง ที่ 15 ล้านบาท)

และหนังแอ็กชั่น 21 Bridges ทำเงินเมื่อวันพฤหัสที่ผ่านมาไปอีก 2.9 แสนบาท (ลดลงจากวันพฤหัสแรก 63%) และทำเงินรวมแปดวันไปแล้ว 6.16 ล้านบาท