รายงานหนังใหม่ทำเงิน วันพฤหัสบดีที่ 28 พฤศจิกายน 2562 : Frozen 2 เบียด Charlie’s Angels , บอดี้การ์ดหน้าหัก ครองแชมป์ต่อ

แม้จะมีหนังใหม่ฟอร์มเต็งเข้าฉายหลายเรื่องในสุดสัปดาห์นี้ แต่ตำแหน่งแชมป์ก็ยังคงเป็นของราชินีหิมะเอลซ่า Frozen 2 ที่ยังคงเกาะบัลลังก์เอาไว้ได้อย่างเหนียวแน่น จากรายได้วันพฤหัสนี้ที่เก็บไปอีก 2.8 ล้านบาท (ลดลงจากวันแรก 71%) ซึ่งเป็นรายได้วันพฤหัสสุดสัปดาห์ที่สองสูงเป็นอันดับ 9 ของปีนี้ (น้อยกว่า John Wick: Chapter 3 – Parabellum เพียงแสนเดียวเท่านั้น) และสูงที่สุดในกลุ่มหนังแอนิเมชั่นปีนี้ด้วยกัน (เอาชนะ The Lion King ไปแบบหวุดหวิดไม่ถึงหลักแสนบาท) ส่วนรายได้รวมแปดวัน กวาดไปแล้วทั้งสิ้น 70.84 ล้านบาท ซึ่งทำได้ดีกว่าที่ The Lion King เคยทำได้ในช่วงเวลาใกล้เคียงกัน (ทำเงินเก้าวันไป 70 ล้านบาท) แต่ยังตามหลัง How to Train Your Dragon: The Hidden World ที่เปิดตัวสุดสัปดาห์แรกได้มากกว่าอยู่พอประมาณ (เจ้าเขี้ยวกุดทำเงินแปดวันไป 74 ล้านบาท) อย่างไรก็ตามเอลซ่าภาคนี้ก็ใช้เวลาเพียงสัปดาห์เดียว กระโดดขึ้นมาอยู่อันดับที่ 2 แอนิเมชั่นจากค่าย Walt Disney Animation Studios ทำเงินสูงสุดตลอดกาลในบ้านเรา แทนที่ Ralph Breaks the Internet: Wreck-It Ralph 2 เมื่อปีก่อน (ปิดรายได้เอาไว้ที่ 61 ล้านบาท) เป็นที่เรียบร้อยแล้ว และเตรียมตัวก้าวขึ้นสู่บัลลังก์แทนที่ Zootopia ในไม่ช้านี้ด้วยเช่นกัน (รายได้รวมห่างกันอีกไม่ถึงยี่สิบล้านบาท)

ส่วนหนังใหม่ที่เปิดตัวได้สูงที่สุดเมื่อวันพฤหัสที่ผ่านมาคือนางฟ้าชาร์ลี Charlie’s Angels ฉบับใหม่ของผู้กำกับหญิงเอลิซาเบธ แบงก์ส เปิดตัวเข้ามาในอันดับที่สอง ด้วยรายได้ 2.33 ล้านบาท ซึ่งอาจจะไม่ใช่รายได้เปิดตัวที่เปรี้ยงปร้าง เมื่อเทียบกับ Charlie’s Angels เวอร์ชั่นก่อนเมื่อช่วงปี 2000 ต้นๆ หรือยิ่งในปีนี้ที่มีหนังแอ็กชั่นที่นำแสดงโดยนักแสดงหญิงเปิดตัวค่อนข้างสูงอยู่หลายเรื่อง (อย่างเช่นหนังฮีโร่มาร์เวล Captain Marvel ที่ทำเอาไว้สูงถึง 37 ล้านบาท หรือก่อนหน้านี้ไม่นานก็คือหนังภาคต่อ Terminator: Dark Fate ที่ทำเอาไว้สูงเช่นกันถึงเกือบ 10 ล้านบาท) แต่อย่างน้อยๆ เหล่านางฟ้าชาร์ลีเวอร์ชั่นนี้ก็ขึ้นแท่นเป็นหนังสายลับหญิงเปิดตัววันแรกสูงสุดของปีนี้ไปแล้ว (แซงนักฆ่าสาว Anna ไปแบบไม่ยากเย็น ที่ 1.6 ล้านบาท) และกลายเป็นหนังเปิดตัววันแรกสูงสุดของผู้กำกับเอลิซาเบธ แบงก์สในบ้านเราแล้วด้วยเช่นกัน (แทนที่หนังภาคต่อชมรมเสียงใส Pitch Perfect 2 ซึ่งเคยเปิดตัววันแรกในบ้านเราไป 7 แสนบาท) รวมไปถึงเป็นหนังเปิดตัวสูงสุดในรอบ 7 ปี ของนักแสดงสาวคริสเตน สจ๊วต หลังจากภาคสุดท้ายของหนังแวมไพร์สุดฮิตอย่าง The Twilight Saga: Breaking Dawn – Part 2 (ซึ่งยังคงถือสถิติเปิดตัวสูงสุดในเครดิตเอาไว้อยู่ที่มากกว่ายี่สิบล้านบาท) เป็นต้นมา ส่วนอีกหนึ่งนักแสดงสาวอย่าง นาโอมิ สก็อตต์ ในปีนี้เพิ่งจะมีหนังฮิตอย่าง Aladdin ซึ่งเปิดตัววันแรกไปเกือบเท่าตัว ที่ 4.6 ล้านบาท

อีกหนึ่งหนังใหม่คือหนังไทยแนวแอ็กชั่น-คอเมดี้ของนักแสดงตลกชื่อดัง คุณหม่ำ จ๊กมก อย่าง บอดี้การ์ดหน้าหัก เปิดตัววันแรกที่รายได้ 2.05 ล้านบาท กระโดดเข้าสู่ Top 10 หนังไทยเปิดตัววันแรกสูงสุดของปีนี้ไปแบบเฉียดฉิว (อยู่อันดับที่ 10 พอดี ตามหลังหนังผี 3 ตอนย่อยอย่าง แช่ง ที่ 2.7 ล้านบาท) และกลายเป็นหนังที่คุณหม่ำร่วมแสดงเปิดตัววันแรกสูงสุดของปีนี้ (มากกว่า สี้น 3 ต่อน ที่ 9 แสนบาท) ซึ่งในรอบสองปีที่ผ่านมาสำหรับคุณหม่ำ บอดี้การ์ดหน้าหัก ถือว่าเปิดตัววันแรกเป็นรองหนังตลกย้อนยุคอย่าง ขุนบันลือ เมื่อปีก่อน (ที่ 4 ล้านบาท) เพียงเรื่องเดียวเท่านั้น แต่ถึงอย่างไรก็ยังคงทำได้น้อยกว่าหนังตระกูล บอดี้การ์ดหน้าเหลี่ยม ที่เคยสร้างชื่อให้กับคุณหม่ำในฐานะผู้กำกับช่วงแรกๆ อยู่

หนังไทยอีกหนึ่งเรื่องที่ถูกพูดถึงอย่างมากในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา อย่าง The Cave นางนอน ถือว่าได้รับอานิสงค์จากกระแสดราม่าช่วยเรียกคนดูให้เข้ามาอุดหนุนมากกว่าที่คาดเอาไว้อยู่หลายวัน รวมไปถึงวันพฤหัสนี้ที่หนังทำเงินไปอีก 9.2 แสนบาท ซึ่งลดลงจากวันแรกเพียง 16% เท่านั้น!! ซึ่งลดลงมาน้อยที่สุดในกลุ่มหนังไทยปีนี้ (ทิ้งห่าง พี่นาค ที่ 43% ไปพอสมควร) และน้อยที่สุดเป็นอันดับ 3 ของปีนี้ (เป็นรองหนังเกาหลีดีกรีรางวัลปาล์มทองคำอย่าง Parasite และภาพยนตร์ยอดเยี่ยมออสการ์ปีนี้ อย่าง Green Book เพียงสองเรื่องเท่านั้น) และเป็นรายได้วันพฤหัสสุดสัปดาห์ที่สองสูงเป็นอันดับ 5 ในกลุ่มหนังไทยปีนี้ (ตามหลังหนังตลก ไบค์แมน 2 เพียงหลักหมื่นบาท) ส่วนรายได้รวมแปดวัน ทำไปแล้วทั้งสิ้น 10.94 ล้านบาท กลายเป็นหนังไทยทำเงินเกินสิบล้านเรื่องที่ 13 ของปีนี้ และขยับเข้าใกล้ Top 10 หนังไทยทำเงินสูงสุดของปีนี้เข้าไปทุกที (ล่าสุดอยู่อันดับที่ 12 แซงหนังรัก ดิว ไปด้วยกันนะ ที่ 10 ล้านบาทขึ้นมา)

ยังคงอยู่กับหนังใหม่อีกหนึ่งเรื่อง อย่างหนังแอ็กชั่น 21 Bridges ผลงานเรื่องล่าสุดของนักแสดงหนุ่มแชดวิก โบสแมน เปิดตัววันแรกในบ้านเราไป 3.4 แสนบาท ซึ่งไม่มีอะไรหวือหวาเท่าไหร่นัก เมื่อเทียบกับหนังที่แอ็กชั่นที่เกี่ยวข้องกับตำรวจด้วยกัน อย่างเช่น Den of Thieves เมื่อปีก่อน เคยเปิดตัวในบ้านเราไปมากกว่าหลักล้านบาท หรือเทียบกับหนังในเครดิตของหนุ่มแชดวิก โบสแมนเอง แม้จะตัดหนังจากตระกูลมาร์เวล (ที่ทำเงินวันแรกกันมากกว่าหลักสิบล้านบาท) ออกไป แต่หนุ่มแชดวิกเองยังเคยมีหนังที่เปิดตัวระดับบล็อกบัสเตอร์ในบ้านเราอยู่ นั่นก็คือหนังแฟนตาซี Gods of Egypt ที่เปิดตัววันแรกในบ้านเราไปถึง 10 ล้านบาท

หนังอนิเมะเรื่องใหม่แนวไซไฟ-โรแมนติก อย่าง Hello World เปิดตัววันแรกในบ้านเราไป 2 แสนบาท (จากโรงฉายเพียงสามสิบกว่าโรง) ซึ่งเป็นรายได้เปิดตัววันแรกสูงอันดับ 8 ในกลุ่มหนังญี่ปุ่นที่เข้าฉายในบ้านเราปีนี้ (เป็นรองอนิเมะภาคหนังโรง Code Geass: Lelouch of the Re;surrection ที่เพิ่งเข้าฉายไปก่อนหน้านี้ไม่นานเพียงหลักหมื่นเท่านั้น) แต่ถือว่าตามหลังอีกหนึ่งอนิเมะ อย่าง Sword Art Online The Movie -Ordinal Scale- ซึ่งเป็นผลงานเรื่องก่อนของผู้กำกับ โทโมฮิโกะ อิโตะ อยู่พอสมควร (เรื่องหลังเคยเปิดตัวในบ้านเราไป 9 แสนบาท)

หนังแข่งรถเจ้าของคำวิจารณ์ด้านบวกท่วมท้น อย่าง Ford v Ferrari ที่ขอชิมลางเข้าฉายรอบพิเศษหลังสองทุ่มเป็นต้นไป ซึ่งก็ทำเงินวันแรกไปได้ไม่เลวเลย ที่ 1.6 แสนบาท (จากโรงฉายเพียงสามสิบกว่าโรงเช่นกัน)

และหนังใหม่แนวดราม่า-ไซไฟ อย่าง Light of My Life ผลงานการกำกับและแสดงนำเองของนักแสดงดีกรีรางวัลออสการ์ เคซีย์ แอฟเฟล็ค เปิดตัววันแรกในบ้านเราไป 5.8 หมื่นบาท (ไม่ถึงสามสิบโรงฉาย) ซึ่งลดลงมาจากผลงานที่ทำให้หนุ่มเคซีย์คว้ารางวัลออสการ์ อย่าง Manchester by the Sea เกือบครึ่งหนึ่ง (เปิดตัววันแรกที่ 1 แสนบาท)

Leave a Reply

Fill in your details below or click an icon to log in:

WordPress.com Logo

You are commenting using your WordPress.com account. Log Out /  Change )

Twitter picture

You are commenting using your Twitter account. Log Out /  Change )

Facebook photo

You are commenting using your Facebook account. Log Out /  Change )

Connecting to %s