หนังสงครามโลกฟอร์มเต็ง อย่าง Midway ทะยานขึ้นมาคว้าแชมป์ประจำสุดสัปดาห์นี้ไปครองได้ตามคาด ด้วยรายได้เปิดตัว 11.23 ล้านบาท ซึ่งเป็นหนังเกี่ยวกับสงครามโลกครั้งที่สองเปิดตัวสุดสัปดาห์แรกมากกว่าสิบล้านบาทได้เป็นเรื่องที่สองในรอบ 3 ปีที่ผ่านมา และเปิดตัวเป็นรอง Dunkirk ของผู้กำกับคริสโตเฟอร์ โนแลน (ที่ 21 ล้านบาท) เพียงเรื่องเดียวเท่านั้น และกลายเป็นหนังเปิดตัวสุดสัปดาห์แรกมากกว่าหลักสิบล้านเป็นเรื่องที่แปดในบ้านเราของผู้กำกับโรแลนด์ เอ็มเมอริช เข้าไปแล้ว (แต่ก็ยังถือว่าทำได้ค่อนข้างน้อยเมื่อเทียบกับผลงานเรื่องก่อนๆ ของผู้กำกับโรแลนด์เอง อย่างเช่นผลงานเรื่องก่อนหน้า Independence Day: Resurgence ก็เคยเปิดตัวในบ้านเราเอาไว้สูงถึง 51 ล้านบาท) รวมไปถึงกลายเป้นหนังเปิดตัวสูงสุดในรอบปีนี้ของนักแสดงหลายๆ คนในเรื่องนี้ อย่างวู้ดดี้ ฮาร์เรลสัน (มากกว่าหนังซอมบี้ภาคต่อ Zombieland: Double Tap เปิดตัวเมืาอสุดสัปดาห์ก่อนไป 7 ล้านบาท) , เดนนิส เควด (มากกว่าหนังภาคต่อ A Dog’s Journey ที่ 1.8 ล้านบาท) , ลุค อีแวนส์ (มากกว่าหนังนักฆ่าหญิง Anna ที่ 7 ล้านบาท) และกลายเป็นหนังเปิดตัวมากกว่าสิบล้านเรื่องที่สองในปีนี้ของ แพทริค วิลสัน (ตามหลังตุ๊กตาผีภาคต่อ Annabelle Comes Home ที่ 25 ล้านบาท) , เรื่องที่สามในปีนี้ของหนุ่มเอ็ด สไครน์ (ตามหลังหนังภาคต่อ Maleficent: Mistress of Evil ที่ 62 ล้านบาท และไซบอร์กสาว Alita: Battle Angel ที่ 37 ล้านบาท) และ

อีกหนึ่งหนังใหม่อย่าง Doctor Sleep ตามมาในอันดับที่สอง ด้วยรายได้เปิดตัว 3.3 ล้านบาท ซึ่งยังคงใกล้เคียงกับหนังสยองรีเมค ดัดแปลงจากนิยายของ สตีเฟ่น คิง ที่เข้าฉายในปีนี้เช่นกัน อย่าง Pet Sematary เคยเปิดตัวสุดสัปดาห์แรกเอาไว้ที่ 3.8 ล้านบาท และทั้งสองเรื่องยังคงตามหลังหนังดัดแปลงจากนิยายสตีเฟ่น คิงที่เพิ่งทำสถิติเปิดตัวสูงที่สุดของกลุ่มในปีนี้ อย่าง It Chapter Two ซึ่งทำเอาไว้ถึง 31 ล้านบาท ส่วนในเครดิตของสองนักนำของเรื่องนั้น ยังคงทำได้ลดลงจากผลงานเรื่องก่อนหน้าด้วยกันทั้งคู่ ทั้งพระเอกยวน แม็คเกรเกอร์ (ลดลงจาก Christopher Robin ที่ 5 ล้านบาท) และนักแสดงสาว รีเบกก้า เฟอร์กูสัน ที่ปีนี้มีหนังเข้าฉายเป็นเรื่องที่สามเข้าไปแล้ว (ทั้งหนังภาคแยกของก๊วนชุดดำพิทักษ์โลก Men in Black: International ที่ 29 ล้านบาท และหนังเด็กแฟนตาซี The Kid Who Would Be King ที่ 7 ล้านบาท)

แชมป์เก่าเมื่อสุดสัปดาห์ก่อน อย่าง Maleficent: Mistress of Evil โดนเบียดร่วงลงมาอีกครั้งมาอยู่ในอันดับที่สาม ทำเงินสุดสัปดาห์นี้ไปอีก 2.86 ล้านบาท (ลดลงจากสุดสัปดาห์ก่อน 66%) ซึ่งเป็นรายได้สุดสัปดาห์ที่สี่สูงอันดับ 6 ของปีนี้ (ตามหลังหนังแอ็กชั่น Fast & Furious Presents: Hobbs & Shaw ไม่มาก ที่ 3 ล้านบาท) และทำเงินรวมสี่สัปดาห์จ่อทะลุหลักร้อยหา้สิบล้านเต็มทีแล้ว ที่ 149.47 ล้านบาท

ในสุดสัปดาห์นี้มีหนังซอมบี้สายฮาอยู่ใน Top 10 พร้อมกันถึงสองเรื่อง มีทั้งหนังภาคต่อที่เปิดตัวไปตั้งแต่สัปดาห์ก่อน อย่าง Zombieland: Double Tap ทำเงินสุดสัปดาห์นี้ไปอีก 2.07 ล้านบาท (ลดลงจากสุดสัปดาห์แรก 72%) และทำเงินรวมสองสัปดาห์ไปแล้ว 12.98 ล้านบาท

อีกหนึ่งเรื่องคือหนังใหม่อย่าง Little Monsters เปิดตัวสุดสัปดาห์แรกในบ้านเราไป 1.37 ล้านบาท ซึ่งเป็นหนังซอมบี้ทำเงินทะลุหลักล้านเรี่องที่สองของปีนี้ (ตามหลัง Zombieland: Double Tap เจ้าเดิม) และเป็นหนังเปิดตัวเกินหลักล้านอีกหนึ่งเรื่องของนักแสดงสาวฝีมืออย่างลูปิต้า ยองโกในปีนี้ (ตามหลังหนังสยองขวัญอย่าง Us ของผู้กำกับจอร์แดน พีล ซึ่งเปิดตัวไป 7 ล้านบาท)

หนังไทยอย่าง ดิว ไปด้วยกันนะ สร้างเซอร์ไพรส์เล็กๆ ด้วยการไต่อันดับขึ้นมาจากสุดสัปดาห์ก่อน เข้าสู่ Top 5 ได้เป็นสัปดาห์แรก โดยทำเงินสุดสัปดาห์นี้ไปอีก 1.8 ล้านบาท (ลดลงจากสุดสัปดาห์แรกเกินครึ่งไปไม่มาก ที่ 59%) และทำเงินรวมสองสัปดาห์ไปแล้ว 8.56 ล้านบาท ยังพอมีลุ้นทะลุหลักสิบล้านได้อยู่ รวมไปถึงทำเงินขยับขึ้นมาจ่อใกล้ Top 10 หนังไทยทำเงินสูงสุดของปีนี้ได้แล้ว (อยู่อันดับที่ 11 แต่ยังตามหลังรายได้ของ แช่ง อยู่พอสมควร ที่ 13 ล้านบาท)

ส่วนหนังคนเหล็กภาคล่าสุด อย่าง Terminator: Dark Fate ทำเงินสุดสัปดาห์นี้ไปอีก 1.76 ล้านบาท (ลดลงจากสุดสัปดาห์ก่อน 79%) และทำเงินรวมสามสัปดาห์ไปแล้ว 52.8 ล้านบาท ใกล้จะทำเงินแซงหนังภาคต่อที่ทำได้ใกล้เคียงกัน อย่าง X-Men: Dark Phoenix เข้าไปทุกทีแล้ว (ห่างกันอีกเพียงล้านเดียว)

หนังแอนิเมชั่น อย่าง The Addams Family ทำเงินสุดสัปดาห์นี้ไปอีก 1.67 ล้านบาท (ลดลงจากสุดสัปดาห์แรก 70%) และทำเงินรวมสองสัปดาห์ไป 9.48 ล้านบาท กำลังจะกลายเป็นหนังจากตระกูล Addams Family ที่ทำเงินเกินหลักสิบล้านในบ้านเราในอีกไม่กี่วันข้างหน้านี้แล้ว แต่เป้าหมายที่ผ่านไปได้แล้ว คือขยับเข้าสู่ Top 10 หนังทำแอนิเมชั่นทำเงินสูงสุดของปีนี้ โดยล่าสุดหนังอยู่ในอันดับที่ 8 (แทนที่เจ้าเยติ Abominable ซึ่งทำเอาไว้ 9 ล้านบาท)

ด้านหนังไทยขายความฮา อย่าง ไบค์แมน 2 ทำเงินสุดสัปดาห์นี้ไปอีก 1.37 ล้านบาท (ลดลงจากสุดสัปดาห์ก่อน 74%) และทำเงินรวมสามสัปดาห์ไปแล้ว 34.73 ล้านบาท

และหนังฮิตที่ยังเกาะ Top 10 เอาไว้ได้อย่างเหนียวแน่น อย่าง อย่าง Joker ทำเงินสุดสัปดาห์นี้ไปอีก 3.1 แสนบาท (ลดลงจากสุดสัปดาห์ที่แล้ว 61%) และทำเงินรวมหกสัปดาห์ไปแล้ว 118.66 ล้านบาท กลายเป็นหนังที่ติดอยู่ใน Top 10 ยาวนานที่สุดของปีนี้หลังจาก Fast & Furious Presents: Hobbs & Shaw เป็นต้นมา (ที่ 6 สัปดาห์เท่ากัน) และยาวนานที่สุดเป็นอันดับ 3 (ร่วม) ของปีนี้ (อีกหนึ่งเรื่องที่ทำได้เท่ากันคือหนังไทย Friend Zone ระวัง..สิ้นสุดทางเพื่อน)

แม้เจ้าของตำแหน่งแชมป์อย่าง Midway จะทำเงินทะลุหลักสิบล้านขึ้นมาได้ แต่ Top 10 สุดสัปดาห์นี้ ยังคงทำเงินรวมกันไปค่อนข้างเงียบเหงา ที่ 27 ล้านบาท (น้อยเป็นอันดับ 3 ของปีนี้)

ลดลงจาก Top 10 สุดสัปดาห์ก่อน 34% (42 ล้านบาท)

และลดลงจาก Top 10 สุดสัปดาห์เดียวกันของปีก่อน 14% (32 ล้านบาท)

ซึ่งเป็นสุดสัปดาห์ที่หนังแอนิเมชั่น อย่าง The Grinch คว้าแชมป์ไปครองด้วยรายได้ที่น้อยที่สุดสำหรับตำแหน่งแชมป์ประจำสุดสัปดาห์ของปีก่อน ที่ 5 ล้านบาท