สุดสัปดาห์นี้มีหนังใหม่เข้าฉายกันแบบคึกคักถึงแปดเรื่อง ดังนั้นด้วยจำนวนโรงที่อกกมาเฉลี่ยๆ กัน จึงทำให้รายได้เมื่อวันพฤหัสที่ผ่านมาของกลุ่มหัวตารางไม่ทิ้งห่างกันมากเท่าไหร่นัก ส่วนเรื่องที่คว้าแชมป์วันฮาโลวีนไปครองคือหนังซอมบี้สายฮาภาคต่อ (แต่ได้เข้าฉายในโรงบ้านเราภาคนี้เป็นภาคแรก) อย่าง Zombieland: Double Tap ที่เก็บเงินวันแรกในบ้านเราไป 1.62 ล้านบาท กลายเป็นหนังซอมบี้ทำเงินสูงสุดของปีนี้ไปแบบแทบจะไร้คู่แข่ง (ก่อนหน้านี้เพิ่งจะมีหนังซอมบี้แหวกแนวพลังดาราล้นจอ อย่าง The Dead Don’t Die เข้าฉายเพียงเรื่องเดียวเท่านั้น โดยทำเงินไปหลักหมื่นบาทจากการเข้าฉายที่เฮ้าส์สามย่านเพียงแห่งเดียว) และทำเงินเปิดตัวใกล้เคียงกับหนังที่เกี่ยวข้องกับซอมบี้เมื่อปีก่อน อย่าง Overlord ซึ่งเคยทำเอาไว้ที่ 1.3 ล้านบาท รวมไปถึงกลายเป็นหนังเปิดตัววันแรกสูงที่สุดในรอบปีนี้ของทั้งนักแสดงหนุ่ม เจสซี่ ไอเซนเบิร์ก (มากกว่า The Hummingbird Project ที่ 6 หมื่นบาท) , นักแสดงสาว เอ็มม่า สโตน (เอาชนะเรื่องที่ส่งให้เธอเข้าชิงรางวัลออสการ์ในปีนี้ อย่าง The Favourite ที่ 2 แสนบาท) และเป็นหนังเปิดตัวสูงอันดับ 2 ในเครดิตของผู้กำกับรูเบน เฟลสเชอร์ (เป็นรองหนังซูเปอร์วายร้ายบล็อกบัสเตอร์ อย่าง Venom ที่ 16 ล้านบาทเพียงเรื่องเดียว)
หนังแฟนตาซีภาคต่อ เจ้าของแชมป์หนึ่งสมัย อย่าง Maleficent: Mistress of Evil ยังคงเกาะอันดับ 2 เอาไว้ได้อย่างเหนียวแน่น กับรายได้วันพฤหัสนี้ที่เก็บไปอีก 1.52 ล้านบาท (ลดลงจากวันพฤหัสที่แล้ว 61%) ซึ่งเป็นรายได้วันพฤหัสสุดสัปดาห์ที่สามสูงอันดับ 5 ของปีนี้ (ตามหลัง Fast & Furious Presents: Hobbs & Shaw เพียงหลักหมื่นเท่านั้น) และทำเงินรวมสิบหกวันไปแล้ว 136.82 ล้านบาท นอกจากจะทะยานเข้าสู่ Top 5 หนังทำเงินสูงสุดของปีนี้ได้แล้ว (มาอยู่อันดับที่ 5 แทนที่หนังไทย Friend Zone ระวัง..สิ้นสุดทางเพื่อน ที่ 130 ล้านบาท) แม่มาลียังขึ้นแท่นเป็นหนังดัดแปลงจากแอนิเมชั่นค่ายดิสนี่ย์ ทำเงินสูงสุดตลอดกาลในบ้านเราเรียบร้อยแล้ว (แซงเมาคลี The Jungle Book ที่ 132 ล้านบาท) และทำสถิติใหม่เป็นหนังทำเงินสูงสุดในเครดิตของสามนักแสดงหญิงของเรื่อง อย่างแองเจลิน่า โจลี่ด้วย , แอลล์ แฟนนิ่ง (แทนที่ Maleficent ภาคแรก 129 ล้านบาท) และ มิเชลล์ ไฟเฟอร์ (มากกว่าหนังฮีโร่มาร์เวลเมื่อปีก่อน อย่าง Ant-Man and the Wasp ที่ 128 ล้านบาท) แบบแทบจะพร้อมๆ กันอีกด้วย

แชมป์เก่าเมื่อสุดสัปดาห์ก่อน อย่างคนเหล็ก Terminator: Dark Fate ทำเงินวันพฤหัสนี้ไปอีก 1.45 ล้านบาท (ลดลงจากวันพฤหัสแรก 67%) และทำเงินรวมเก้าวันไปแล้ว 39.87 ล้านบาท ซึ่งทำได้ค่อนข้างใกล้เคียงอีกหนึ่งหนังภาคต่อตระกูลดังในปีนี้เช่นกัน อย่าง X-Men: Dark Phoenix ที่ทำเงินแปดวันไปแล้ว 41 ล้านบาท ส่วนในกลุ่มหนังตระกูลคนเหล็กด้วยกัน ภาค Dark Fate น่าจะหยุดอันดับการทำเงินของกลุ่มเอาไว้ที่อันดับ 4 แน่นอนแล้ว (แทนที่ภาคสองอย่าง Terminator 2: Judgment Day ที่เพิ่งกลับเข้ามาฉายใหม่ในบ้านเรา และทำเงินรวมเอาไว้ในระดับยี่สิบล้านบาท) เพราะยังตามหลังอีกสามภาคที่เหลืออีกไกลโขทีเดียว (อันดับ 3 ของกลุ่มอย่าง Terminator Salvation ทำเงินรวมเอาไว้เฉียดหลักร้อยล้านบาท)
อีกหนึ่งหนังใหม่สัปดาห์นี้คือกลุ่มตัวละครครอบครัวดังในอดีต ที่ขอกลับมาอีกครั้งในรูปแบบแอนิเมชั่นสามมิติ อย่างตระกูลนี้ผียังหลบ The Addams Family ทำเงินเปิดตัววันแรกรับวันฮาโลวีนไป 1.26 ล้านบาท ซึ่งเข้าสู่ Top 10 หนังแอนิเมชั่นเปิดตัววันแรกสุงสุดของปีนี้ได้แบบหวุดหวิด (อยู่อันดับที่ 9 ตามหลังอนิเมะญี่ปุ่น Doraemon: Nobita’s Chronicle of the Moon Exploration เพียงหมื่นเดียว) และเปิดตัววันแรกสูงเป็นอันดับที่ 5 ในกลุ่มแอนิเมชั่นสามมิติด้วยกัน (ตามหลังเจ้าของรางวัลออสการ์หนังแอนิเมชั่นยอดเยี่ยมปีนี้ อย่าง Spider-Man: Into the Spider-Verse อยู่พอสมควร ที่เกือบ 3 ล้านบาท)
หนังใหม่อีกหนึ่งเรื่องเช่นกัน กับหนังไทย ดิว ไปด้วยกันนะ ผลงานเรื่องล่าสุดของผู้กำกับขวัญใจคอหนัง อย่างคุณมะเดี่ยว ชูเกียรติ ศักดิ์วีระกุล ทำเงินเปิดตัววันแรกไป 1.13 ล้านบาท ซึ่งพลาดเข้าสู่ Top 10 หนังไทยเปิดตัววันแรกสูงสุดของปีนี้ไปเพียงนิดเดียวเท่านั้น (อยู่อันดับที่ 11 ตามหลัง กระสือสยาม เพียงหมื่นเดียว) แต่ถึงอย่างไรยังถือว่าทำเงินวันแรกได้ใกล้เคียงกับผลงานเรื่องก่อน ของคุณมะเดี่ยวอยู่ โดยเฉพาะหนังที่เปิดตัววันแรกเกินหลักล้านเรื่องก่อนหน้า อย่าง เกรียน ฟิคชั่น ซึ่งเคยทำเอาไว้เมื่อหกปีก่อน ที่ 1.1 ล้านบาท หรือถัดไปก่อนหน้านั้นอีกหนึ่งปีอย่าง Home ความรัก ความสุข ความทรงจำ ก็เปิดตัวเอาไว้ที่ 1 ล้านบาทพอดี และเป็นหนังไทยเปิดตัววันแรกเกินหลักล้านเรื่องที่ 4 ในเครดิตของคุณเวียร์ ศุกลวัฒน์ คณารศ อีกด้วย รวมไปถึงกลายเป็นหนังทำเงินสูงสุดในเครดิตของสามนักแสดงหนังไทยหน้าใหม่ของเรื่อง อย่างสองหนุ่ม คุณนนท์ ศดานนท์ ดุรงคเวโรจน์ , คุณโอม ภวัต จิตต์สว่างดี และนักแสดงสาว อย่างคุณปั๋น ดริสา การพจน์ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ส่วนหนังไทยสายฮา อย่าง ไบค์แมน 2 ทำเงินวันพฤหัสนี้ไปอีก 9.9 แสนบาท (ลดลงจากวันพฤหัสแรก 62%) ซึ่งเป็นรายได้วันพฤหัสสุดสัปดาห์ที่สองสูงอันดับ 4 ของหนังไทยปีนี้ (ตามหลัง Friend Zone ระวัง..สิ้นสุดทางเพื่อน , พี่นาค และ แสงกระสือ ที่ทำเอาไว้มากกว่าหลักล้านบาททั้งสามเรื่อง) และทำเงินรวมเก้าวันไปแล้ว 26.67 ล้านบาท ทำเงินแซง ขุนแผน ฟ้าฟื้น (26 ล้านบาท) ขึ้นมาอยู่อันดับที่ 4 หนังไทยทำเงินสูงสุดของปีนี้เรียบร้อยแล้ว
ด้านมหาวายรายจากค่าย DC อย่าง Joker ทำเงินวันพฤหัสนี้ไปอีก 1.3 แสนบาท (ลดลงจากวันพฤหัสที่แล้ว 59%) และทำเงินรวมไปแล้ว 117.5 ล้านบาท ทำเงินแซงฮีโร่หญิงแกร่งของค่าย อย่าง Wonder Woman (117 ล้านบาท) เข้าสู่ Top 5 หนังจากค่าย DC ทำเงินสูงสุดตลอดกาลในบ้านเราได้แล้ว (อยู่อันดับที่ 5 ตามหลังหนังรวมพลฮีโร่ของค่าย อย่าง Justice League อีกไม่ไกลแล้วเช่นกัน)
และหนังใหม่อีกสามเรื่อง เริ่มกันที่หนังสยองขวัญ อย่างเรือปีศาจ Mary เปิดตัววันแรกในบ้านเราไป 1.5 แสนบาท ซึ่งตามหลังผลงานเมื่อปีก่อนของพระเอกแกรี่ โอลด์แมน ทั้ง Hunter Killer (2 ล้านบาท) และ Darkest Hour (เกือบ 3 แสนบาท) อยู่พอสมควร
หนังไทยแหวกตลาดแนวซ้อนแผน อย่าง โจรปล้นโจร ผลงานเรื่องใหม่ของผู้กำกับเฉลิม วงศ์พิมพ์ ที่ห่างหายจากจอใหญ่ไปนานเช่นกัน เปิดตัววันแรกในบ้านเราไป 1.2 แสนบาท ซึ่งลดลงจากผลงานเรื่องก่อนของสองนักแสดงนำอย่างคุณเป้ อารักษ์ อมรศุภศิริ (ซึ่งมีหนังแอ็กชั่นภาคต่อ อย่าง ขุนพันธ์ 2 เปิดตัววันแรกไปเมื่อปีก่อน ที่ 4 ล้านบาท) และ คุณคิทตี้ ชิชา อำมาตยกุล (ลดลงมาจาก เน็ต ไอ ดาย ไปเพียงนิดเดียวเท่านั้น ที่ 1.6 แสนบาท)
และหนังชีวประวัติของนักร้อง-นักแสดงระดับตำนานของฮอลลิวู้ด อย่าง จูดี้ การ์แลนด์ ใน Judy ทำเงินเปิดตัววันแรกในบ้านเราไป 8.3 หมื่นบาท ซึ่งเป็นหนังโรงเรื่องแรกในรอบ 3 ปีในบ้านเราของนักแสดงหญิงมากฝีมือ เรเน่ เซลเวเกอร์ นับตั้งแต่หนังปิดไตรภาค Bridget Jones’s Baby (เปิดตัววันแรกในบ้านเราไป 8 แสนบาท) เป็นต้นมา
