เข้าสู่วันพฤหัสหลังวันหยุด ตำแหน่งแชมป์ถึงคราวเปลี่ยนมือมาเป็นของหนังคนเหล็กภาคล่าสุดอย่าง Terminator: Dark Fate ที่พลิกแซงเรื่องอื่นๆ ขึ้นมาคว้าบัลลังก์ไปครองได้สำเร็จ จากรายได้ในวันที่สอง (เป็นวันแรกที่เข้าฉายแบบเต็มวัน) ที่เก็บไปอีก 4.45 ล้านบาท (ลดลงจากวันแรก 55%) และทำเงินรวมสองวันไปแล้ว 14.36 ล้านบาท ซึ่งใกล้เคียงกับรายได้สองวันแรกของหนังคนเหล็กภาคก่อน อย่าง Terminator Genisys เคยทำเอาไว้เมื่อสี่ปีที่แล้วที่ 15 ล้านบาท (แต่ต่างกันตรงที่เรื่องหลังทำเงินจากวันพฤหัสแรกไปมากกว่า ที่ 10 ล้านบาท) รวมไปถึงกลายเป็นหนังเปิดตัววันแรกสูงสุด (ไม่ว่าจะใช้รายได้วันพุธหรือวันพฤหัสของคนเหล็กภาคนี้มาเป็นตัวเทียบ) ในเครดิตของนักแสดงสาวแม็คเคนซี่ เดวิส ในบ้านเราเป็นที่เรียบร้อยแล้ว (เอาชนะ The Martian ซึ่งเคยทำเอาไว้ที่เกือบ 4 ล้านบาท) และเปิดตัววันแรกสูงสุดในรอบ 4 ปีของคนเหล็กอาร์โนลด์ ชวาร์เซเน็กเกอร์ อีกด้วย (ตามหลัง Terminator Genisys นั่นเอง)

แชมป์ประจำสุดสัปดาห์ก่อนอย่าง Maleficent: Mistress of Evil แม้จะโดนเบียดร่วงจากบัลลังก์แชมป์ลงมา แต่ด้วยรายได้ที่ไม่ได้ทิ้งห่างจากคนเหล็กมากเท่าไหร่นัก ทำให้ยังมีสิทธิ์ที่จะพลิกกลับขึ้นไปคว้าแชมป์ประจำสุดสัปดาห์มาครองได้อยู่ โดยทำเงินวันพฤหัสนี้ไปอีก 3.95 ล้านบาท (ลดลงจากวันพฤหัสแรก 69%) ซึ่งเป็นรายได้วันพฤหัสสุดสัปดาห์ที่สองสูงอันดับ 7 ของปีนี้ (ตามหลังหนังแอ็กชั่นภาคแยก Fast & Furious Presents: Hobbs & Shaw เพียงไม่กี่หมื่น ที่เกือบ 4 ล้านบาท) และทำเงินรวมเก้าวันไปแล้ว 111.41 ล้านบาท กำลังจะแซง The Lion King (112 ล้านบาท) ขึ้นเป็นหนังดัดแปลงจากแอนิเมชั่นค่ายดิสนี่ย์ทำเงินสูงสูงประจำปีนี้ของบ้านเราในไม่ช้านี้แล้ว ส่วนในกลุ่มหนังดัดแปลงจากแอนิเมชั่นค่ายดิสนี่ย์ทำเงินสูงสูงตลอดกาลในบ้านเรา แม่มาลีกระโดดขึ้นมาแทนที่ Aladdin เข้าสู่ Top 5 ของกลุ่มได้ตั้งแต่วันพุธที่ผ่านมาแล้วเช่นกัน (อยู่ในอันดับที่ 5)

ด้านหนังไทยขายความฮา ไบค์แมน 2 ยังคงอยู่อันดับที่ 3 ต่อเนื่องเป็นวันที่สอง กับรายได้วันพฤหัสที่เก็บไปอีก 2.66 ล้านบาท (ลดลงจากวันแรก 71%) ซึ่งเป็นรายได้วันพฤหัสแรกสูงเป็นอันดับ 5 ในกลุ่มหนังไทยปีนี้ (ตามหลัง แสงกระสือ ไม่มากนัก ที่ 3 ล้านบาท) และทำเงินรวมสองวันไปแล้ว 10.48 ล้านบาท กลายเป็นหนังไทยทำเงินทะลุหลักสิบล้านเรื่องที่ 10 ของปีนี้ไปพอดิบพอดี ซึ่งรายได้ที่ทำได้ตลอดสองวัน ค่อนข้างใกล้เคียงกับหนังตลกภาคต่อเมื่อปีก่อน อย่าง หอแต๋วแตก แหกต่อไม่รอแล้วนะ ที่เข้าฉายวันแรกตรงกับวันหยุดเช่นกัน (ทำเงินรวมสองวันไปมากกว่านิดหน่อย ที่ 11 ล้านบาท แต่หอแต๋วแตกทำเงินวันที่สองลดลงมาจากวันแรกเยอะกว่า)

หนังวายร้ายฉายเดี่ยวจากค่าย DC อย่าง Joker ทำเงินวันพฤหัสนี้ไปอีก 3.2 แสนบาท (ลดลงจากวันพฤหัสที่แล้ว 73%) และทำเงินรวมไปแล้ว 115.16 ล้านบาท เหลืออีกไม่กี่ล้านก็จะทำเงินไล่ Wonder Woman เพื่อลุ้นขึ้นไปถึง Top 5 ของกลุ่มหนัง DC ต่อได้แล้ว

อีกหนึ่งหนังไทย อย่าง ขุนแผน ฟ้าฟื้น ทำเงินวันพฤหัสนี้ไปอีก 1.3 แสนบาท (ลดลงจากวันพฤหัสที่แล้ว 83%) และทำเงินรวมไปแล้ว 25.79 ล้านบาท ยังคงอยู่อันดับที่ 4 หนังไทยทำเงินสูงสุดของปีนี้เช่นเดิม

ส่วนหนังใหม่อีกสามเรื่องในสุดสัปดาห์นี้ เริ่มกันที่หนังสยองขวัญเกาหลี ที่ออกตัวเข้าฉายไปแล้วตั้งแต่วันพุธที่ผ่านมา อย่าง Metamorphosis ทำเงินวันพฤหัสนี้ไปอีก 7.6 หมื่นบาท (ลดลงจากวันแรกไม่ถึงครึ่ง ที่ 41%) และทำเงินรวมสองวันไปแล้ว 2 แสนบาท

อีกสองเรื่องเพิ่งจะเข้าฉายตามหลังเรื่องอื่นในวันพฤหัสที่ผ่านมาเป็นวันแรก ประกอบไปด้วยหนังสารคดี-คอนเสิร์ตของโรเจอร์ วอเตอร์ส ศิลปินชื่อก้องของวงร็อกระดับตำนาน Pink Floyd ใน Roger Waters: Us + Them ทำเงินจากการเข้าฉายเพียงโรงเดียวและรอบเดียวต่อวันไปไม่น้อย ที่ 1.2 หมื่นบาท กลายเป็นหนังสารคดีทำรายได้เฉลี่ยต่อโรงในวันแรกสูงเป็นอันดับที่ 3 ของปีนี้ (ตามหลังหนังทั้งสองเรื่องของวง BTS อย่าง BTS World Tour: Love Yourself in Seoul และ Bring The Soul: The Movie ซึ่งทำเงินเฉลี่ยต่อโรงวันแรกมากกว่าห้าหมื่นบาททั้งคู่)

และหนังดราม่า ตัวแทนจากประเทศแอลจีเรียเข้าชิงรางวัลออสการ์สาขาภาพยนตร์ต่างประเทศยอดเยี่ยมในปีหน้า อย่าง Papicha ทำเงินวันแรกในบ้านเราไป 8,340 บาท จากวงจำกัดไม่ถึงสิบโรงฉาย