ถึงคราวของอีกหนึ่งหนังภาคต่อฟอร์มเต็งจากค่ายดิสนี่ย์ อย่าง Maleficent: Mistress of Evil ที่ขอสยายปีก ออกทะยานคว้าแชมป์ไปครองล่วงหน้าตั้งแต่วันพุธที่ผ่านมา ด้วยรายได้เปิดตัววันแรกที่สูงถึง 16.85 ล้านบาท เบียดแซงซิมบาเจ้าป่า The Lion King (ที่ 15 ล้านบาท) ขึ้นแท่นเป็นหนังดัดแปลงจากแอนิเมชั่นชื่อดังของค่ายดิสนี่ย์เปิดตัววันแรกสูงสุดในรอบปีนี้ และรับไม้ต่อตำแหน่งรายได้เปิดตัววันแรกสูงเป็นอันดับ 4 ของปีนี้จาก The Lion King มาครองด้วยเช่นกัน (ตามหลังสามหนังซูเปอร์ฮีโร่มาร์เวล อย่าง Avengers: Endgame , Captain Marvel และ Spider-Man: Far From Home ซึ่งทำเอาไว้มากกว่าสามสิบล้านบาททั้งสามเรื่อง)

นอกจากนั้นคุณแม่มาลียังสามารถทุบสถิติเป็นหนังดัดแปลงจากแอนิเมชั่นชื่อดังของค่ายดิสนี่ย์เปิดตัววันแรกสูงสุดตลอดกาลในบ้านเรา แทนที่ The Jungle Book ซึ่งยึดตำแหน่งนี้เอาไว้แน่นมาตลอดสามปีกว่าๆ (เปิดตัววันแรกที่ 16.2 ล้านบาท) รวมไปถึงขึ้นแท่นเป็นหนังเปิดตัววันแรกสูงสุดในบ้านเราของเหล่านักแสดงหญิง ทั้งสองนักแสดงต่างรุ่นที่ร่วมงานกันมาตั้งแต่ภาคก่อน อย่างแองเจลิน่า โจลี่ด้วย , แอลล์ แฟนนิ่ง (รอรับไม้ต่อมาอย่างยาวนาน จาก Maleficent ภาคแรกเมื่อ 5 ปีก่อนเหมือนกัน ที่ 10 ล้านบาท) และอีกหนึ่งนักแสดงรุ่นใหญ่ที่เพิ่งมีบทบาทในภาคนี้ อย่าง มิเชลล์ ไฟเฟอร์ (มากกว่าหนังฮีโร่มาร์เวลเมื่อปีก่อน อย่าง Ant-Man and the Wasp เคยทำเอาไว้ที่ 14 ล้านบาท)

แชมป์เก่าสองสมัยอย่าง Joker ทำรายได้วันพุธที่ผ่านมาไปอีก 2.03 ล้านบาท (ลดลงจากวันพุธที่แล้ว 75%) และทำเงินรวมสองสัปดาห์เต็มไปแล้ว 106 ล้านบาท เข้าป้ายหนังร้อยล้านเรื่องที่ 10 ของปีนี้เรียบร้อยแล้ว (ส่วนอันดับในกลุ่มหนังทำเงินสูงสุดประจำปีนี้ ล่าสุดโจ๊กเกอร์ไต่ขึ้นมาอยู่อันดับที่ 8 ตามหลังเจ้าป่า The Lion King ที่ 112 ล้านบาทอีกไม่ไกลเท่าไหร่แล้ว) รวมไปถึงขึ้นแท่นเป็นหนังร้อยล้านเป็นเรื่องแรกในบ้านเราของตัวละครวายร้ายโจ๊กเกอร์ด้วยเช่นกัน (สถิติสูงสุดเดิมของหนังที่มีโจ๊กเกอร์ร่วมแสดงด้วยเป็นของหนังรวมพลวายร้ายอย่าง Suicide Squad เคยทำเงินเอาไว้ที่ 99 ล้านบาท) ส่วนในกลุ่มหนังจากค่าย DC ด้วยกัน ล่าสุดโจ๊กเกอร์หยุดอยู่ที่อันดับ 6 หนังทำเงินสูงสุดตลอดกาลของค่าย ตามหลัง Wonder Woman อยู่อีกพอสมควร ที่ 117 ล้านบาท

อีกหนึ่งเรื่องที่ทำเงินเมื่อวันพุธที่ผ่านมา คือหนังไทยแอ็กชั่น-แฟนตาซีปนฮา อย่าง ขุนแผน ฟ้าฟื้น ทำเงินวันพุธที่ผ่านมาไปอีก 1.62 ล้านบาท และทำเงินรวมหนึ่งสัปดาห์เต็มไปแล้ว 19.68 ล้านบาท กระโดดเข้าสู่ Top 5 หนังไทยทำเงินสูงสุดของปีนี้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว (มาหยุดอยู่อันดับที่ 4 แทนที่ ออนซอนเด ที่ 19 ล้านบาท)

ส่วนหนังโรงภาคล่าสุดของเจ้าหุ่นยนต์เหมียวสีฟ้า อย่าง Doraemon: Nobita’s Chronicle of the Moon Exploration ทำเงินวันพุธที่ผ่านมาไปอีก 3.2 แสนบาท (ลดลงจากวันพุธที่แล้ว 67%) และทำเงินรวมสองสัปดาห์เต็มไปแล้ว 13.74 ล้านบาท แซงภาค Nobita’s Treasure Island ที่เข้าฉายไปเมื่อปีก่อน (ทำเงินรวมไปทั้ง 12 ล้านบาท) ขึ้นแท่นเป็นหนังโรงโดราเอม่อนฉบับสองมิติภาคที่ทำเงินสูงสุดตลอดกาลในบ้านเราเป็นที่เรียบร้อย (แต่ยังตามหลัง Stand By Me Doraemon ที่ยังครองสถิติหนังโดราเอม่อนทุกเวอร์ชั่นในบ้านเราอีกไกลทีเดียว) รวมไปถึงใกล้จะเข้าสู่ Top 5 หนังอนิเมะญี่ปุ่นทำเงินสูงสุดตลอดกาลในบ้านเรา ด้วยการทำเงินแซงอีกหนึ่งอนิเมะหนังโรงเมื่อปีก่อนอย่าง Dragon Ball Super: Broly ในอีกไม่กี่วันข้างหน้านี้แล้ว (ห่างกันเพียงหลักหมื่นบาทเท่านั้น)

และหนังการเมืองชวนระทึก อย่าง Official Secrets ทำเงินวันพุธที่ผ่านมาไปอีก 1.4 แสนบาท รวมหนึ่งสัปดาห์เต็มทำเงินไปแล้วทั้งสิ้น 2.25 ล้านบาท