[Thailand Box Office] หนังทำเงินประจำสุดสัปดาห์ที่ 22-25 สิงหาคม 2562 : Angel Has Fallen ฝ่ากระสุนเข้าป้ายแชมป์สุดสัปดาห์

แชมป์ประจำสุดสัปดาห์ถึงคราวเปลี่ยนมือมาเป็นของหนังบู๊ปิดไตรภาคอย่าง Angel Has Fallen ที่วิ่งเข้าป้ายมาด้วยรายได้ 18.69 ล้านบาท ซึ่งอาจจะเป็นตัวเลขที่ไม่หวือหวามากเท่าไหร่นักเมื่อเทียบกับรายได้เปิดตัวของหนังแอ็กชั่นสาดกระสุนภาคต่อเรื่องอื่นๆ (โดยเฉพาะในปีนี้ที่เพิ่งจะมีหนังแอ็กชั่นภาคที่สามเหมือนกันอย่าง John Wick: Chapter 3 – Parabellum เปิดตัวสูงถึง 63 ล้านบาทเมื่อไม่กี่เดือนก่อนหน้านี้) รวมไปถึงทำเงินเปิดตัวลดลงจากภาคก่อนอย่าง London Has Fallen ซึ่งยังคงเป็นภาคที่เปิดตัวสูงที่สุดอยู่ (ที่ 25 ล้านบาท) ส่วนในเครดิตของพระเอกเจอราร์ด บัตเลอร์ นั้น บทบาทเจ้าหน้าที่ไมค์ แบนนิ่งในหนนี้คือหนังที่เปิดตัวสูงเป็นอันดับ 8 ในเครดิตของเขา (โดยสถิติสูงสุดคือหนังในปีนี้เช่นกันโดยเป็นการให้เสียงพากย์ใน How to Train Your Dragon: The Hidden World ซึ่งทำเงินเปิดตัวในบ้านเราสูงถึง 55 ล้านบาท)

อีกหนึ่งหนังใหม่อย่างเจ้าสาวซ่อนแอบ Ready or Not เข้าป้ายมาในฐานะรองแชมป์ กับรายได้เปิดตัวสุดสัปดาห์แรกที่ 5.85 ล้านบาท ใช้เวลาเพียงสุดสัปดาห์เดียวขึ้นแท่นเป็นหนังทำเงินรวมสูงสุดในเครดิตของนางเอกสาวซามาร่า วีฟวิ่ง เป็นที่เรียบร้อยแล้ว (แซง Monster Trucks เมื่อสามปีก่อน ที่ 4 ล้านบาทไปแบบไม่ยากเย็นนัก)

แชมป์เก่าเมื่อสุดสัปดาห์ก่อนอย่าง Crawl เก็บเงินสุดสัปดาห์นี้ไปอีก 5.33 ล้านบาท (ลดลงจากสุดสัปดาห์แรก 74% ซึ่งลดลงมามากเป็นอันดับ 3 ของปีนี้ในกลุ่มหนังที่เปิดตัวสุดสัปดาห์แรกมากกว่ายี่สิบล้านบาทด้วยกัน) และทำเงินรวมสองสัปดาห์ไปแล้ว 32.52 ล้านบาท โดยหนังไต่ขึ้นมาอยู่อันดับ 2 หนังเกี่ยวกับจระเข้ทำเงินสูงสุดในบ้านเราไปไม่กี่วันก่อนหน้านี้แล้ว (แซงหนังไทยแหวกแนวอย่าง The Pool นรก 6 เมตร ที่ 27 ล้านบาท) แต่โอกาสที่จะแซงขึ้นไปเป็นอันดับหนึ่งน่าจะยากมากๆ แล้ว เพราะยังตามหลังเจ้าของแชมป์ตลอดยี่สิบปี อย่าง Lake Placid อยู่พอสมควรทีเดียว (ตามอยู่มากกว่าสิบล้านบาท) แต่อย่างน้อยๆ หนังก็ขึ้นแท่นเป็นหนังทำเงินรวมในบ้านเราสูงสุดของผู้กำกับอเล็กซานเดร อาจาไปได้ซักพักหนึ่งแล้ว (แทนที่อีกหนึ่งหนังสัตว์สยองใต้น้ำอย่าง Piranha 3D ซึ่งทำเงินรวมเอาไว้ที่ 21 ล้านบาท)

ยังคงอยู่กับอีกหนึ่งหนังใหม่ อย่างเด็กพลังอสูร Brightburn เปิดตัวสุดสัปดาห์แรกไปที่ 3.05 ล้านบาท ซึ่งเกือบจะเท่ากับรายได้รวมตลอดการฉายของอีกหนึ่งหนังเด็กนรกในปีนี้เช่นกันอย่าง The Prodigy เลยทีเดียว (3 ล้านบาท)

อดีตแชมป์สองสมัย อย่าง Fast & Furious Presents: Hobbs & Shaw เก็บเงินสุดสัปดาห์นี้ไปอีก 3.01 ล้านบาท (ลดลงจากสุดสัปดาห์ก่อน 65%) ซึ่งเป็นรายได้สุดสัปดาห์ที่สี่สูงในระดับ Top 5 ของปีนี้อยู่ (อยู่อันดับที่ 5 พอดี ตามหลัง Aladdin ไม่มาก ที่ 3.7 ล้านบาท) และกวาดเงินรวมสี่สัปดาห์ไปแล้ว 169.53 ล้านบาท ซึ่งสูงเป็นอันดับ 4 ในเครดิตของนักแสดงกล้ามโต เดอะร็อค ดเวย์น จอห์นสัน (ตามหลัง Fast & Furious ภาคที่ 6-8 ซึ่งทำเอาไว้มากกว่าสองร้อยล้านบาท) และสูงเป็นอันดับ 3 ในเครดิตของนักแสดงขาบู๊เจสัน สเตทแธม (ตามหลังหนังตระกูล Fast & Furious ทั้งสองภาคเช่นกัน นั่นคือภาคที่ 7 และ 8)

หนังเกาหลีเรื่องใหม่อย่าง The Divine Fury ทำเงินเปิดตัวสุดสัปดาห์แรกไป 1.62 ล้านบาท ซึ่งเป็นรายได้เปิดตัวสุดสัปดาห์แรกสูงเป็นอันดับ 4 ในกลุ่มหนังเกาหลีปีนี้ด้วยกัน (แชมป์เป็นหนังเจ้าของรางวัลปาล์มทองคำอย่าง Parasite ที่หนุ่มพัค ซอจุนร่วมแสดงด้วย ซึ่งเปิดตัวเอาไว้ที่ 5 ล้านบาท) และกระโดดขึ้นมาอยู่อันดับที่ 4 หนังเกาหลีทำเงินสูงสุดของปีนี้ได้แล้วด้วยเช่นกัน (ตามหลังหนังคอนเสิร์ทวง K-Pop ชื่อดัง อย่าง BTS World Tour: Love Yourself in Seoul อีกไม่มากแล้ว ที่ 2 ล้านบาท)

ด้านหนังดัดแปลงจากชีวประวัตินักกอล์ฟหญิงชาวไทยชื่อดังระดับโลก อย่าง โปรเม อัจฉริยะ/ต้อง/สร้าง ดูเหมือนว่ากระแสปากต่อปากเชิงบวกจะเริ่มส่งผลต่อหนังบ้างแล้ว จากรายได้สุดสัปดาห์นี้ที่เก็บไปอีก 1.25 ล้านบาท ซึ่งลดลงจากสุดสัปดาห์ก่อนเพียง 39% เท่านั้น ทำสถิติเป็นหนังไทยทำเงินลดลงจากสุดสัปดาห์แรกน้อยที่สุดของปีนี้ (เบียดแชมป์เก่าอย่าง พี่นาค ที่ 41% ไปแบบหวุดหวิด) และทำเงินรวมสองสัปดาห์ไปแล้ว 5.23 ล้านบาท

ส่วนหนังหลอนติดเรทอย่าง Midsommar ทำเงวินสุดสัปดาห์นี้ไปอีก 9.9 แสนบาท (ลดลงจากสุดสัปดาห์แรก 75%) และทำเงินรวมสองสัปดาห์ไปแล้ว 6.41 ล้านบาท ยังคงห่างจากผลงานเรื่องก่อนของผู้กำกับ อาริ แอสเตอร์ อย่าง Hereditary ที่อยู่อีกพอสมควรทีเดียว (ที่ 13 ล้านบาท)