สุดสัปดาห์นี้ ตำแหน่งแชมป์ถึงเวลาเปลี่ยนมือมาเป็นของเจ้าจระเข้โหดอย่าง Crawl ที่ขย้ำรายได้สุดสัปดาห์แรกจากบ้านเราไป 20.94 ล้านบาท กลายเป็นหนังผจญกับจระเข้ที่เปิดตัวสูงที่สุดในบ้านเราตั้งแต่ปี 2000 เป็นต้นมา (มากกว่าหนังไทยชวนระทึกอย่าง The Pool นรก 6 เมตร เมื่อปีก่อน เคยเปิดตัวสุดสัปดาห์แรกเอาไว้ที่ 13 ล้านบาท) รวมไปถึงเป็นหนังสัตว์ร้ายใต้น้ำเปิดตัวสูงอันดับต้นๆ ของบ้านเราในรอบทศวรรษที่ผ่านมา เป็นรองเพียงหนังทุนสูงอย่าง The Meg (ที่ 34 ล้านบาท) เพียงเรื่องเดียว และขึ้นแท่นเป็นหนังเปิดตัวสุดสัปดาห์แรกสูงสุดของผู้กำกับอเล็กซานเดร อาจาในบ้านเราได้อย่างง่ายดาย (มากกว่าอีกหนึ่งหนังสัตว์สยองใต้น้ำอย่าง Piranha 3D ที่เคยเปิดตัวในบ้านเราไป 7 ล้านบาทอยู่หลายช่วงตัว)

แชมป์เก่าสองสมัยอย่าง Fast & Furious Presents: Hobbs & Shaw ลงมาอยู่อันดับที่สอง กับรายได้สุดสัปดาห์นี้ที่เก็บไปอีก 8.73 ล้านบาท (ลดลงจากสุดสัปดาห์ก่อน 67%) และทำเงินรวมสามสัปดาห์ไปแล้ว 163.52 ล้านบาท อันดับในรอบปีนี้ รวมไปถึงอันดับในกลุ่มหนังตระกูล Fast & Furious ด้วยกันคงไม่เหลืออะไรให้ต้องลุ้นแล้ว (เพราะโอกาสที่สองคู่หูจะไต่ขึ้นไปถึงหลักสองร้อยล้านแทบจะหมดลงไปแล้ว) แต่อย่างน้อยๆ Hobbs & Shaw ก็ยังได้ชื่อว่าเป็นหนังที่ไม่ใช่ภาคต่อ ทำเงินสูงที่สุดในเครดิตของสองพระเอกคู่กัดอย่าง เดอะร็อค ดเวย์น จอห์นสัน (มากกว่าหนังจากเกมดังอย่าง Rampage เมื่อปีก่อน ที่ 96 ล้านบาท) และ เจสัน สเตทแธม (เอาชนะฉลามยักษ์ The Meg เมื่อปีก่อนเช่นกัน ที่ 79 ล้านบาท) เป็นที่เรียบร้อย

อีกหนึ่งหนังใหม่ประจำสุดสัปดาห์นี้ กับหนังสยองอย่าง Midsommar เปิดตัวสุดสัปดาห์แรกไป 4 ล้านบาท ซึ่งถือว่าตามหลังผลงานเรื่องแจ้งเกิดให้กับผู้กำกับอาริ แอสเตอร์ อย่าง Hereditary ไม่มากนัก (เปิดตัวสุดสัปดาห์แรกไว้ที่ 6 ล้านบาท) และกลายเป็นหนังทำเงินสูงสุดในปีนี้ของนางเอกสาวฟลอเรนซ์ พิวจ์ไปแล้ว (เรื่องก่อนหน้าในปีนี้คือหนังดัดแปลงจากชีวิตของนักมวยปล้ำสาวชื่อดัง อย่าง Fighting with My Family ทำเงินในบ้านเราไปเกือบสองล้านบาท)

รองแชมป์เมื่อสุดสัปดาห์ที่แล้วอย่างสาวน้อย Dora and the Lost City of Gold ทำเงินสุดสัปดาห์นี้ไปอีก 2.76 ล้านบาท (ลดลงจากสุดสัปดาห์ก่อน 58%) และทำเงินรวมสองสัปดาห์ไปแล้ว 13.47 ล้านบาท เบียดแซงหนังภาคต่อจากการ์ตูนทีวีค่าย Nickelodeon  เช่นกัน อย่าง The SpongeBob Movie: Sponge Out of Water (ที่ 13 ล้านบาท) ไปได้แล้วแบบหวุดหวิด

หนังดัดแปลงจากชีวประวัตินักกอล์ฟหญิงชาวไทยชื่อดังระดับโลก อย่าง โปรเม อัจฉริยะ/ต้อง/สร้าง ซึ่งเข้าฉายรอบพิเศษไปเมื่อสุดสัปดาห์ก่อน ขยับขึ้นมาอยู่ใน Top 5 สุดสัปดาห์นี้กับรายได้ที่เก็บไปอีก 2.06 ล้านบาท รวมรายได้จากการฉายรอบพิเศษไปเมื่อสุดสัปดาห์ก่อน ทำเงินรวมไปแล้วทั้งสิ้น 3.1 ล้านบาท

ส่วนหนังเกาหลีเจ้าของรางวัลปาล์มทองคำ อย่าง Parasite ทำเงินสุดสัปดาห์นี้ไปอีก 1.45 ล้านบาท (ลดลงจากสุดสัปดาห์ก่อน 64%) และทำเงินรวมสี่สัปดาห์ไปแล้ว 27.45 ล้านบาท

อนิเมะหนังโรงเรื่องดังจากญี่ปุ่นอย่าง ยอดนักสืบจิ๋วโคนัน Detective Conan The Movie 23: The Fist of Blue Sapphire แม้จะร่วงลงมาไกลจากสุดสัปดาห์ก่อน (ทำเงินไปอีก 1 ล้านบาท ลดลงจากสุดสัปดาห์แรกถึง 80%) แต่รายได้รวมสองสัปดาห์ที่เก็บไปแล้ว 7.31 ล้านบาท ก็เพียงพอที่จะทำให้โคนันภาคนี้ ขึ้นแท่นเป็นหนังโรงโคนันภาคที่ทำเงินสูงที่สุดในบ้านเราเป็นที่เรียบร้อย เฉือนเอาชนะภาคที่ 22 อย่าง Zero the Enforcer ซึ่งเพิ่งจะขึ้นแท่นแชมป์ได้เมื่อปีก่อนนี่เอง ที่ 7 ล้านบาท และกระโดดเข้าสู่ Top 3 หนังเอเชียทำเงินสูงสุดของปีนี้ได้แล้วด้วยเช่นกัน (เป็นรอง Parasite และ The Knight of Shadows: Between Yin and Yang ซึ่งตามเรื่องหลังเพียงล้านเดียวแล้ว)

ด้านเจ้าป่า The Lion King ที่ทำเงินห้าสัปดาห์ไปแล้ว 111.27 ล้านบาท คงจะหยุดอยู่อันดับที่ 2 หนังแอนิเมชั่นทำเงินสูงสุดตลอดกาลในบ้านเราเป็นที่แน่นอนแล้ว (ยังตามหลังพลพรรค Minions อยู่อีกห้าล้านบาท)

Top 10 สุดสัปดาห์นี้ ทำเงินรวมกันไปทั้งสิ้น 43 ล้านบาท

ลดลงจาก Top 10 สุดสัปดาห์ก่อน 23% (56 ล้านบาท)

และลดลงจาก Top 10 สุดสัปดาห์เดียวกันของปีก่อน 19% (53 ล้านบาท)

ซึ่งเป็นสุดสัปดาห์ที่หนังฉลามยักษ์ อย่าง The Meg ยังคงครองแชมป์ต่อเป็นสมัยที่สอง ด้วยรายได้ 14 ล้านบาท (โดยมีหนังสารคดีวงไอดอลไทยชื่อดัง อย่าง BNK48: Girls Don’t Cry เปิดตัวเข้ามาในฐานะรองแชมป์ที่รายได้ 10 ล้านบาท)