เริ่มต้นเดือนสิงหากันแบบคึกคัก กับการมาของหนังแอ็กชั่นสนั่นจอ อย่าง Fast & Furious Presents: Hobbs & Shaw ที่ยังเรียกแฟนๆ เดอะฟาสต์และแฟนๆ ของสองพระเอกดังให้เข้าโรงกันแบบเนืองแน่น จนกวาดเงินสุดสัปดาห์แรกไปถึง 78.59 ล้านบาท (รวมห้าวัน ทำเงินไปแล้วถึง 92.81 ล้านบาท) ทะยานเข้าสู่ Top 5 หนังเปิดตัวสุดสัปดาห์แรกสูงสุดของปีนี้ไปตามฟอร์ม (หยุดอยู่อันดับที่ 4 ตามหลังสามหนังจักรวาลมาร์เวลเจ้าเก่า อย่าง Avengers: Endgame , Captain Marvel และ Spider-Man: Far From Home ที่ทำเอาไว้มากกว่าหลักร้อยล้านบาท) และหากนับเฉพาะหนังที่ไม่ใช่ภาคต่อด้วยกัน คู่หูมหาประลัยของเราก็จะกระโดดถึงอันดับ 2 รายได้เปิดตัวสูงสุดของกลุ่มในปีนี้ เป็นรอง Captain Marvel (112 ล้านบาท) เพียงเรื่องเดียวเท่านั้น

ส่วนในกลุ่มหนังจากจักรวาล Fast & Furious ด้วยกันก็ไม่น้อยหน้าภาคอื่นๆ เพราะคู่หูคู่กัดของเราสามารถสอดแทรกขึ้นมาถึง Top 5 เปิดตัวสูงสุดของกลุ่มได้เลย (หยุดอยู่อันดับที่ 4 ตามหลัง Fast & Furious ภาคหลักสามภาคหลังสุดที่เปิดตัวกันเอาไว้มากกว่าหลักร้อยล้านบาท) และใช้เวลาเพียงห้าวัน กระโดดเข้า Top 5 หนังทำเงินรวมสูงสุดของจักรวาล Fast & Furious เป็นที่เรียบร้อยแล้ว (มาอยู่อันดับที่ 5 แทนที่ Fast & Furious 4 ที่ 92 ล้านบาทเช่นกันไปแบบหวุดหวิด!) รวมไปถึงกลายเป็นหนังที่ไม่ใช่ภาคต่อเปิดตัวสูงสุดในเครดิตของสองนักแสดงนำอย่าง เดอะร็อค ดเวย์น จอห์นสัน (สถิติเดิมเป็นของ Rampage เมื่อปีก่อนที่ 43 ล้านบาท) และ เจสัน สเตทแธม แทนที่ The Meg เมื่อปีก่อนเช่นกันที่ 34 ล้านบาท)

อีกหนึ่งเรื่องที่ฮอตฮิตไม่แพ้กัน คือหนังเกาหลีเจ้าของรางวัลปาล์มทองคำ อย่าง Parasite ที่สุดสัปดาห์นี้ โชว์พลังกระแสปากต่อปากเรียกคนดูได้อย่างเหลือเชื่อ จากรายได้ที่เก็บไปอีก 7.05 ล้านบาท ซึ่งเพิ่มขึ้นจากสุดสัปดาห์แรกถึง 40%! และกลายเป็นหนังเรื่องแรกอย่างเป็นทางการของปีนี้ที่ทำรายได้สุดสัปดาห์ที่สองเพิ่มขึ้นจากสุดสัปดาห์แรก (ใกล้เคียงที่สุดก่อนหน้านี้คือเจ้าของรางวัลออสการ์ภาพยนตร์ยอดเยี่ยม อย่าง Green Book ที่ลดลงไปเพียง 1% เท่านั้น) ส่วนรายได้รวมสองสัปดาห์ ทำไปแล้ว 17.08 ล้านบาท นอกจากจะขึ้นแท่นเป็นหนังทำเงินสูงสุดในบ้านเราของผู้กำกับบงจุนโฮเป็นที่เรียบร้อยแล้ว (แซง Snowpiercer ที่ 15 ล้านบาท) ยังก้าวเข้าสู่ Top 5 หนังเกาหลีทำเงินสูงสุดตลอดกาลในบ้านเราได้แล้วด้วย (อยู่อันดับที่ 4 เตรียมตัวแซง Windstruck ที่ 17 ในไม่ช้านี้)

แชมป์เก่าสองสมัยอย่าง The Lion King ที่ผ่านหลักร้อยล้านได้เป็นเรื่องที่ 8 ของปีนี้เมื่อวันพฤหัสที่ผ่านมา ทำเงินสุดสัปดาห์นี้ไปอีก 6.44 ล้านบาท (ลดลงจากสุดสัปดาห์ก่อน 70%) และทำเงินรวมสามสัปดาห์ไปแล้ว 105.86 ล้านบาท แซง Aladdin (105 ล้านบาท) ขึ้นแท่นเป็นหนังดัดแปลงจากแอนิเมชั่นค่ายดิสนี่ย์ทำเงินสูงสุดของปีนี้ และถ้าหากจัดหนังเรื่องนี้อยู่ในหมวดหนังแอนิเมชั่น เจ้าป่าของเราก็จะก้าวขึ้นมาเป็นหนังแอนิเมชั่นทำเงินสูงสุดของปีนี้ แทนที่ How to Train Your Dragon: The Hidden World (103 ล้านบาท) เรียบร้อยแล้วด้วย

ส่วนรองแชมป์เมื่อสุดสัปดาห์ก่อนอย่าง Child’s Play เก็บเงินสุดสัปดาห์นี้ไปอีก 2.06 ล้านบาท (ลดลงจากสุดสัปดาห์แรก 75%) และทำเงินรวมสองสัปดาห์ไปแล้ว 14.05 ล้านบาท ซึ่งทำได้แทบจะใกล้เคียงกับ Seed of Chucky เมื่อ 14 ปีที่แล้วเลยก็ว่าได้ (ทำเงินสองสัปดาห์ไปมากกว่านิดหน่อย ที่ 14 ล้านบาท)
และหนังปิดท้ายตารางอย่าง หลวงตามหาเฮง ที่เก็บเงินสุดสัปดาห์นี้ไปอีก 1.1 แสนบาท (ลดลงจากสุดสัปดาห์ก่อนถึง 94%) และทำเงินรวมสามสัปดาห์ไปแล้ว 14.93 ล้านบาท กระโดดเข้าสู่ Top 5 หนังไทยทำเงินสูงสุดของปีนี้ได้เป็นการส่งท้าย (แทนที่หนังอีกหนึ่งเรื่องของคุณพชร์ อานนท์ในปีนี้เช่นกัน อย่าง สงกรานต์ แสบสะท้านโลกันต์ ที่ 14 ล้านบาท)

Top 9 สุดสัปดาห์นี้ ทำเงินรวมกันไปทั้งสิ้น 95 ล้านบาท
เพิ่มขึ้นจาก Top 10 สุดสัปดาห์ก่อนถึง 93% (49 ล้านบาท)
และเพิ่มขึ้นจาก Top 10 สุดสัปดาห์เดียวกันของปีก่อนถึง 106% (46 ล้านบาท)
ซึ่งเป็นสุดสัปดาห์ที่หนังสายลับไฮเทคภาคต่อ Mission: Impossible – Fallout ยังคงครองแชมป์ต่อเป็นสมัยที่สอง กับรายรับที่ทำไปอีก 25 ล้านบาท (โดยมีหนังไทยเจาะแวดวงสตาร์ทอัพ App War แอปชนแอป เปิดตัวสูงสุดในกลุ่มหนังใหม่ที่รายได้ 7 ล้ายบาท)