สุดสัปดาห์หยุดยาวเนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษา สิงโตเจ้าป่า The Lion King ยังคงครองแชมป์ต่ออีกครั้งได้เป็นสมัยที่สอง กับรายได้สุดสัปดาห์นี้ที่เก็บไปอีก 22.18 ล้านบาท (ลดลงจากสุดสัปดาห์แรกเพียง 44%) ซึ่งเป็นรายสุดสัปดาห์ที่สองสูงถึงอันดับ 4 ของปีนี้ (เป็นรองสามหนังซูเปอร์ฮีโร่จากจักรวาลมาร์เวล อย่าง Avengers: Endgame , Captain Marvel และ Spider-Man: Far From Home ทำเอาไว้มากกว่าสามสิบล้านบาท) และทำเงินรวมสองสัปดาห์ไปแล้ว 90.11 ล้านบาท ขยับเข้าใกล้ตำแหน่งหนังร้อยล้านของปีนี้เข้าไปทุกขณะแล้ว และมีสิทธิ์ทำเงินแซง Aladdin ขึ้นเป็นหนังดัดแปลงจากแอนิเมชั่นค่ายดิสนี่ย์ ทำเงินรวมสูงที่สุดของปีนี้ด้วยเช่นกัน (อะลาดินทำเงินรวมสองสัปดาห์ไป 73 ล้านบาท)

เปิดตัวเข้ามาในฐานะรองแชมป์สำหรับ “ชัคกี้” เจ้าตุ๊กตาโหดฉบับใหม่ ใน Child’s Play ที่ทำเงินสุดสัปดาห์แรกในบ้านเราไป 8.5 ล้านบาท ซึ่งก็ถือว่าทำได้ไม่เลว เมื่อเทียบกับหนังฆาตกรจอมสังหารที่ถูกปัดฝุ่นกลับมาใหม่ด้วยกันก่อนหน้านี้ ทั้งหนังฮิตในอเมริกา อย่าง Halloween เมื่อปีก่อน (เปิดตัวไปเกือบ 7 ล้านบาท), Jigsaw และ Leatherface เมื่อสองปีก่อน (เปิดตัว 5 และเกือบ 1 ล้านบาท ตามลำดับ) แต่ถึงอย่างนั้น ชัคกี้ภาคนี้ก็ยังไม่ใช่ภาคที่เปิดตัวสุดสัปดาห์แรกในบ้านเราอยู่ดี โดยภาคที่เคยทำเอาไว้สูงที่สุดคือ Seed of Chucky เมื่อ 14 ปีก่อน เปิดตัวเอาไว้ที่ 9 ล้านบาท
หนังซูเปอร์ฮีโร่ Spider-Man: Far From Home เป็นอีกหนึ่งเรื่องที่ประคองตัวได้ค่อนข้างดีในสุดสัปดาห์นี้ โดยเก็บเงินไปอีก 5.31 ล้านบาท (ลดลงจากสุดสัปดาห์ก่อนเพียง 42%) ซึ่งเป็นรายได้สุดสัปดาห์ที่สี่สูงเป็นอันดับ 3 ของปีนี้ (แพ้ Captain Marvel ไปแค่แสนเดียวเท่านั้น) และทำเงินรวมสี่สัปดาห์ไปแล้ว 234.68 ล้านบาท ทำให้ไอ้แมงมุมภาคนี้ น่าจะหยุดอยู่ที่อันดับ 9 หนังซูเปอร์ฮีโร่ทำเงินสูงสุดตลอดกาลในบ้านเราแน่นอนแล้ว (ยังตามรายได้รวมของ The Avengers ภาคแรก ที่ 252 ล้านบาทค่อนข้างไกลอยู่)
หนังใหม่จากแดนกิมจิ เจ้าของรางวัลปาล์มทองคำปีล่าสุด อย่าง Parasite ที่ได้กระแสปากต่อปากช่วยดันให้รายได้ตลอดสุดสัปดาห์ขึ้นมาอยู่ที่ 5.02 ล้านบาท (จากสี่สิบกว่าโรงฉาย) จนกลายเป็นหนังเอเชียเปิดตัววันแรกสูงที่สุดในบ้านเราปีนี้ (พ่วงตำแหน่งหนังเกาหลีเปิดตัวสูงสุดในบ้านเราปีนี้) ได้ในที่สุด (เอาชนะหนังแฟนตาซี The Knight of Shadows: Between Yin and Yang ของพระเอกเฉินหลง ที่ 3 ล้านบาท และหนังคอนเสิร์ทวง K-Pop ชื่อดังอย่าง BTS World Tour: Love Yourself in Seoul ที่เปิดตัวสองวันสุดสัปดาห์ไป 1.7 ล้านบาท) และกลายเป็นหนังเกาหลีเปิดตัวสูงเป็นอันดับ 2 ในรอบ 3 ปีที่ผ่านมา (พ่ายให้กับหนังภาคต่อ Along with the Gods: The Last 49 Days ที่ 5 ล้านบาท ไปเพียงนิดเดียวเท่านั้น) ส่วนในเครดิตของผู้กำกับ บงจุนโฮ นั้น ชนชั้นปรสิตนั้นเปิดตัวน้อยกว่าหนังเรื่องก่อนหน้าที่ได้เข้าฉายในบ้านเราอย่าง Snowpiercer เพียงเรื่องเดียว (9 ล้านบาท)

ด้านสองหนังเก่าเมื่อสุดสัปดาห์ก่อนทั้ง หลวงตามหาเฮง และ The Current War ต่างก็ประคองตัวได้ดีในช่วงวันหยุดยาวนี้เช่นกัน โดยฝั่งหนังไทยอารมณ์ดีเก็บเงินสุดสัปดาห์นี้ไปอีก 2.04 ล้านบาท (ลดลงจากสุดสัปดาห์แรก 50%) และทำเงินรวมสองสัปดาห์ไปแล้ว 13.94 ล้านบาท ไต่อันดับขึ้นมาใกล้ Top 5 หนังไทยทำเงินสูวสุดของปีนี้เข้าไปทุกทีแล้ว (ล่าสุดขึ้นมาอยู่อันดับที่ 6 แทนที่หนังผีสามตอนย่อยอย่าง แช่ง ที่ 13 ล้านบาท)
ส่วนฝั่งของศึกกระแสไฟฟ้า เก็บเงินสุดสัปดาห์นี้ไปอีก 1.98 ล้านบาท (ลดลงจากสุดสัปดาห์แรก 45%) และทำเงินรวมไปแล้ว 7.17 ล้านบาท
หนังใหม่อีกสามเรื่องในสุดสัปดาห์นี้เริ่มกันที่หนังสยองขวัญไทย อย่าง บุษบา เปิดตัวสุดสัปดาห์แรกไป 1.86 ล้านบาท โดยเป็นตัวเลขเปิดตัวสูงเป็นอันดับที่ 5 ในกลุ่มหนังสยองขวัญไทยในปีนี้ด้วยกัน (ตามหลัง กระสือสยาม เปิดตัวเอาไว้ที่ 3 ล้านบาท) และขึ้นเป็นหนังเปิดตัวสูงสุดในเครดิตของนางเอก กรีน อัษฎาพร แทนที่ มิดไมล์ Racing Love เมื่อแปดปีก่อน (1 ล้านบาท) ส่วนคุณโย่ง อนุสรณ์ (หรือคุณโย่ง อารม์มแชร์) หนังเปิดตัวสูงสุดในเครดิตยังคงเป็นเรื่อง โอ้! มายโกสต์ คุณผีช่วย เมื่อหกปีก่อน (เปิดตัวเอาไว้ที่ 9 ล้านบาท)
หนังภาคต่อเอาใจคนรักสุนัข อย่าง A Dog’s Journey เปิดตัวสุดสัปดาห์แรกไป 1.84 ล้านบาท ซึ่งเปิดตัวน้อยกว่าภาคก่อนหน้าอย่าง A Dog’s Purpose และหนังดัดแปลงจากหนังสือของ ดับเบิ้ลยู. บรูซ คาเมรอน เช่นกัน อย่าง A Dog’s Way Home (เคยเปิดตัวเอาไว้ที่ 2 ล้านบาทด้วยกันทั้งคู่)
และหนังไทยเจ้าของตำแหน่งร้อยล้านเรื่องแรก ที่ได้กลับมาฉายในโรงภาพยนตร์อีกครั้งเนื่องในโอกาสครบรอบ 20 ปี อย่าง นางนาก เปิดตัวสุดสัปดาห์แรกไป 3.7 แสนบาท และทำเงินรวมรอบพิเศษไปทั้งสิ้น 4.4 แสนบาท (จากจำนวนยี่สิบโรง)

Top 10 สุดสัปดาห์นี้ ทำเงินรวมกันไปทั้งสิ้น 49 ล้านบาท
ลดลงจาก Top 10 สุดสัปดาห์ก่อน 17% (60 ล้านบาท)
และลดลงจาก Top 10 สุดสัปดาห์เดียวกันของปีก่อน 40% (83 ล้านบาท)
ซึ่งเป็นสุดสัปดาห์ที่หนังสายลับไฮเทคภาคต่อ Mission: Impossible – Fallout ก้าวเข้ามาคว้าแชมป์ในช่วงสุดสัปดาห์หยุดยาว ด้วยรายได้เปิดตัวสูงถึง 71 ล้านบาท