อีกหนึ่งหนังฟอร์มเต็งประจำซัมเมอร์ที่ทิ้งช่วงมาจากตอนก่อนอยู่นานโข อย่าง Men in Black: International ก้าวขึ้นมาคว้าแชมป์ประจำสุดสัปดาห์ไปครองได้ตามคาด จากรายได้เปิดตัวสุดสัปดาห์แรก 29.96 ล้านบาท (และทำรายได้รวม 5 วันตั้งแต่วันพุธไปแล้ว 37.04 ล้านบาท) ซึ่งพลาดตำแหน่ง Top 10 หนังเปิดตัวสุดสัปดาห์แรกสูงสุดของปีนี้ไปอย่างน่าเสียดาย (อยู่อันดับที่ 11 ตามหลังฮีโร่เด็กเกรียนจากค่ายดีซี อย่าง Shazam! ที่ 32 ล้านบาท) ส่วนในกลุ่มหนังตระกูล Men in Black ด้วยกัน ถือว่าลดลงมาจากตอนก่อนหน้าอย่าง Men in Black III อยู่พอสมควร (ทำสถิติรายได้เปิดตัวสูงสุดของหนังตระกูลนี้ไว้ที่ 40 ล้านบาท) ด้านเครดิตของสองนักแสดงนำทั้งพระเอกหนุ่มคริส เฮมส์เวิร์ธ และนางเอกสาวเทสซ่า ธอมป์สัน แน่นอนว่าหนังเปิดตัวสูงสุดในเครดิตของทั้งคู่คงหนีไม่พ้นมหากาพย์ฮีโร่มาร์เวล Avengers: Endgame ที่เพิ่งทุบสถิติตลอกาลไปไม่กี่เดือนก่อนหน้านี้เอง (251 ล้านบาท) แต่ถ้าหากไม่นับหนังจากตระกูลมาร์เวลเข้ามา ฝั่งนางเอกสาวเทสซ่าก็จะได้หนังเปิดตัวสูงสุดนอกตระกูลหนังมาร์เวลทันทีเช่นเดิม ส่วนหนุ่มคริสนั้น ถือเป็นหนังนอกตระกูลมาร์เวลเปิดตัวสุดสัปดาห์แรกสูงเป็นอันดับ 2 เป็นรอง Snow White and the Huntsman ที่เปิดตัวสุดสัปดาห์แรกเอาไว้ 33 ล้านบาท (ซึ่งเรื่องหลังถือว่าเปิดตัวสูงเป็นอันดับ 7 ในเครดิตของหนุ่มคริส หากนับหนังตระกูลมาร์เวลเข้ามาด้วย) ส่วนฝั่งของผู้กำกับเอฟ. แกรี่ เกรย์นั้น MIB ภาคนี้ถือเป็นหนังเปิดตัวสูงอันดับ 2 ในเครดิต เป็นรองหนังรถซิ่งฟอร์มโต Fast & Furious 8 เพียงเรื่องเดียว (แต่ทิ้งห่างกันร่วมร้อยล้าน! ที่ 129 ล้านบาท)

แชมป์เก่าเมื่อสุดสัปดาห์ก่อนอย่าง X-Men: Dark Phoenix ที่ออกอาการเมาหมัดหลังจากต้องรับศึกหนักหลายทาง เก็บเงินสุดสัปดาห์นี้ไปอีก 6.83 ล้านบาท (ลดลงจากสุดสัปดาห์แรกถึง 79%! ร่วงลงมาแรงที่สุดในกลุ่มหนังเปิดตัวสุดสัปดาห์แรกเกินสิบล้านบาทของปีนี้ด้วยกัน แทนที่ Godzilla: King of the Monsters ซึ่งร่วงน้อยกว่านิดหน่อยที่ 77%) และทำเงินรวมสองสัปดาห์ไปแล้ว 47.51 ล้านบาท ยังพอมีลุ้นที่จะทะลุเข้าสู่ Top 10 หนังทำเงินสูงสุดของปีนี้ตามเรื่องอื่นๆ ไปได้อยู่ (ล่าสุดอยู่อันดับที่ 13 ตามหลังอันดับ 10 อย่าง Pokémon Detective Pikachu ไม่ถึงสิบล้านบาทแล้ว) แต่ในกลุ่มหนังตระกูล X-Men ด้วยกัน น่าจะหนีไม่พ้นตำแหน่งภาคที่ทำเงินน้อยที่สุดแทบจะเป็นที่แน่นอนแล้ว เพราะทำเงินสองสัปดาห์ตามหลังภาคหลักที่เคยทำเงินน้อยที่สุดอย่าง X-Men: First Class (ทำเงินสองสัปดาห์ไป 59 ล้านบาท) และเรื่องที่ทำเงินน้อยที่สุดในตระกูลอย่าง X-Men Origins: Wolverine (ทำเงินสองสัปดาห์ไป 60 ล้านบาท) ค่อนข้างไกลทีเดียว
หนึ่งในหนังฟอร์มโตที่พลิกกลับมาฮิตเกินคาดประจำปีนี้อย่าง Aladdin ยังคงเกาะอยู่ใน Top 3 ไม่ขยับไปไหน เก็บเงินสุดสัปดาห์นี้ไปอีก 3.74 ล้านบาท (ลดลงจากสุดสัปดาห์ก่อนเกินครึ่งไปพอประมาณ ที่ 58%) ซึ่งเป็นรายได้สุดสัปดาห์ที่สี่สูงเป็นอันดับ 3 ของปีนี้ (เป็นรอง Avengers: Endgame และ Captain Marvel ที่ทำเอาไว้มากกว่าห้าล้านบาทเพียงสองเรื่อง) และกวาดเงินสี่สัปดาห์ไปแล้วถึง 101.05 ล้านบาท เข้าทำเนียบหนังร้อยล้านบาทในเขตกรุงเทพฯ, ปริมณฑลได้ตามเป้าเสียที (หลังจากที่ลุ้นกันอยู่นาน!) ซึ่งถือเป็นเรื่องที่ 6 ของปีนี้ (แต่ยังหยุดอยู่อันดับที่ 6 หนังทำเงินสูงสุดของปีนี้ แม้จะตามหลังแอนิเมชั่น How to Train Your Dragon: The Hidden World ที่ 103 ล้านบาทอีกไม่มากแล้ว) และเป็นเรื่องที่ 4 ในกลุ่มหนังคนแสดงดัดแปลงจากแอนิเมชั่นของค่ายดิสนี่ย์ด้วยกัน (ซึ่งก็น่าจะหยุดอยู่ที่อันดับ 4 หนังทำเงินสูงสุดของกลุ่มนี้ด้วย เพราะยังตามหลังโฉมงามกับเจ้าชายอสูร Beauty and the Beast ที่ 128 ล้านบาทอยู่อีกค่อนข้างไกล) รวมไปถึงกลายเป็นหนังเรื่องที่ 2 ของนักแสดงชื่อดังวิลล์ สมิธ ที่ทำเงินทะลุหลักร้อยล้านในบ้านเราขึ้นมาได้เสียที (ทิ้งห่างจากหนังร้อยล้านเรื่องก่อนที่เคยแจ้งเกิดให้กับบิ๊กวิลล์ อย่าง Independence Day ถึง 23 ปี!)

หนังแอนิเมชั่นภาคต่ออย่าง The Secret Life of Pets 2 ทำเงินสุดสัปดาห์นี้ไปอีก 3.61 ล้านบาท (ลดลงจากสุดสัปดาห์แรกเกินครึ่งไปไม่มากนัก ที่ 59%) และทำเงินรวมสองสัปดาห์ไปแล้ว 14.81 ล้านบาท แม้จะขยับอันดับขึ้นไปไกลกว่านี้ไม่ได้แล้ว ในกลุ่มหนังแอนิเมชั่นทำเงินสูงสุดของปีนี้ด้วยกัน (หยุดอยู่อันดับที่ 3) รวมไปถึงทำเงินสองสัปดาห์ตามหลังภาคแรกอยู่หลายช่วงตัว (ภาคแรกทำเงินสองสัปดาห์รวมรอบพิเศษเอาไว้ถึง 41 ล้านบาท!) แต่อย่างน้อยๆ ในกลุ่มแอนิเมชั่นจากค่าย Illumination ด้วยกัน แก๊งสัตว์เลี้ยงของเราก็ยังสามารถไต่อันดับขึ้นมา จนเข้าใกล้ Top 5 ของค่ายได้อยู่ (ล่าสุดอยู่อันดับที่ 6 ตามหลัง Sing อยู่ไม่กี่ล้านแล้ว)
ด้านราชันสัตว์ประหลาดยักษ์ Godzilla: King of the Monsters เก็บเงินสุดสัปดาห์นี้ไปอีก 2.97 ล้านบาท (ยังลดลงจากสุดสัปดาห์ก่อนค่อนข้างหนัก ถึง 72%!) และทำเงินรวมสามสัปดาห์ไปแล้ว 84.29 ล้านบาท กำลังจะแซง Godzilla ภาคก่อน (85 ล้านบาท) และมีสิทธิ์รวมไปถึง Kong: Skull Island (86 ล้านบาท) ขึ้นไปเป็นแชมป์ทำเงินสูงสุดของจักรวาล MonsterVerse ในอีกไม่นานนี้แล้ว
หนังใหม่อีกสองเรื่อง สองแนวที่เปิดตัวใน Top 10 สุดสัปดาห์นี้ประกอบไปด้วยหนังสยองกล้องระทึกขวัญ Polaroid ของผู้กำกับลาร์ส เคลฟเบิร์ก ทึ่กำลังจะมีเจ้าตุ๊กตาชัคกี้เวอร์ชั่นล่าสุดเข้าฉายในเร็วๆ นี้ เปิดตัวสุดสัปดาห์แรกไป 2.05 ล้านบาท ซึ่งก็ถือว่าไม่สูงมากนักเมื่อเทียบกับหนังแนวสยองขวัญจากประเทศในรอบปีนี้ด้วยกัน โดยเรื่องที่ทำได้ใกล้เคียงที่สุดคือหนังเด็ก(จอง)เวร The Prodigy เคยเปิดตัวเอาไว้เกือบสองล้านบาท
อีกหนึ่งเรื่องคือหนังฝรั่งเศสดัดแปลงจากวรรณกรรมชื่อดังอย่าง Remi, Nobody’s Boy เปิดตัวสุดสัปดาห์แรกไป 7.5 หมื่นบาท ซึ่งสูงเป็นอันดับ 3 ในกลุ่มหนังพูดภาษาฝรั่งเศสของปีนี้ด้วยกัน เป็นรอง City Hunter (1 ล้านบาท) และ Belleville Cop (เกือบ 2 แสนบาท) เช่นเคย
และปิดท้ายกันด้วยเจ้าของตำแหน่งหนังทำเงินสูงสุดตลอดกาลของบ้านเราอย่าง Avengers: Endgame ที่นอกจากจะทำเงินสุดสัปดาห์นี้เพิ่มขึ้นจากสุดสัปดาห์ก่อน! (เก็บไปอีก 3.4 แสนบาท และกวาดรายได้รวมไปแล้วถึง 617.39 ล้านบาท) ยังทำอีกหนึ่งสถิติในรอบปีนี้เป็นการส่งท้าย นั่นก็คือเป็นหนังที่อยู่ใน Top 10 ประจำสุดสัปดาห์ติดต่อกันยาวนานที่สุดของปีนี้ได้สำเร็จที่ 8 สัปดาห์ (รับไม้ต่อจาก Captain Marvel ที่ 7 สัปดาห์) และครองสถิติร่วมกับ Green Book เป็นหนังที่อยู่ใน Top 10 ประจำสุดสัปดาห์”รวมกัน”ยาวนานที่สุดของปีนี้อีกด้วยที่ 8 สัปดาห์เท่ากัน (แต่ Green Book อยู่ติดต่อกันที่ 7 สัปดาห์)

Top 10 สุดสัปดาห์นี้ ทำเงินรวมกันไปทั้งสิ้น 51 ล้านบาท
ลดลงจาก Top 10 สุดสัปดาห์ก่อน 20% (64 ล้านบาท)
และลดลงจาก Top 10 สุดสัปดาห์เดียวกันของปีก่อน 31% (74 ล้านบาท)
ซึ่งเป็นสุดสัปดาห์ที่หนังไดโนเสาร์ภาคต่อ Jurassic World: Fallen Kingdom ครองแชมป์ต่อเป็นสมัยที่สอง กับรายได้ที่ทำไปอีกถึง 54 ล้านบาท (โดยมีหนังแก๊งหญิงรวมทีมปล้น Ocean’s 8 เปิดตัวในฐานะรองแชมป์ด้วยรายได้ตามมาแบบห่างๆ ที่ 11 ล้านบาท)