หนังผีร่ำไห้แห่งจักรวาล The Conjuring อย่าง The Curse of the Weeping Woman ที่ฉายนำร่องรอบพิเศษไปเมื่อสุดสัปดาห์ก่อน กระโดดขึ้นมาคว้าแชมป์ประจำสุดสัปดาห์นี้ก่อนการกวาดล้างของพี่เบิ้มขาใหญ่แห่งปีได้สำเร็จ ด้วยรายได้สุดสัปดาห์แรก 7.66 ล้านบาท (รวมรายได้จากรอบพิเศษเมื่อสุดสัปดาห์ก่อน ผีร่ำไห้ทำเงินรวมไปแล้ว 9.93 ล้านบาท) ยังคงเป็นหนังสยองขวัญต่างประเทศเปิดตัวสูงเป็นอันดับ 2 ของปีนี้ (ตามหลัง Us ที่ 7.7 ล้านบาทไปแค่นิดเดียวเท่านั้น!) ขณะที่ในกลุ่มหนังจากจักรวาล Conjuring ด้วยกัน หากนับเฉพาะหนังเดี่ยวของบรรดาเหล่าผีๆ ด้วยกัน ผีร่ำไห้ยังคงทำรายได้เปิดตัวรั้งท้ายของกลุ่มอยู่เช่นเคย (ตามหลังตุ๊กตาผี Annabelle ภาคแรกเจ้าเก่า ที่ 12 ล้านบาท) ซึ่งก็พ่วงตำแหน่งหนังเดี่ยวของเหล่าผีๆ ทำเงินเปิดตัวสุดสัปดาห์แรกต่ำกว่าหลักสิบล้านเป็นเรื่องแรกของจักรวาล Conjuring อีกด้วย แต่ถ้าหากนับ The Conjuring ภาคหลักเข้ามาด้วย ผีร่ำไห้ของเราก็จะหลุดจากตำแหน่งบ๊วยของจักรวาลได้อีกครั้ง เพราะทำได้มากกว่าหนังเปิดจักรวาลผีอย่าง The Conjuring ภาคแรก ที่เคยเปิดตัวในบ้านเราไป 5 ล้านบาท

แชมป์เก่าเมื่อสัปดาห์ก่อนอย่าง Hellboy ตกลงมาอยู่อันดับ 2 กับรายรับสุดสัปดาห์นี้ที่เก็บไปอีก 6.74 ล้านบาท (ลดลงจากสุดสัปดาห์แรก 62%) และทำเงินรวมสองสัปดาห์ไปแล้ว 35.76 ล้านบาท ดูท่าจะหมดลุ้นทำเงินถึงหลักห้าสิบล้านไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งนอกจากจะทำเงินรั้งท้ายในกลุ่มหนังซูเปอร์ฮีโร่ฝั่งฮอลลิวู้ดของปีนี้ด้วยกันอยู่ (อยู่อันดับ 4 ตามหลังแอนิเมชั่นไอ้แมงมุม Spider-Man: Into the Spider-Verse ที่เก้บเงินไปเกือบห้าสิบล้าน) ก็น่าจะกลายเป็นหนังทำเงินน้อยที่สุดในตระกูล Hellboy ในบ้านเราเป็นที่แน่นอนแล้วด้วยเช่นกัน (เวอร์ชั่นก่อนหน้าของผู้กำกับเดล โตโร่ทั้งสองภาค ปิดรายได้กันเอาไว้มากกว่าห้าสิบล้านด้วยกันทั้งคู่)

ซูเปอร์ฮีโร่สุดเกรียนจากค่ายดีซีอย่าง Shazam! เก็บเงินสุดสัปดาห์นี้ไปอีก 3.5 ล้านบาท (ลดลงจากสุดสัปดาห์ก่อน 61%) และทำเงินรวมสี่สัปดาห์(รวมรอบพิเศษ)ไปแล้ว 71.01 ล้านบาท ขยับขึ้นมาสองอันดับ แซงทั้ง Constantine เวอร์ชั่นป๋าคีอานู รีฟส์ (69 ล้านบาท) และ Batman & Robin (70 ล้านบาท) มาอยู่อันดับ 11 หนังจากค่าย DC ทำเงินสูงสุดในบ้านเราเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และน่าจะพอมีลุ้นเฮือกสุดท้าย กระโดดแซง Batman Begins (72 ล้านบาท) เข้าสู่ Top 10 ได้อยู่

ฟากหนังไทยขายความฮาเรื่องใหม่ของผู้กำกับพชร์ อานนท์ อย่าง สงกรานต์ แสบสะท้านทรวง เก็บเงินสุดสัปดาห์นี้ไปอีก 2.82 ล้านบาท (ลดลงจากสุดสัปดาห์แรกเกินครึ่งไม่มาก ที่ 57%) ซึ่งเป็นรายได้สุดสัปดาห์ที่สองสูงเป็นอันดับ 4 ในกลุ่มหนังไทยปีนี้ (ปาดหน้า แช่ง ขึ้นมาได้ ที่ 2 ล้านบาท) และทำเงินรวมสองสัปดาห์ไปแล้ว 13.83 ล้านบาท กระโดดขึ้นมาอยู่อันดับ 4 หนังไทยทำเงินสูงสุดของปีนี้ได้แล้ว (แทนที่ แช่ง เจ้าเก่า ที่ 13 ล้านบาท และน่าจะเป็นอันดับสูงสุดที่หนังจะขึ้นมาได้แล้ว เพราะยังตามหลังอันดับ 3 อย่าง แสงกระสือ ที่เกือบสี่สิบล้านบาทอีกไกลโข!) แต่ถึงอย่างไรก็ยังคงทำเงินสองสัปดาห์ตามหลังหนังทั้งสามเรื่องของผู้กำกับพชร์เมื่อปีก่อนอยู่ ทั้ง หลวงพี่แจ๊ส 5G (15 ล้านบาท) , ตุ๊ดตู่กู้ชาติ (17 ล้านบาท) และ หอแต๋วแตก แหกต่อไม่รอแล้วนะ (26 ล้านบาท)

หนังใหม่อีกสามเรื่องใน Top 10 สัปดาห์นี้ เริ่มจากหนังโรแมนติกอย่าง Five Feet Apart ที่เปิดตัวสุดสัปดาห์แรกไป 2.1 ล้านบาท ทำได้มากกว่าหนังที่เดินเรื่องโดยตัวเอกที่เป็นผู้ป่วยเช่นกันเมื่อปีก่อนอย่าง Midnight Sun ที่ได้ลูกชายคนเหล็ก แพทริก ชวาร์เซเน็กเกอร์ มารับบทพระเอก และเปิดตัวสุดสัปดาห์แรกไป 1.4 ล้านบาท แต่ยังทำได้น้อยกว่าหนังที่หลายคนชื่นชอบอย่าง The Fault in Our Stars เคยเปิดตัวเอาไว้ที่ 3 ล้านบาท

ตามมาด้วยหนังใหม่ดัดแปลงจากชีวิตจริงของนักมวยปล้ำหญิงสังเวียน WWE อย่าง Fighting with My Family เปิดตัวสุดสัปดาห์แรกไป 1.23 ล้านบาท ซึ่งถือว่าสูงอันดับต้นๆ ในกลุ่มหนังเกี่ยวกับชีวิตนักมวยปล้ำอย่างที่เคยบอกไป เพราะยังไม่เคยมีหนังเกี่ยวกับนักมวยปล้ำเปิดตัวเกินหลักล้านขึ้นมาได้เลยในรอบหลายปีที่ผ่านมา ใกล้เคียงที่สุดเรื่องก่อนหน้าคือหนังดีกรีชิงออสการ์ Foxcatcher ก็ยังทำได้ห่างจากหลักล้านอยุ่พอสมควร ที่ 7 แสนบาท

อีกหนึ่งเรื่องคือหนังจอมพลังในตำนานอย่าง Samson เปิดตัวสุดสัปดาห์แรกไป 1.17 ล้านบาท แน่นอนน้อยกว่ารายได้ของหนังแนวดัดแปลงจากตำนานโบราณเรื่องอื่นๆ (ซึ่งส่วนใหญ่เป็นหนังฟอร์มโต) อยู่มากโข กระทั่งเรื่องที่น่าจะใกล้เคียงหน่อยอย่าง The Legend of Hercules ก็ยังทำได้ห่างกันเกินสิบเท่า! ที่ 12 ล้านบาท

ส่วนหนังสยองขวัญรีเมค Pet Sematary เก็บเงินสุดสัปดาห์นี้ไปอีก 1.18 ล้านบาท (ลดลงจากสุดสัปดาห์แรกเกือบ 70%) และทำเงินรวมสองสัปดาห์ไปแล้ว 7.46 ล้านบาท แซงหน้าอีกหนึ่งหนังรีเมคที่ดัดแปลงจากวรรณกรรมของสตีเฟ่น คิงส์ อย่าง Carrie (6 ล้านบาท) ไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

ซูเปอร์ฮีโร่หญิงแกร่งอย่าง Captain Marvel ถือว่าได้อานิสงค์จากแฟนๆ ที่มาดูเก็บตกก่อนส่งไม้ต่อให้กับแก๊งอเวนเจอร์อยู่พอสมควร เพราะเก็บเงินสุดสัปดาห์นี้ไปอีก 8.7 แสนบาท (ลดลงจากสุดสัปดาห์ที่แล้วแค่ 22% เท่านั้น!!) และทำเงินรวมเจ็ดสัปดาห์ไปแล้ว 260.46 ล้านบาท เก็บสองสถิติของปีนี้ส่งท้ายนั่นคือรายได้สุดสัปดาห์ที่เจ็ดสูงสุดของปีนี้ และติดอยู่ใน Top 10 ติดต่อกันยาวนานที่สุดของปีนี้ ร่วมกับ Green Book ที่ 7 สัปดาห์เท่ากัน (โดย Green Book รวมรอบพิเศษก่อนหน้านั้นเมื่อช่วงส่งท้ายปีก่อนหนึ่งสัปดาห์ด้วย แต่ถ้าหากนับทุกสุดสัปดาห์แบบไม่ติดต่อกันรวมกัน Green Book ยังคงเป็นเรื่องที่ติดอยู่ใน Top 10 มากที่สุดของปีนี้ที่ 8 สัปดาห์)

Top 10 สุดสัปดาห์นี้ ทำเงินรวมกันไปหงอยๆ เพียง 27 ล้านบาท (น้อยเป็นอันดับ 2 ของปีนี้)

ลดลงจาก Top 10 สุดสัปดาห์ก่อน 35% (43 ล้านบาท)

และลดลงจาก Top 10 สุดสัปดาห์เดียวกันเมื่อปีก่อน 21% (35 ล้านบาท)

ซึ่งเป็นสุดสัปดาห์ที่หนังสัตว์ประหลาดถล่มเมือง Rampage คว้าแชมป์ต่อเป็นสมัยที่สอง กับรายได้ที่ลดลงมาไม่มากนัก ที่ 19 ล้านบาท (โดยมีหนังแอ็กชั่น-คอเมดี้ภาคต่อจากเมืองน้ำหอม อย่าง Taxi 5 เปิดตัวสูงสุดในกลุ่มหนังใหม่ด้วยรายได้ 3 ล้านบาท)