ยังคงเป็นช่วงเวลาทองของหนังซูเปอร์ฮีโร่อย่างต่อเนื่อง เมื่อขาโหดสายพันธุ์นรก Hellboy กลับมาประกาศศักดาอีกครั้งในรอบสิบกว่าปี ด้วยการคว้าแชมป์วันเปิดตัวต้อนรับเทศกาลสงกรานต์ที่รายได้ 4.99 ล้านบาท ถือว่าทำได้ไม่เลวเลย เมื่อเทียบกับคำวิจารณ์ของหนังที่ค่อนข้างหนักหน่วง(ในทางลบ)อยู่พอสมควร ซึ่งอย่างน้อยๆ หนังก็ยังไต่เข้าสู่ Top 10 หนังเปิดตัววันแรกสูงสุดของปีนี้ได้อยู่ (หยุดอยู่อันดับที่ 6 ตามหลังอีกหนึ่งซูเปอร์ฮีโร่อย่าง Shazam! ที่ 7 ล้านบาท) และกระโดดเข้าสู่ Top 3 หนังซูเปอร์ฮีโร่เปิดตัววันแรกสูงสุดของปีนี้ไปตามสมควร (มาอยู่อันดับที่ 3 ตามหลัง Captain Marvel และ Shazam! เจ้าเก่า) รวมไปถึงขึ้นแท่นเป็นหนังเปิดตัวสูงสุดในเครดิตของผู้กำกับนีล มาร์แชลในบ้านเราเป็นที่เรียบร้อยแล้ว (รายได้เฮลล์บอยวันเดียว มากกว่ารายได้ทั้งสุดสัปดาห์ของ Doomsday ที่ 3 ล้านบาทเสียอีก!) แต่ถึงอย่างไรเมื่อเทียบกันในกลุ่มหนังที่ดัดแปลงมาจากการ์ตูนค่าย Dark Horse Comics ด้วยกัน เฮลล์บอยเวอร์ชั่นนี้ก็ยังไม่ใช่หนังที่ทำเงินสูงสุดในรอบหลายปีที่ผ่านมาของกลุ่มนี้อยู่ดี (นับเฉพาะในรอบ 7 ปีหลังสุด มีเพียงเรื่องเดียวที่ทำเงินวันแรกเกินห้าล้านบาท คือ 300: Rise of an Empire)

แชมป์เก่าสัปดาห์ก่อนอย่างฮีโร่สายพันธุ์เกรียน Shazam! ที่โดนเด็กนรกเล่นงานจนร่วงลงมาอยู่อันดับ 2 กับรายรับวันพฤหัสนี้ที่เก็บไปอีก 2.03 ล้านบาท (รูดลงจากสุดสัปดาห์ก่อนถึง 73%!!) ไต่ขึ้นไปไม่ถึง Top 5 รายได้วันพฤหัสสุดสัปดาห์ที่สองสูงสุดของปีนี้อย่างน่าเสียดาย (หยุดอยู่อันดับที่ 6 ตามหลัง Alita: Battle Angel เพียงสองแสนบาทเท่านั้น!) และเก็บเงินรวม 13 วัน (รวมรอบพิเศษ) ไปแล้ว 54.46 ล้านบาท คงหมดลุ้นหลักร้อยล้านไปเป็นที่แน่นอนแล้ว ซึ่งนั่นก็แทบจะการันตีตำแหน่งหนังทำเงินน้อยที่สุดในจักรวาลหนัง DC Extended ไปด้วยเลยเช่นกัน (เพราะอย่างน้อยๆ การที่จะแซงเรื่องที่ทำเงินน้อยสุดในกลุ่มนี้อย่าง Man of Steel ก็ต้องทำให้ได้ในระดับ “เฉียดร้อยล้าน” โน่นเลยทีเดียว!) อย่างไรก็ตาม อย่างน้อยๆ หนังก็สามารถกระโดดเข้าสู่ Top 5 หนังทำเงินสูงสุดของปีนี้ได้ตามเป้าหมายไปแล้ว (มาอยู่อันดับ 5 แทนที่หนังไทย พี่นาค ที่ 53 ล้านบาท และน่าจะเป็นอันดับสูงสุดที่หนังสามารถไต่ขึ้นมาได้แล้วล่ะ)

หนังไทยเรื่องใหม่ที่บอกกันชัดๆ บนชื่อหนังไปเลยว่าจะขายคนดูช่วงเทศกาลไหน อย่าง สงกรานต์ แสบสะท้านโลกันต์ ของผู้กำกับงานชุก พชร์ อานนท์ เปิดตัววันแรกไป 1.75 ล้านบาท กลายเป็นอีกหนึ่งเรื่องที่สามารถกระโดดเข้าสู่ Top 5 หนังไทยเปิดตัววันแรกสูงสุดของปีนี้ได้ด้วยเช่นกัน (มาอยู่อันดับที่ 5 แทนที่ กระสือสยาม ที่เพิ่งเข้ามาเมื่อสัปดาห์ก่อนนี่เองที่ 1.1 ล้านบาท) ส่วนเมื่อเทียบกับหนังของผู้กำกับพชร์เมื่อปีก่อน (ที่มีหนังเข้าฉายมากถึง 3 เรื่อง!!) หากไม่นับ หอแต๋วแตก แหกต่อไม่รอแล้วนะ ที่โกยเงินช่วงวันหยุดวันพ่อไปไม่น้อย (วันแรกวันเดียวสูงถึง 8 ล้านบาท) สงกรานต์ก็ถือว่าทำเงินวันแรกไม่หนีจากหนังเรื่องอื่นๆ ของคุณพชร์ในปีนั้นมากเท่าไหร่นัก ทั้งหนังภาคต่อ หลวงพี่แจ๊ส 5G ที่ทำเอาไว้ผิดฟอร์มจากภาคแรกค่อนข้างมาก (วันแรกเก็บไป 2 ล้านนิดๆ) หรือหนังที่ไม่ใช่ภาคต่ออย่าง ตุ๊ดตู่กู้ชาติ ซึ่งก็ทำได้แทบจะใกล้เคียงกัน (เปิดตัววันแรก 1.8 ล้านบาท)

อีกหนึ่งหนังใหม่คือหนังสยองขวัญรีเมค อย่าง Pet Sematary เปิดตัววันแรกไป 7.9 แสนบาท ซึ่งก็ถือว่าไม่เยอะมากเท่าไหร่ หลังจากที่ปีนี้มีหนังสยองขวัญต่างประเทศเปิดตัวในระดับเกินหลักล้านไปแล้ว (อย่างห้องเก็บศพสยอง Cadaver หรือที่เข้าฉายไปไม่นานนี้อย่าง Us) ส่วนในกลุ่มหนังดัดแปลงจากนิยายของสตีเฟน คิง อาจจะหลายเรื่องที่สามารถทำเงินทะลุหลักล้านในวันแรกแบบไม่ยากเย็นมากนัก (สองเรื่องก่อนหน้าเมื่อสองปีก่อน อย่าง The Dark Tower และ It เปิดตัววันแรกไป 2 และ 4 ล้านบาท ตามลำดับ) แต่ก็มีหลายเรื่องเช่นกันที่ทำได้ไม่แรงอย่างที่ควร หนึ่งในนั้นก็คือหนังรีเมคอย่าง Carrie เมื่อ 6 ปีก่อน ที่เปิดตัววันแรกไปได้ใกล้เคียงกันที่ 7 แสนบาท

สองหนังเอาใจคนรักสุนัขในสัปดาห์นี้ ซึ่งมีทั้งหน้าเก่าอย่าง A Dog’s Way Home ที่เก็บเงินพฤหัสนี้ไปอีก 2.9 แสนบาท (ลดลงจากพฤหัสแรกไม่ถึงครึ่ง! ที่ 44%) และเก็บเงินรวม 8 วันไปแล้ว 4.87 ล้านบาท ใกล้แซงรายได้รวมของ A Dog’s Purpose อีกหนึ่งเรื่องที่ดัดแปลงจากนิยายโดยคนเขียนคนเดียวกันในอีกไม่กี่วันนี้แล้ว (ปิดรายได้เอาไว้ที่ 5 ล้านบาท)

และหน้าใหม่อย่างแอนิเมชั่นของแก๊งขาสั้น The Queen’s Corgi เก็บเงินวันแรกไป 2 แสนบาท ซึ่งแอนิเมชั่นเกี่ยวกับสุนัขเรื่องที่ทำได้ใกล้เคียงกันก่อนหน้านี้เห้นจะเป็นหนังสตอปโมชั่นขวัญใจหลายๆ คนอย่าง Isle of Dogs ของผู้กำกับเวส แอนเดอร์สัน ที่เข้าฉายค่อนข้างจะวงจำกัด และเก็บเงินวันแรกไป 2 แสนบาท

หนังไทยรองแชมป์เมื่อสัปดาห์ก่อนอย่าง กระสือสยาม เก็บเงินพฤหัสนี้ไปอีก 1.9 แสนบาท (รูดลงจากพฤหัสแรกถึง 83%!!) และเก็บเงิน 8 วันไปแล้ว 6.2 ล้านบาท ยังอยู่อันดับที่ 7 หนังไทยทำเงินสูงสุดของปีนี้อยู่ (ตามหลัง รักไม่เป็นภาษา และ สิ้น 3 ต่อน ที่เพิ่งทะลุขึ้นไปถึง Top 5 ได้แล้วเกือบๆ ล้านบาท)