สุดสัปดาห์นี้เปิดหัวเดือนเมษากันด้วยซูเปอร์ฮีโร่ฟอร์มเต็งจากค่าย DC อย่าง Shazam! ทะยานขึ้นมาคว้าแชมป์ได้ตามคาด แต่ด้วยรายได้เปิดตัวที่อาจจะไม่แรงมากอย่างที่หวังเท่าไหร่ ที่ 32.03 ล้านบาท (รวมรายได้จากการฉายรอบพิเศษตั้งแต่สัปดาห์ก่อน ทำเงินรวมไปแล้ว 38.97 ล้านบาท) ซึ่งอย่างน้อยก็ยังทะยานเข้าสู่ Top 5 หนังเปิดตัวสุดสัปดาห์แรกสูงสุดของปีนี้ได้อยู่ (หยุดอยู่อันดับที่ 5 พอดี ตามหลังสาวไซบอร์ก Alita: Battle Angel ที่ 37 ล้านบาท) และกลายเป็นหนังซูเปอร์ฮีโร่เปิดตัวสูงเป็นอันดับ 2 ของปีนี้ (แซง Spider-Man: Into the Spider-Verse ที่ 21 ล้านบาทไปพอสมควร แต่แน่นอนว่าตามหลังฮีโร่สาว Captain Marvel ที่ 112 ล้านบาทแบบไกลลิบเช่นกัน!)

ส่วนในกลุ่มหนังซูเปอร์ฮีโร่ด้วยกัน ต้องยอมรับว่ารายได้เปิดตัวระดับสามสิบกว่าล้านถือเป็นรายได้เปิดตัวที่ค่อนข้างน้อยไปเสียแล้วสำหรับหนังฮีโร่ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ไม่ว่าจะค่ายมาร์เวล (Captain Marvel เพิ่งจะแสดงพลังเรียกเงินมากกว่าสามสิบล้านบาทได้ภายในวันเดียว!!) หรือค่าย DC เองที่มาถึงตอนนี้ ชาแซมกลายเป็นหนังเปิดตัวสุดสัปดาห์แรกน้อยที่สุดในกลุ่มหนังจากจักรวาล DC Extended ทั้ง 7 เรื่องเป็นที่เรียบร้อยแล้ว (น้อยกว่าหนังเปิดจักรวาลอย่าง Man of Steel เคยทำเอาไว้ที่ 50 ล้านบาท) ซึ่งกลุ่มที่น่าจะใกล้เคียงที่สุดเห็นจะเป็นหนังซูเปอร์ฮีโร่ที่มาในโทนเด็กและครอบครัว อย่าง Spider-Man: Into the Spider-Verse ในปีนี้ (21 ล้านบาท) หรือแอนิเมชั่นฮีโร่ภาคต่ออย่าง Incredibles 2 เมื่อปีก่อน (27 ล้านบาท) รวมไปถึงหนังหุ่นยักษ์ภาคแยกอย่าง Bumblebee ที่ลองปรับโทนจนได้รับคำชม แต่ก็ออกสตาร์ทได้ไม่แรงเท่าไหร่เช่นกันที่ 39 ล้านบาท

อีกหนึ่งหนังใหม่อย่าง กระสือสยาม ที่มีสาวมิวนิค BNK48 เป็นจุดขายช่วยเรียกคนดู เปิดตัวเข้ามาในอันดับที่ 2 ด้วยรายได้ 3.99 ล้านบาท ถอดหัวบินเข้าสู่ Top 5 หนังไทยเปิดตัวสุดสัปดาห์แรกสูงสุดของปีนี้ได้อีกหนึ่งเรื่อง (คว้าอันดับ 5 ร่วมกับ สิ้น 3 ต่อน ซึ่งเคยทำเอาไว้ที่ 3.99 ล้านบาทเท่ากัน) ซึ่งแน่นอนว่าย่อมเลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องนำไปเทียบกับหนังกระสืออีกหนึ่งเรื่องในปีนี้อย่าง แสงกระสือ ที่ล่าสุดยังติดอยู่ใน Top 10 สุดสัปดาห์นี้ด้วยเช่นกัน (เก็บเงินสุดสัปดาห์นี้ไปอีก 7.3 แสนบาท และทำเงินรวมสี่สัปดาห์ไปแล้ว 38.94 ล้านบาท) และเคยเปิดตัวสุดสัปดาห์แรกเอาไว้ห่างกันร่วมสิบล้านบาท (13 ล้านบาท อยู่อันดับที่ 3 หนังไทยเปิดตัวสูงสุดของปีนี้ และเป็นหนังกระสือเปิดตัวสูงสุดตลอดกาลในบ้านเราอีกด้วย) ส่วนในกลุ่มหนังไทยที่มีสมาชิกจากวง BNK48 ร่วมแสดงด้วย (ทั้งสิ้น 4 เรื่อง) กระสือสยามคือเรื่องที่สองของกลุ่มที่เปิดตัวสุดสัปดาห์แรกไม่ถึงหลักสิบล้านบาท ตามหลัง App War แอปชนแอป ที่มีสาวอร BNK48 ร่วมแสดง (ทำเอาไว้ที่ 7 ล้านบาท) ส่วนในเครดิตของสองสาวนักแสดงนำ นอกจากสาวโจโจ้ พลอยยุคล ที่ได้หนังทำเงินสูงสุดในเครดิตเป็นที่เรียบร้อยแล้ว (แซงหนังเรื่องแรกอย่าง #BKKY ที่เก็บเงินไปได้เพียงหลักแสนบาท) ยังกลายเป็นหนังเปิดตัวและทำเงินรวมสูงเป็นอันดับสองในเครดิตของสาวมิวนิค นันท์นภัส อีกด้วย (ตามหลังหนังเรื่องแรกในเครดิตของสาวมิวนิคเมื่อสมัยยังเด็กมากๆ อย่าง รัก/สาม/เศร้า ของผู้กำกับ ต้อม ยุทธเลิศ เคยเปิดตัวเอาไว้ที่ 21 ล้านบาท) และกลายเป็นหนังเปิดตัวสูงสุดของผู้กำกับปรัชญา ปิ่นแก้วในรอบหกปีเลยทีเดียว!! (หลังจากหนังแอ็กชั่นภาคต่อ ต้มยำกุ้ง 2 เคยเปิดตัวเอาไว้ที่ 22 ล้านบาท)
แชมป์เก่าสุดสัปดาห์ก่อนออย่างเจ้าช้างน้อย Dumbo เก็บเงินสุดสัปดาห์นี้ไปอีก 3.28 ล้านบาท (ลดลงจากสุดสัปดาห์แรก 66%!) และเก็บเงินรวมสองสัปดาห์ไปแล้ว 16.88 ล้านบาท ใกล้จะทำเงินแซงหนังที่ทำได้ใกล้เคียงกันในกลุ่มหนังคนแสดงของค่ายดิสนี่ย์ที่ดัดแปลงจากการ์ตูนดัง อย่างเจ้ามังกร Pete’s Dragon ในไม่ช้านี้แน่นอนแล้ว (ทำเอาไว้ที่ 17 ล้านบาท)
ส่วนรองแชมป์เก่าเมื่อสัปดาห์ก่อนอย่าง Us ที่เก็บเงินสุดสัปดาห์นี้ไปอีก 2.37 ล้านบาท (รูดลงจากสุดสัปดาห์แรกเกือบ 70%!!) และเก็บเงินรวมสองสัปดาห์ไปแล้ว 13.39 ล้านบาท ขึ้นแท่นเป็นหนังทำเงินสูงสุดในบ้านเราของผู้กำกับ จอร์แดน พีล แทนที่ Get Out (13 ล้านบาท) เป็นที่เรียบร้อย
อีกหนึ่งหนังใหม่เอาใจคนรักน้องหมา อย่าง A Dog’s Way Home เปิดตัวสุดสัปดาห์แรกไป 2.91 ล้านบาท ซึ่งถือว่าดีขึ้นเมื่อเทียบกับ A Dog’s Purpose อีกหนึ่งเรื่องที่ดัดแปลงมาจากหนังสือของดับเบิ้ลยู. บรูซ คาเมรอนเหมือนกัน เคยเปิดตัวสุดสัปดาห์แรกเมื่อสองปีก่อนไป 2.4 ล้านบาท
ฝั่งซูเปอร์ฮีโร่จากค่ายมาร์เวลอย่าง Captain Marvel แม้จะได้รับผลกระทบจากการมาของหนังซูเปอร์ฮีโร่เรื่องใหม่อยู่พอสมควร (เก็บเงินสุดสัปดาห์นี้ไปอีก 1.5 ล้านบาท รูดลงจากสุดสัปดาห์ที่แล้ว 72%!! ซึ่งเป็นหนังเรื่องแรกของปีนี้ที่ทำเงินสุดสัปดาห์ที่ห้าเกินหลักล้านได้อยู่) แต่ไม่เหลืออะไรให้ต้องห่วงแล้ว เพราะกวาดรายได้ห้าสัปดาห์ไปแล้วถึง 256.74 ล้านบาท ขึ้นแท่นเป็นหนังซูเปอร์ฮีโร่ฉายเดี่ยวภาคแรกทำเงินสูงสุดตลอดกาล และเข้าสู่ Top 5 หนังซูเปอร์ฮีโร่ทำเงินสูงสุดตลอดกาลในบ้านเราแทนที่ Aquaman ไปได้หลายวันแล้ว เหลือลุ้นแค่ว่าจะแซง Iron Man 3 ขึ้นไปอยู่อันดับที่ 4 ในกลุ่มหนังฮีโร่เป็นการส่งท้ายได้หรือไม่ (ขาดอีกแค่ไม่กี่ล้านเท่านั้น)
หนังโรงภาคล่าสุดของตระกูลฮีโร่แดนปลาดิบ คาเมนไรเดอร์ อย่าง Masked Rider Heisei Generations FOREVER เปิดตัวสุดสัปดาห์แรกไป 1.09 ล้านบาท ขึ้นแท่นเป็นหนังญี่ปุ่นคนแสดงทำเงินเกินหลักล้านบาทเรื่องแรกของปีนี้ (แซง Cafe Funiculi Funicula ที่ 5 แสนบาทไปถึงเท่าตัว) และเกือบคว้าตำแหน่งหนังญี่ปุ่นเปิดตัวสูงสุดของปีนี้มาครองอีกด้วย (แพ้ให้กับ Fate/stay night: Heaven’s Feel II. lost butterfly แค่ไม่กี่หมื่นบาทเท่านั้น!) ซึ่งเมื่อลองเทียบกับหนังโรงไรเดอร์-ครอสโอเวอร์ในซีรี่ย์ Heisei Generations ด้วยกัน อย่าง Dr. Pac-Man vs. Ex-Aid & Ghost with Legend Riders เมื่อสองปีก่อน ก็ยังคงเปิดตัวได้ดีกว่าเช่นเคย (เรื่องหลังเปิดตัวเอาไว้ที่ 7 แสนบาท)
ส่วนหนังไทยที่เข้าฉายเมื่อสัปปดาห์ก่อนอย่าง สิ้น 3 ต่อน สุดสัปดาห์นี้เก็บเงินไปอีก 9 แสนบาท (รูดลงจากสุดสัปดาห์ก่อนถึง 77%!) และเก็บเงินรวมสองสัปดาห์ไปแล้ว 6.68 ล้านบาท น่าจะกลายเป็นหนังทำเงินสูงเป็นอันดับสองในเครดิตของหนุ่มเต๋า เศรษฐพงศ์ เป็นที่แน่นอนแล้ว (ตามหลังหนังเรื่องแรกของหนุ่มเต๋าอย่าง ยอดมนุษย์เงินเดือน ที่ 38 ล้านบาทอยู่ไกลเดียว) หลังจากที่อีกสองนักแสดงอย่างหมอริท เรืองฤทธิ์ และนางเอกสาวป๊อปปี้ ชนม์นิภา ได้หนังทำเงินสูงสุดในเครดิตไปตั้งแต่เริ่มแล้ว (ในฐานะหนังโรงเรื่องแรก)
และอีกหนึ่งหนังเรื่องใหม่จากแดนปลาดิบปิดท้ายตาราง อย่าง Snow Flower เปิดตัวสุดสัปดาห์แรกไป 2.4 แสนบาท เพิ่มขึ้นจาก Let’s Go, Jet! ของนางเอกสาวนาคาโจ อายามิ ที่ได้เข้าฉายในบ้านเราเมื่อสองปีก่อนไปพอประมาณ ที่ 1.9 แสนบาท
Top 10 สุดสัปดาห์นี้ ทำเงินรวมกันไป 49 ล้านบาท
เพิ่มขึ้นจาก Top 10 สุดสัปดาห์ก่อน 21% (40 ล้านบาท)
แต่ลดลงจาก Top 10 สุดสัปดาห์เดียวกันในปีก่อน 19% เหมือนกัน (60 ล้านบาท)
ซึ่งเป็นสุดสัปดาห์ที่หนังหลอนระทึก A Quiet Place เข้าป้ายแชมป์แบบฮิตเซอร์ไพรส์ ด้วยรายได้เปิดตัว 20 ล้านบาท