สุดสัปดาห์นี้จากที่ดูเหมือนจะพลิกล็อก แต่ไปๆ มาๆ กลายเป็นเจ้าช้างน้อยเต็งแชมป์อย่าง Dumbo ที่ยืนระยะรายวันได้ดีกว่า จนสามารถพลิกแซง บินทะยานคว้าแชมป์ประจำสุดสัปดาห์มาครองได้สำเร็จ แต่ด้วยรายได้เปิดตัวที่อาจจะหงอยเหงาอยู่ซักหน่อยที่ 9.65 ล้านบาท ถึงแม้ว่านะเปิดตัวไม่ถึงหลักสิบล้าน แต่ก็ยังบินขึ้นมาถึง Top 10 หนังเปิดตัวสูงสุดของปีนี้ได้อยู่ (หยุดอยู่อันดับที่ 9 ตามหลังอีก 8 เรื่องที่เปิดตัวมากกว่าสิบล้านบาทขึ้นไปทั้งสิ้น) ส่วนในกลุ่มหนังคนแสดงที่ดัดแปลงมาจากการ์ตูนดังของค่ายดิสนี่ย์ อย่างที่เคยบอกไปอาจจะนำมาเทียบได้ยากหน่อยเพราะส่วนใหญ่เปิดตัวกันไม่ต่ำกว่ายี่สิบล้านบาทขึ้นไปกันทั้งนั้น! (อย่างเช่นเรื่องก่อนหน้า Beauty and the Beast ก็กวาดรายได้เปิดตัวในระดับสถิติของกลุ่มไปถึง 58 ล้านบาท!!) แต่ก็มีหลายเรื่องเช่นกันที่เปิดตัวได้ค่อนข้างน่าผิดหวัง ซึ่งใกล้เคียงที่สุดคงเป็นเจ้ามังกร Pete’s Dragon ที่เปิดตัวไม่ถึงหลักสิบล้านเช่นกัน (8 ล้านบาท) ด้านเครดิตของผู้กำกับทิม เบอร์ตั้น แม้ในฝั่งอเมริกา ป๋าทิมจะมีหนังเปิดตัวในระดับถล่มทลายอยู่มากมายหลายเรื่อง แต่ในบ้านเราสไตล์ของป๋าทิมอาจจะไม่โดนใจคนในวงกว้างมากเท่าไหร่นัก ทำให้รายได้หนังของป๋าทิมแต่ละเรื่องในบ้านเราอยู่ในระดับกลางๆ เสียมากกว่า (อย่าง Miss Peregrine’s Home for Peculiar Children เมื่อสองปีก่อน เพิ่งจะเป็นหนังเปิดตัวเกินยี่สิบล้านบาทเรื่องที่ 3 ในบ้านเราของป๋าทิมเท่านั้น! แถมเปิดตัวเกือบจะสูงสุดในเครดิตของป๋าทิมอีกด้วย!) จึงไม่น่าแปลกใจที่เจ้าช้างดัมโบ้แม้จะเปิดตัวไม่ถึงหลักสิบล้าน แต่ก็เปิดตัวสูงเป็นอันดับ 7 (จากทั้งหมด 19 เรื่อง) ในเครดิตของป๋าทิมอยู่

ส่วนหนังหลอนระทึกอย่าง Us ที่คว้าแชมปได้ในวันแรก สุดท้ายโดนเบียดลงมาอยู่อันดับที่ 2 ด้วยรายได้เปิดตัวสุดสัปดาห์แรก 7.78 ล้านบาท ยังคงกระโดดเข้าสู่ Top 10 หนังเปิดตัวสุดสัปดาห์แรกสูงสุดของปีนี้ได้อยู่ ตามหลังเจ้าช้างดัมโบ้มาติดๆ (หยุดอยู่อันดับ 10 พอดี) รวมถึงคว้าตำแหน่งหนังสยองขวัญฝรั่งเปิดตัวสูงสุดของปีนี้ไปครอง (แซงห้องเก็บศพสยอง Cadaver ที่ 5 ล้านบาทไปแบบสบายๆ) หรือเมื่อลองนำไปเทียบกับกับบรรดาหนังหลอนระทึกที่ฮิตเกินคาดในอเมริกาเรื่องอื่นๆ ด้วยกันก็สามารถเปิดตัวแซงหลายๆ เรื่องขึ้นมาได้ อย่างเช่นหนังภาคต่อที่ถูกนำมาปัดฝุ่นใหม่โดนค่าย Blumhouse อย่าง Halloween ที่เพิ่งเปิดตัวสูงสุดในตระกูลไปเมื่อปีก่อน ด้วยรายได้เปิดตัว 6 ล้านบาท และกลายเป็นหนังเปิดสุดสัปดาห์แรกสูงสุดของผู้กำกับจอร์แดน พีล ในบ้านเราไปตามคาด (แซงหนังแจ้งเกิดให้ผู้กำกับอย่าง Get Out ไปแบบชิลๆ ที่ 5 ล้านบาท)

แชมป์เก่าสามสมัยอย่าง Captain Marvel ยังเกาะ Top 3 เอาไว้ได้อยู่ กับรายรับสุดสัปดาห์นี้ที่เก็บไปอีก 5.45 ล้านบาท (ลดลงจากสุดสัปดาห์ก่อน 59%) กลายเป็นหนังเรื่องแรกของปีนี้ที่ทำเงินสุดสัปดาห์ที่สี่เกินห้าล้านบาท (แซงแชมป์เก่าอย่าง Friend Zone ระวัง..สิ้นสุดทางเพื่อน ไปเกือบเท่าตัว ที่ 2.7 ล้านบาท) และทำเงินรวมสี่สัปดาห์ไปแล้วถึง 253.28 ล้านบาท นอกจากจะกลายเป็นหนังซูเปอร์ฮีโร่ทะลุหลักสองร้อยห้าสิบล้านบาทเป็นเรื่องที่ 7 ของบ้านเราเป็นที่เรียบร้อย ยังไต่อันดับแซง The Avengers ภาคแรก (252 ล้านบาท) ขึ้นมาอยู่อันดับ 6 หนังซูเปอร์ฮีโร่ทำเงินสูงสุดตลอดกาลในบ้านเรา และเตรียมไต่ขึ้นไปเบียดเจ้าสมุทร Aquaman ให้หลุด Top 5 ในอีกไม่กี่วันข้างหน้านี้แน่นอนแล้วด้วย!

ด้านรองแชมป์เก่าอย่าง The Kid Who Would Be King สุดสัปดาห์นี้เก็บเงินไปอีก 4.85 ล้านบาท ซึ่งลดลงจากสุดสัปดาห์แรกแค่ 38% เท่านั้น! น้อยที่สุดในกลุ่มหนังเปิดตัวมากกว่าห้าล้านบาทของปีนี้ (แชมป์เก่าคือหนังผีไทย พี่นาค ที่ลดลงจากสัปดาห์แรกไป 41%) และเก็บรายได้รวมสองสัปดาห์ไปแล้ว 14.38 ล้านบาท

อีกหนึ่งหนังใหม่เอาใจชาวอีสานอย่าง สิ้น 3 ต่อน เปิดตัวเข้ามาใน Top 5 ด้วยรายได้สุดสัปดาห์แรก 3.99 ล้านบาท อาศัยลูกฮึดกระโดดเข้าสู่ Top 5 หนังไทยเปิดตัวสูงสุดของปีนี้ได้สำเร็จ! (เฉือนชนะ รักไม่เป็นภาษา ที่ 3.8 ล้านบาทมาแบบหวุดหวิด ส่วนอีก 4 เรื่องเปิดตัวมากกว่าห้าล้านบาทขึ้นไปทั้งนั้น) แต่ถึงอย่างไรก็ถือว่าตามหลังหนังฮิตจากจักรวาลเดียวกันอย่าง ส่ม ภัค เสี่ยน อยู่ไกลมากทีเดียว (เปิดตัวสุดสัปดาห์แรกเอาไว้ถึง 31 ล้านบาท!) ส่วนในเครดิตของทีมนักแสดงนำนั้น นอกจากจะทำสถิติหนังทำเงินสูงสุดในเครดิตให้กับทั้งหมอริท เรืองฤทธิ์ และนางเอกสาวป๊อปปี้ ชนม์นิภา (ที่แสดงหนังโรงเป็นเรื่องแรก) ด้านหนุ่มเต๋า เศรษฐพงศ์ ที่เคยมีผลงานภาพยนตร์มาก่อนแล้ว ก็ได้หนังเปิดตัวสูงสุดเรื่องใหม่ในรอบ 7 ปีเลยทีเดียว! (เอาชนะ ฟินสุโค่ย ของผู้กำกับกอล์ฟ ธัญญ์วาริน ที่เคยเปิดตัวไว้ 2 ล้านบาท และเป็นรองหนังเรื่องแรกของหนุ่มเต๋าอย่าง ยอดมนุษย์เงินเดือน ที่ 11 ล้านบาทเพียงเรื่องเดียว)

หนังผีไทยดราม่า-โรแมนติกอย่าง แสงกระสือ ทำเงินสุดสัปดาห์นี้ไปอีก 3.58 ล้านบาท (ลดลงจากสุดสัปดาห์ก่อนเกินครึ่งไปนิดเดียวที่ 51%) ขยับขึ้นมาเป็นหนังไทยทำเงินสุดสัปดาห์ที่สามสูงเป็นอันดับ 2 ของปีนี้ (เป็นรอง Friend Zone ระวัง..สิ้นสุดทางเพื่อน ที่ทำเอาไว้สูงถึง 11 ล้านบาทแค่เรื่องเดียวเท่านั้น!) และทำเงินรวมสามสัปดาห์ไปแล้ว 36.65 ล้านบาท ไต่แซงหนังผีจากค่าย GDH อย่าง เพื่อน..ที่ระลึก (34 ล้านบาท) ขึ้นมาเป็นหนังผีไทยทำเงินสูงเป็นอันดับ 2 ในรอบ 3 ปีได้ในที่สุด (เป็นรอง พี่นาค ที่ทำเอาไว้ในระดับห้าสิบล้านในปีนี้แค่เรื่องเดียวอีกเช่นกัน)

หนังฟอร์มเต็งแชมป์ในสัปดาห์หน้าอย่าง Shazam! ถือโอกาสลองฉายรอบพิเศษชิมลางดูก่อนในสัปดาห์นี้ (เริ่มตั้งแต่วันเสาร์) โดยทำเงินสองวันไป 3.58 ล้านบาท ถือเป็นตัวเลขที่ค่อนข้างดีทีเดียว ซึ่งนอกจากจะทำเงินรอบพิเศษสุดสัปดาห์แรกสูงเป็นอันดับ 2 ของปีนี้ (เป็นรองแอนิเมชั่นซูเปอร์ฮีโร่ Spider-Man: Into the Spider-Verse ที่ทำเงินรอบพิเศษสี่วันไป 3.7 ล้านบาทเพียงเรื่องเดียว) เมื่อเทียบกับหนังฟอร์มใหญ่ที่เข้ารอบพิเศษในลักษณะเดียวกันเมื่อปีก่อนอย่างเจ้าหุ่น Bumblebee ก็สามารถทำเงินได้มากกว่าเกินเท่าตัวเลยทีเดียว! (ทำเงินรอบพิเศษสองวัน 1.4 ล้านบาท) พอมีลุ้นให้ซูเปอร์ฮีโร่หัวใจเด็กของเราทำเงินกระหึ่มตามรุ่นพี่ร่วมค่ายเรื่องอื่นๆ ไปได้อยู่

ปิดท้ายกันที่อีกหนึ่งหนังใหม่ในสัปดาห์นี้อย่าง Greta เปิดตัวสุดสัปดาห์แรกไป 2 แสนบาท ซึ่งถือว่าน้อยกว่าผลงานเรื่องก่อนหน้าของสาวโคลอี เกรซ มอเรทส์ อย่าง Suspiria เมื่อปีก่อน และหนังที่ส่ง อิซาเบล อูแปต์ เข้าชิงออสการ์อย่าง Elle โดยทั้งสองเรื่องเปิดตัวเอาไว้สูสีกันมากที่ 3 แสนบาท

Top 10 สุดสัปดาห์นี้ ทำเงินรวมกันไป 40 ล้านบาท (เป็นครั้งที่ 3 ของปีนี้ที่แชมป์ประจำสุดสัปดาห์ทำเงินไม่ถึงสิบล้านบาท)

เพิ่มขึ้นจาก Top 10 สุดสัปดาห์ก่อนนิดนึง ที่ 5% (38 ล้านบาท)

แต่ลดลงจาก Top 10 สุดสัปดาห์เดียวกันในปีก่อน 24% เหมือนกัน (53 ล้านบาท)

ซึ่งเป็นสุดสัปดาห์ที่ Ready Player One ที่ช่วยให้ชื่อของพ่อมดสตีเว่น สปีลเบิร์ก กลับมาคืนฟอร์มคว้าแชมป์ไปแบบงดงาม ด้วยรายได้เปิดตัว 32 ล้านบาท