สุดสัปดาห์นี้เกิดเหตุการณ์พลิกล็อกให้ได้ลุ้นกันอีกครั้ง เมื่อหนังหลอนระทึกอย่าง Us ผลงานเรื่องล่าสุดของผู้กำกับ จอร์แดน พีล ที่แม้จะได้โรงฉายน้อยที่สุดในกลุ่มหนังเต็งทั้งสามเรื่อง แต่หนังกลับสามารถปาดหน้าเรื่องอื่นๆ ขึ้นคว้าแชมป์ในวันแรกไปได้อย่างสวยงาม ด้วยรายได้เปิดตัว 1.91 ล้านบาท เข้าสู่ Top 10 รายได้เปิดตัววันแรกสูงสุดของปีนี้ไปแบบหวุดหวิด! (อันดับที่ 10 พอดิบพอดี ตามหลังอีก 9 เรื่องที่ทำเงินวันแรกเกินสองล้านบาทขึ้นไปกันทั้งหมด) รวมไปถึงขึ้นแท่นเป็นหนังสยองขวัญต่างประเทศเปิดตัววันแรกสูงสุดของปีนี้อีกด้วย (แซงหน้า Cavader ที่เพิ่งจะคว้าแชมป์ไปแบบนิ่มๆ เมื่อสัปดาห์ก่อน ที่ 1.3 ล้านบาท) ซึ่งเมื่อลองนำไปเทียบกับกับบรรดาหนังหลอนระทึกที่ฮิตเกินคาดในอเมริกาด้วยกันเมื่อปีก่อน Us ก็ยังคงทำได้ไม่น้อยหน้ารุ่นพี่หลายๆ เรื่อง (ที่ใกล้เคียงที่สุดคือหนังคืนชีพนักฆ่ารุ่นเก๋าอย่าง Halloween จากค่าย Blumhouse เมื่อปีก่อน ที่เปิดตัววันแรกแบบเต็มวันไปน้อยกว่าไม่มาก ที่ 1.3 ล้านบาท) รวมทั้งกลายเป็นหนังเปิดตัววันแรกสูงสุดของผู้กำกับจอร์แดน พีล ในบ้านเราเป็นที่เรียบร้อย (แซงหนังแจ้งเกิดอย่าง Get Out เคยเปิดตัวเอาไว้ใกล้เคียงกัน ที่ 1.5 ล้านบาท)

เต็งแชมป์ที่คว้าโรงไปสูงสุดในสัปดาห์นี้อย่างช้างน้อย Dumbo ที่แม้จะพลาดตำแหน่งแชมป์ในวันแรกไป แต่ก็เป็นการพลาดไปแบบหวุดหวิดจริงๆ (ซึ่งก็ยังมีลุ้นที่จะพลิกกลับมาคว้าแชมป์ประจำสุดสัปดาห์ได้อยู่) ด้วยรายได้เปิดตัววันแรก 1.9 ล้านบาท ซึ่งเมื่อเทียบกับฟอร์มหนังก็ถือว่าน่าผิดหวังอยู่เหมือนกันสำหรับตัวเลขวันแรก โดยเฉพาะหากต้องนำไปเทียบกับกลุ่มหนังดิสนี่ย์ซึ่งจับเอาการ์ตูนของค่ายมาดัดแปลงใหม่เป็นหนังคนแสดง ซึ่งส่วนใหญ่กวาดเงินในบ้านเราไปเป็นกอบเป็นกำเลยก็ว่าได้ด้วยหน้าหนังที่มีความแฟนตาซีมากกว่า (อย่างเช่นโฉมงามกับเจ้าชายอสูร Beauty and the Beast เมื่อสองปีก่อน ที่เปิดตัววันแรกห่างกันหลายเท่าไปถึง 13 ล้านบาท!!) แต่ก็มีหลายเรื่องที่ก็ไม่ได้เน้นความแฟนตาซีมากนัก จนทำให้รายได้ลดระดับลงมาจากเรื่องอื่นๆ เช่นเดียวกัน อย่างเช่นเจ้ามังกร Pete’s Dragon เมื่อสามปีก่อน ก็เปิดตัวในบ้านเราไปใกล้เคียงกัน ที่ 1.1 ล้านบาท หรือที่อาจจะพอจับเข้ามากลุ่มนี้ได้อย่างพลพรรคหมีพูห์ Christopher Robin ก็เปิดตัวในบ้านเราแบบเต็มวันได้ไม่ถึงหลักล้าน ที่ 7 แสนบาท ส่วนในเครดิตของผู้กำกับทิม เบอร์ตั้น ถือว่าลดลงมาจากหนังเรื่องก่อนอย่าง Miss Peregrine’s Home for Peculiar Children เกินครึ่งเลยทีเดียว (เปิดตัววันแรกไป 4 ล้านบาท)
รองแชมป์เมื่อสัปดาห์ก่อนอย่าง The Kid Who Would Be King เป็นอีกหนึ่งเรื่องที่สร้างเซอร์ไพรส์ในสัปดาห์นี้ จากรายได้วันพฤหัสที่เก็บไปอีก 1.15 ล้านบาท ซึ่งลดลงจากพฤหัสแรกแค่ 22% เท่านั้น!!! ถือว่าลดลงน้อยที่สุดในบรรดาหนังที่เปิดตัววันแรกเกินหลักล้านด้วยกันทั้งหมดของปีนี้เลยทีเดียว! (ทิ้งห่างแชมป์เก่าอย่าง พี่นาค เคยทำเอาไว้ที่ 42% ไปไกลโข!) ส่วนรายได้รวมเก็บไปแล้ว 10.68 ล้านบาท
อีกหนึ่งหนังใหม่เอาใจชาวอีสาน อย่าง สิ้น 3 ต่อน ที่มีคุณหม่ำ จ๊กมกมาช่วยเรียกคนดูด้วย เปิดตัววันแรกไปเพียง 9 แสนบาท น่าเสียดายนิดนึงตรงที่หนังเกือบจะเปิดตัววันแรกทะลุหลักล้านตามหนังไทยหลายๆ เรื่องในปีนี้ขึ้นมาได้แล้วแท้ๆ (หยุดอยู่อันดับที่ 6 หนังไทยเปิดตัววันแรกสูงสุดของปีนี้ ตามหลัง รักไม่เป็นภาษา ที่ทะลุหลักล้านวันแรกขึ้นมาได้แบบหวุดหวิด) อย่างไรก็ตาม เมื่อเทียบกับหนังฮิตจากจักรวาลเดียวกันอย่าง ส่ม ภัค เสี่ยน ถือว่าตามหลังอยู่ไกลทีเดียว เพราะเรื่องหลังเคยเปิดตัววันแรกเอาไว้สูงถึง 5 ล้านบาท ส่วนในเครดิตของทีมนักแสดงนำนั้น นอกจากหนุ่มเต๋าที่เคยมีผลงานภาพยนตร์มาก่อนแล้ว (เป็นรองหนังเรื่องแรกของหนุ่มเต๋าอย่าง ยอดมนุษย์เงินเดือน ที่ 5 ล้านบาทเพียงเรื่องเดียว) อีกสองคนอย่างหมอริท และสาวป๊อปปี้ ที่เพิ่งได้แสดงหนังโรงเป็นเรื่องแรกด้วยกันทั้งคู่ก็ได้หนังเปิดตัวสูงสุดในเครดิตไปเป็นที่เรียบร้อย
แชมป์เก่าสามสมัยอย่าง Captain Marvel ร่วงลงมาไกลถึงอันดับ 5 กับรายรับวันพฤหัสนี้ที่เก็บไปอีก 8.6 แสนบาท (ลดลงจากพฤหัสที่แล้ว 60%) คว้าตำแหน่งรายได้วันพฤหัสสุดสัปดาห์ที่สี่สูงสุดของปีนี้ไปอีกหนึ่งตำแหน่ง (เอาชนะ Friend Zone ระวัง..สิ้นสุดทางเพื่อน เจ้าเก่า ที่ 4 แสนบาท) และกวาดรายได้รวมไปแล้วถึง 248.69 ล้านบาท เตรียมทะลุหลักสองร้อยห้าสิบล้านในสุดสัปดาห์นี้แน่นอนแล้ว
หนังผีไทย แสงกระสือ เก็บเงินพฤหัสนี้ไปอีก 6.1 แสนบาท (ลดลงจากพฤหัสที่แล้วเกินครึ่งไปพอประมาณ ที่ 58%) และเก็บเงิน 15 วันไปแล้ว 33.68 ล้านบาท กระโดดขึ้นมาอยู่อันดับ 2 หนังทำเงินสูงสุดตลอดกาลของค่าย Transformation แทนที่ ซิงเกิลเลดี้ เพราะเคยมีแฟน (32 ล้านบาท) ของสาวอั้มเป็นที่เรียบร้อยแล้ว