สุดสัปดาห์นี้ ลงเอยด้วยชัยชนะของหนังผีไทยปนฮาเรื่องใหม่ฟอร์มเต็งอย่าง พี่นาค ที่เบียดขึ้นบัลลังก์ไปแบบเฉียดฉิว ด้วยรายได้เปิดตัว 21.5 ล้านบาท ซึ่งถือเป็นตัวเลขที่ไม่น้อยเลยสำหรับหนังไทยซักเรื่อง ซึ่งนอกจากจะเป็นหนังเปิดตัวสูงระดับ Top 5 ของปีนี้ (อันดับ 4 แซง Spider-Man: Into the Spider-Verse ขึ้นมาแบบหวุดหวิด!) และเป็นหนังไทยเปิดตัวสูงเป็นอันดับ 2 ของปีนี้ (เป็นรองแค่หนังสุดฮิต Friend Zone ระวัง..สิ้นสุดทางเพื่อน ทิ้งห่างไปไกลที่ 51 ล้านบาทแค่เรื่องเดียว) หนังยังขึ้นแท่นเป็นแชมป์หนังผีเปิดตัวสูงสุดของปีนี้แบบสบายๆ (แซง แช่ง ที่ 5 ล้านบาทไปหลายเท่าตัว!) และเป็นหนังผีไทยเปิดตัวสูงสุดในรอบเกือบครึ่งทศวรรษกันเลยทีเดียว!! (หนังผีไทยเรื่องก่อนหน้าที่เปิดตัวเกินยี่สิบล้านบาทต้องย้อนกลับไปถึง 5 ปีที่แล้ว จากหนังผีวัยรุ่น ฝากไว้..ในกายเธอ ของค่าย GTH เคยเปิดตัวเอาไว้ที่ 31 ล้านบาท)

ส่วนในกลุ่มหนังจากค่ายไฟว์ไฟว์สตาร์ด้วยกัน หนังทำได้ในระดับที่เกือบจะสร้างประวัติศาสตร์ใหม่ให้กับทางค่ายกันเลยทีเดียว! นอกจากจะเป็นหนังเปิดตัวเกินยี่สิบล้านเรื่องที่สองของค่ายในรอบมากกว่าทศวรรษ (เรื่องก่อนหน้าคือหนังสยองภาคต่อ ลองของ 2 เคยเปิดตัวเอาไว้เมื่อ 11 ปีที่แล้วที่ 20 ล้านบาท) หนังยังถือว่าเปิดตัวสูงเป็นอันดับ 2 ตลอดกาลของค่ายไฟว์สตาร์อีกด้วย!!! (เป็นรองหนังแฟนตาซี ขุนแผน ที่ 21 ล้านบาทเพียงเรื่องเดียวแค่ไม่กี่แสนเท่านั้น!) เช่นเดียวกับในเครดิตของทีมนักแสดง ที่เรียกได้ว่าทุบสถิติส่วนตัวของแทบทุกคนเลยก็ว่าได้ นอกจากทีมนักแสดงหน้าใหม่ที่เพิ่งจะเล่นหนังโรงเป็นเรื่องแรก (พระเอกหนุ่มออกัส วชิรวิชญ์, คุณเอม ตามใจตุ๊ด, หนุ่มต้าร์ อธิวัตน์, หนุ่มปอนด์ คุณพัทธ์ ) ที่ได้หนังเปิดตัวสูงสุดในเครดิตแน่นอนแล้ว ก็ยังรวมไปถึงหนุ่มเจมส์ ภูริพรรธน์ (แซงอีกหนึ่งหนังผี มอ 6/5 ปากหมาท้าผี ภาคแรก ที่เคยเปิดตัวเอาไว้ 15 ล้านบาท), หนุ่มชิน ชินวุฒ (เอาชนะหนังผีอีกเช่นกัน อย่าง ทองสุก 13 เปิดตัวเอาไว้ที่ 13 ล้านบาท), สาวพลอยชมพู ญานนีน (แซงหนังผี รุ่นพี่ ที่เคยเปิดตัวเอาไว้ 8 ล้านบาท) และผู้กำกับไมค์ ภณธฤต (แซงหนังผีเรื่องก่อนอย่าง มอญซ่อนผี เปิดตัวเอาไว้ที่ 5 ล้านบาท)
แชมป์เก่าสุดสัปดาห์ก่อนอย่าง Friend Zone ระวัง..สิ้นสุดทางเพื่อน แม้จะพลาดท่าเสียบัลลังก์ลงมาอยู่อันดับ 2 แต่ก็ไม่มีอะไรให้ต้องเสียใจ เพราะรายได้สุดสัปดาห์นี้พ่ายให้กับแชมป์ไปแค่นิดเดียวจริงๆ ที่ 21.21 ล้านบาท (ลดลงจากสุดสัปดาห์แรกเกินครึ่งไปพอประมาณที่ 59%) คว้าตำแหน่งรายได้สุดสัปดาห์ที่สองสูงสุดของปีนี้ไปครองอีกหนึ่งตำแหน่ง (เอาชนะเจ้าเขี้ยวกุด How to Train Your Dragon: The Hidden World ที่เคยทำเอาไว้ 17 ล้านบาท) และทำเงินรวมสองสัปดาห์ไปแล้วถึง 102.63 ล้านบาท เก็บสถิติใหม่ในรอบปีนี้ไปอีกเพียบ! ไล่ไปตั้งแต่หนังไทยร้อยล้านเรื่องแรกของปีนี้ (พ่วงตำแหน่งหนังไทยทำเงินสูงสุดของปีไปตั้งแต่วันแรก), หนังทำเงินทะลุหลักร้อยล้านเร็วที่สุดของปีนี้ (ใช้เวลาทั้งสิ้น 11 วัน เร็วกว่าแชมป์เก่าอย่าง How to Train Your Dragon: The Hidden World ที่ 20 วันเกือบเท่าตัว) และตำแหน่งใหญสุดอย่างหนังทำเงินสูงสุดของปีนี้ เอาชนะ How to Train Your Dragon: The Hidden World (ที่สัปดาห์นี้ทำรายได้รวมไป 101.75 ล้านบาท) ได้ในที่สุด!
ส่วนในกลุ่มหนังจากค่าย GDH ด้วยกัน แม้รายได้สุดสัปดาห์ที่สองของหนังจะน้อยที่สุดในกลุ่มหนังที่ทำเงินเกินร้อยล้านของค่ายด้วยกัน (อยู่อันดับ 4 ซึ่งเอาจริงๆ ก็ตามหลังอันดับ 1 อย่าง น้อง.พี่.ที่รัก ไม่ถึงห้าล้าน และตามหลัง ฉลาดเกมส์โกง ที่ 21 ล้านบาทแค่นิดหน่อยเท่านั้น) แต่อานิสงค์จากสุดสัปดาห์แรกที่เปิดตัวแรง(และวันหยุดวันมาฆบูชา)ก็ช่วยให้หนังทะลุร้อยล้านได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งถือว่าเร็วเป็นอันดับ 2 ของค่ายเลยทีเดียว (เป็นรอง
น้อง.พี่.ที่รัก ซึ่งใช้เวลาต่ำกว่าสิบวันเพียงเรื่องเดียวเท่านั้น) และไต่ขึ้นมาอยู่อันดับ 4 หนังทำเงินสูงสุดของค่ายเป็นที่เรียบร้อย (ตามหลัง แฟนเดย์..แฟนกันแค่วันเดียว ไม่ถึงสิบล้านบาทแล้ว) ด้านเครดิตของทีมนักแสดงและผู้กำกับนั้น Friend Zone ถือเป็นหนังร้อยล้านเรื่องแรกและหนังทำเงินสูงสุดในเครดิตของเกือบทุกคนเลยก็ว่าได้ โดยเฉพาะพระเอกหนุ่มนาย ณภัทร (แซงหนังร่วมค่ายอย่าง พรจากฟ้า ทำเงินเอาไว้ที่ 42 ล้านบาท), นางเอกสาวใบเฟิร์น พิมพ์ชนก (แซงหนังแจ้งเกิดให้เธออย่าง สิ่งเล็กๆ ที่เรียกว่า…รัก ซึ่งครองแชมป์มาอย่างยาวนานเกือบสิบปี ที่ 79 ล้านบาท) และผู้กำกับหมู ชยนพ (แซง Suck Seed ห่วยขั้นเทพ เมื่อ 8 ปีก่อนที่ 78 ล้านบาท)

รองแชมป์สัปดาห์ก่อนอย่าง Alita: Battle Angel โดนเบียดลงมาอยู่อันดับ 3 กับรายรับสุดสัปดาห์นี้ที่เก็บไปอีก 13.9 ล้านบาท (ลดลงจากสุดสัปดาห์แรก 62% โดยเป็นรายได้สุดสัปดาห์ที่สองสูงเป็นอันดับ 3 ของปีนี้ ตามหลัง How to Train Your Dragon: The Hidden World เจ้าเก่า) และทำเงินรวมสองสัปดาห์ไปแล้ว 76.5 ล้านบาท น่าจะหมดลุ้นทำเงินถึงหลักร้อยล้านไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งก็ถือเป็นการปิดประตูไม่ให้หนังแซงขึ้นไปถึง Top 2 หนังทำเงินสูงสุดของปีนี้ไปโดยปริยาย (เพราะอย่างที่ทราบกันว่าหัวตารางอย่าง Friend Zone ระวัง..สิ้นสุดทางเพื่อน และ How to Train Your Dragon: The Hidden World ทำเงินมากกว่าร้อยล้านกันไปแล้วทั้งคู่)
ส่วนหนังใหม่เรื่องอื่นๆ นอกเหนือจากพี่นาค ก็ไม่มีเรื่องไหนที่เปิดตัวได้อย่างหวือหวาหรือเกินคาดขึ้นมาได้ ไล่ไปตั้งแต่หนังรีเมคแอบฮิตในอเมริกาอย่าง The Upside เปิดตัวสุดสัปดาห์แรกไป 1.99 ล้านบาท ซึ่งมากกว่าเวอร์ชั่นดั้งเดิมสัญชาติฝั่งเศส อย่าง Intouchables เคยเปิดตัวเอาไว้เมื่อ 7 ปีก่อน (จากเพียง 4 โรงฉาย) ที่ 5 แสนบาท แต่ก็ไม่ใช่หนังทำเงินสูงเท่าไหร่ในบ้านเราสำหรับดาวตลก เควิน ฮาร์ท ที่เพิ่งจะมีหนังภาคต่ออย่าง Jumanji: Welcome to the Jungle เปิดตัวระดับโกยเงินถึง 47 ล้านบาทไปเมื่อสองปีก่อนนี่เอง
ตามมาด้วยหนังเด็กนรก The Prodigy เปิดตัวสุดสัปดาห์แรกไป 1.81 ล้านบาท มากกว่าผลงานเรื่องก่อนของผู้กำกับ นิโคลัส แม็คคาร์ธี อย่าง Home เมื่อ 4 ปีก่อนเกินเท่าตัวเลย (เปิดตัวเอาไว้ไม่ถึงล้าน)
เจ้าของรางวัลออสการ์สาขาดารานำหญิงยอดเยี่ยมปีล่าสุดมาหมาดๆ อย่าง The Favourite เปิดตัวสุดสัปดาห์แรกไป 1.45 ล้านบาท ถึงก็ถือว่าพอใช้ได้จากโรงฉายที่น้อยกว่าเรื่องอื่นๆ อยู่พอสมควร (20 โรง) ซึ่งก็ยังคงทำได้มากกว่าผลงานเรื่องก่อนหน้าของผู้กำกับ ยอร์กอส ลานธิมอส อย่าง The Killing of a Sacred Deer (เปิดตัวสุดสัปดาห์แรกไป 3 แสนบาท) แต่พ่ายให้กับหนังสุดแหวกแนวอย่าง The Lobster (แพ้ไปแค่แสนเดียว ที่ 1.5 แสนบาท) ส่วนเจ้าของรางวัลออสการ์อย่างนักแสดงหญิง โอลิเวีย คอลแมน หนังเปิดตัวสูงสุดยังคงเป็นหนังรวมดาราอย่าง Murder on the Orient Express อยู่เช่นเดิม (ที่ 12 ล้านบาท)
หนังหายนะภาคต่อสัญชาตินอร์เวย์อย่าง The Quake เปิดตัวสุดสัปดาห์แรกไป 1.38 ล้านบาท น้อยกว่ารายได้ภาคแรกอย่างหนังสึนามิถล่มเมือง The Wave ที่เข้าฉายในบ้านเราเมื่อสามปีก่อนไปเกือบครึ่งนึง (เปิดตัวเอาไว้ที่ 2 ล้านบาท)
หนังสยองวนลูปภาคต่อจากค่าย Blumhouse อย่าง Happy Death Day 2U เก็บเงินจากรอบพิเศษไปแบบชิลๆ ที่ 5.6 แสนบาท กลายเป็นหนังเปิดตัวรอบพิเศษสุดสัปดาห์แรกสูงเป็นอันดับ 2 ของปีนี้ (เป็นรองแอนิเมชั่นไอ้แมงมุม Spider-Man: Into the Spider-Verse เจ้าเก่า ที่ 3 ล้านบาท) และทำได้เกือบครึ่งนึงของหนังเชือดในตำนานอย่าง Halloween จากค่าย Blumhouse เช่นเดียวกันเมื่อปีก่อน (ทำเงินรอบพิเศษสุดสัปดาห์แรกไป 1.3 ล้านบาท)
และหนังญี่ปุ่นย้อนเวลาเพียงชั่วกาแฟยังอุ่น อย่าง Cafe Funiculi Funicula เปิดตัวสุดสัปดาห์แรกไป 5.1 แสนบาท แม้จะพลาดตำแหน่งแชมป์หนังญี่ปุ่นเปิดตัวสุดสัปดาห์แรกสูงสุดของปีนี้ไปพอสมควร (ตามหลังอนิเมะของเจ้าหนูชินจังจอมแก่น อย่าง Crayon Shin-chan: Burst Serving! Kung Fu Boys ~Ramen Rebellion~ ที่ 8 แสนบาท) แต่ยังถือว่าเป็นหนังคนแสดงญี่ปุ่นเปิดตัวสุดสัปดาห์แรกสูงสุดของปีนี้อยู่ดี (เอาชนะสารคดีครบรอบ 20 ปีการเสียชีวิตของฮิเดะ อย่าง Hurry Go Round ไปเกินเท่าตัวที่เกือบ 2 แสนบาท) และเป็นหนังเปิดตัวสุดสัปาดห์สูงสุดของนักแสดงสาว คาซูมิ อาริมูระ ในบ้านเรา เอาชนะ I Am a Hero เมื่อสามปีก่อนไปเป็นที่เรียบร้อย (ที่ 4 แสนบาท)
Top 10 สุดสัปดาห์นี้ ทำเงินรวมกันไปทั้งสิ้น 65 ล้านบาท
ลดลงจาก Top 10 สุดสัปดาห์ก่อน 31% (95 ล้านบาท)
แต่เพิ่มขึ้นจาก Top 10 สุดสัปดาห์เดียวกันในปีก่อน 29% (50 ล้านบาท)
ซึ่งเป็นสุดสัปดาห์ที่ฝ่าบาท Black Panther คว้าแชมป์ต่อเป็นสมัยที่สอง ที่รายได้ 29 ล้านบาท (โดยมีหนังอีสานภาคต่อ ไทบ้าน เดอะซีรีส์ 2 Part 1 ตามมาห่างๆ ด้วยรายได้เปิดตัว 9 ล้านบาท)