สุดสัปดาห์วันวาเลนไทน์จบลงด้วยชัยชนะของหนังไทยรอม-คอมฟอร์มเต็งอย่าง Friend Zone ระวัง..สิ้นสุดทางเพื่อน ที่เร่งเครื่องคว้าแชมป์มาครองได้แบบม้วนเดียวจบ ด้วยรายได้เปิดตัวที่สูงถึง 51.89 ล้านบาท ซึ่งน่าเสียดายอยู่ซักหน่อยตรงที่หนังไม่สามารถคว้าตำแหน่งหนังเปิดตัวสุดสัปดาห์แรกสูงสุดของปีนี้มาครองได้ หลังจากที่คว้าแชมป์เปิดตัววันแรกสูงสุดของปีนี้มาได้ก่อนหน้านี้ (หยุดอยู่อันดับที่ 2 ตามหลังแอนิเมชั่นภาคต่อสุดฮิต How to Train Your Dragon: The Hidden World ที่ 55 ล้านบาทเพียงเรื่องเดียว) แต่ที่แทบไม่ต้องลุ้นเลยก็คือสถิติในกลุ่มหนังไทยปีนี้ ที่ Friend Zone ใช้เวลาเพียงวันเดียว ขึ้นแท่นเป็นหนังไทยทำ”รายได้รวม”สูงสุดของปีนี้ไปแบบไม่ทันตั้งตัว! (ปั่นแซง แช่ง ที่ 13 ล้านบาทไปแบบชิลๆ) แต่มีอีกหนึ่งสถิติที่น่าสนใจซึ่งเป็นที่ถกเถียงกันในหมู่คนดูพอสมควร นั่นก็คือสถิติรายได้เฉลี่ยต่อโรงของหนัง ซึ่งต้องยอมรับว่าจำนวนโรงของ Friend Zone เมื่อเทียบกับรายได้ที่ออกมาถือว่าต่ำกว่าที่ควรจะเป็นอยู่พอสมควร (ได้ไปไม่ถึงสองร้อยโรง แถมเป็นฝั่ง SF ที่เทโรงให้มากที่สุดเสียด้วย!) จึงไม่น่าแปลกใจที่รายได้เฉลี่ยต่อโรงของหนังจะออกมาสูงถึง 260,000 บาท/โรง ซึ่งสูงที่สุดของปีนี้ และทิ้งห่างหนังเปิดตัวสูงสุดของปีนี้อย่าง How to Train Your Dragon: The Hidden World ถึงเกือบหนึ่งแสนบาท/โรงเลยทีเดียว!!

เช่นในกลุ่มหนังจากค่าย GDH ด้วยกัน แม้หนังจะคว้าแชมป์หนังเปิดตัววันแรกสูงสุดของค่ายไปครองได้ก่อนหน้านี้ แต่เมื่อรวมตลอดทั้งสุดสัปดาห์ หนังก็ยังไม่สามารถเอื้อมขึ้นไปคว้าตำแหน่งหนังเปิดตัวสุดสัปดาห์แรกสูงสุดตลอดกาลของค่ายมาจาก น้อง.พี่.ที่รัก ไปอย่างน่าเสียดายเช่นกัน (ตามหลังอยู่พอสมควร ที่ 66 ล้านบาท) อย่างไรก็ตาม เมื่อเทียบกันที่รายได้เฉลี่ยต่อโรง กลับกลายเป็นว่า Friend Zone สามารถโกนเงินได้มากกว่า น้อง.พี่.ที่รัก ถึงเกือบห้าหมื่นบาท/โรงเลยทีเดียว! (จากโรงฉายที่น้อยกว่ากันเกินร้อยโรง)

ส่วนในเครดิตของทีมนักแสดงและผู้กำกับ เรียกได้ว่า Friend Zone ทำสถิติใหม่ๆ ให้กับแทบทุกคนเลยก็ว่าได้ โดยเฉพาะพระเอกหนุ่มนาย ณภัทร ที่ได้หนังทำเงินรวมสูงสุดในเครดิตภายในเวลาไม่กี่วัน! (แซง พรจากฟ้า จากค่าย GDH ด้วยกัน ที่ 42 ล้านบาท) และอีกสองคนที่ได้หนังเปิดตัวสูงสุดในเครดิตเรื่องใหม่ อย่างนางเอกสาว ใบเฟิร์น พิมพ์ชนก (แทนที่หนังแจ้งเกิดอย่าง สิ่งเล็กๆ ที่เรียกว่า…รัก เคยเปิดตัวสุดสัปดาห์แรกเอาไว้ที่ 18 ล้านบาท) และผู้กำกับหมู ชยนพ (เอาชนะ เมย์ไหน..ไฟแรงเฟร่อ ที่ 22 ล้านบาทไปเกินเท่าตัว)

อีกหนึ่งหนังฟอร์มเต็งจากฝั่งฮอลลิวู้ดอย่าง Alita: Battle Angel เปิดตัวในฐานะรองแชมป์ด้วยรายได้ถึง 37.06 ล้านบาท (รวมสี่วัน เก็บเงินไปแล้วถึง 44.44 ล้านบาท) ซึ่งถือเป็นตัวเลขที่ไม่เลวเลยสำหรับหนังที่ไม่ใช่ภาคต่อ หรือเป็นตอนต่อยอดมาจากจักรวาลใดๆ ซึ่งนอกจากจะกลายเป็นหนังเปิดตัวสูงถึงอันดับ 3 ของปีนี้ (ตามหลัง Friend Zone ระวัง..สิ้นสุดทางเพื่อน ที่เพิ่งพูดถึงไปนั่นแหละ) ยังกลายเป็นรายได้เปิดตัวสูงที่สุดของหนังที่ไม่สามารถคว้าอันดับหนึ่งในสุดสัปดาห์แรก ในปีนี้อีกด้วย! (ทิ้งห่างแชมป์เก่าอย่าง The Lego Movie 2: The Second Part ที่ 8 ล้านบาทไปแบบไม่เห็นฝุ่นกันเลยทีเดียว!) ซึ่งก็ทำได้ใกล้เคียงกับ Bumblebee หนังที่อกหักจากตำแหน่งแชมป์ประจำสุดสัปดาห์เมื่อปีก่อน ทั้งที่เคยเปิดตัวเอาไว้สูงถึง 39 ล้านบาท ส่วนในกลุ่มหนังที่ดัดแปลงจากมังงะ, อนิเมะญี่ปุ่นแนวไซไฟด้วยกัน อลิตาของเราถือว่าออกตัวนำหน้าคู่แข่งเรื่องอื่นๆ อยู่พอสมควร ทั้ง Ghost in the Shell ของสาวสการ์เลตต์ โจแฮนส์สันเมื่อสองปีก่อน เคยเปิดตัวเอาไว้ในระดับที่ค่อนข้างน่าผิดหวังอยู่เหมือนกันที่ 18 ล้านบาท หรือหนังวนลูป Edge Of Tomorrow ของป๋าทอม ครูซเมื่อห้าปีก่อน ก็ทำได้ดีขึ้นมาอีกหน่อย ที่ 28 ล้านบาท ขณะที่ในเครดิตของผู้กำกับโรเบิร์ต รอดริเกซ แทบไม่เหลืออะไรให้ต้องลุ้นกันแล้ว เพราะหนังใช้เวลาแค่ไม่กี่วัน ขึ้นแท่นหนัง”ทำเงินรวม”สูงสุดตลอดกาลในบ้านเราของผู้กำกับรอดริเกซเป็นที่เรียบร้อยแล้ว!  (ปาดหน้าแชมป์เก่าอย่าง Spy Kids 3-D: Game Over ไปแบบสบายๆ ที่ 24 ล้านบาท)

ส่วนแชมป์เก่าสองสมัยอย่าง How to Train Your Dragon: The Hidden World โดนสองเต็งเบียดร่วงลงมาอยู่อันดับ 3 กับรายได้สุดสัปดาห์นี้ที่เก็บไปอีก 4.17 ล้านบาท (แม้จะลดลงจากสุดสัปดาห์ก่อนถึง 76%!! แต่ก็ยังเป็นรายรับสุดสัปดาห์ที่สามสูงที่สุดของปีนี้อยู่ มากกว่า Spider-Man: Into the Spider-Verse ที่ 3 ล้านบาท) และกวาดรายได้รวมสามสัปดาห์ไปแล้วถึง 98.02 ล้านบาท ขยับเข้าใกล้หลักร้อยล้านเป็นเรื่องแรกของปีนี้ และเรื่องที่สองตลอดกาลในกลุ่มหนังแอนิเมชั่นเข้าไปทุกทีแล้ว

ขณะที่หนังเก่าจากสัปดาห์ก่อน ต่างก็ได้รับผลกระทบจากการมาของสองเต็งกันถ้วนหน้า ที่สาหัสกว่าใครเพื่อนก็คืออีกหนึ่งแอนิเมชั่นภาคต่ออย่าง The LEGO Movie 2: The Second Part ที่อันดับอาจจะดูร่วงจากตำแหน่งรองแชมป์ลงมาไม่ไกลนัก แต่รายได้ถือว่ารูดสนั่นหวั่นไหวเลยทีเดียว! โดยสุดสัปดาห์นี้เก็บไปอีก 6.8 แสนบาท รูดลงจากสุดสัปดาห์แรกถึง 92%!!! ทำสถิติรายได้สุดสัปดาห์ที่สองลดลงจากสุดสัปดาห์แรกสูงที่สุดของปีนี้ในกลุ่มหนังเปิดตัวเกินหลักล้านด้วยกันเป็นที่เรียบร้อย! (เอาชนะแชมป์เก่าอย่างหนังเรือดำน้ำ Kursk ซึ่งเคยลดลงไปถึง 84% จากสัปดากห์แรก) ส่วนรายได้รวมสองสัปดาห์ทำไปแล้ว 9.99 ล้านบาท อย่างน้อยๆ ก็จ่อทะลุหลักสิบล้าน ตามหลัง The LEGO Movie ภาคแรกไปแน่นอนแล้ว (แต่รายได้รวมยังตามภาคแรกอยู่พอสมควร ที่ 13 ล้านบาท)

อีกสองหนังรับตรุษจีนอย่าง The Knight of Shadows: Between Yin and Yang ของพระเอกเฉินหลง และ Replicas ของพระเอกคีอานู รีฟส์ ก็อาการหนักไม่แพ้กัน โดยเรื่องแรก เก็บเงินสุดสัปดาห์นี้ไปอีก 4.7 แสนบาท (ลดลงจากสุดสัปดาห์แรกถึง 87%!!) และเก็บเงินรวมสองสัปดาห์ไปแล้ว 7.89 ล้านบาท แซง Bleeding Steel หนังของเฮียเฉินหลงเมื่อปีก่อนไปได้หลายวันแล้ว แต่ไม่น่าจะแซง Kung Fu Yoga (8 ล้านกว่าบาท) เมื่อ 2 ปีก่อนไหวแล้วล่ะมั้ง

ส่วนเรื่องหลังอย่าง Replicas เก็บเงินสุดสัปดาห์นี้ไปอีก 4.1 แสนบาท (ลดลงจากสุดสัปดาห์แรกน้อยกว่านิดนึง ที่ 86%!!) และเก็บเงินสองสัปดาห์ไปแล้ว 5.71 ล้านบาท นอกจาก John Wick: Chapter 2 เพียงเรื่องเดียวที่หนังยังตามหลังอยู่แบบสุดกู่ (ทำเอาไว้มากกว่า 60 ล้านบาท!) Replicas ถือว่าทำเงินแซงเรื่องอื่นๆ ในรอบ 5 ปี (หลังจาก John Wick ภาคแรก) ของเฮียคีอานูแทบจะราบคาบ กระทั่ง Knock Knock ซึ่งเป็นหนังหลักล้านอีกเรื่องในกลุ่มก็ปิดรายได้ไปที่ 1 ล้านบาทเท่านั้น

ศึกระหว่างสองหนังเต็งขับเคี่ยวกันช่วยดันให้ Top 10 สุดสัปดาห์นี้ ทำเงินรวมกันพุ่งสูงถึง 95 ล้านบาท (เฉพาะรายได้ของ Friend Zone และ Alita เพียงสองเรื่องรวมกัน ก็คิดเป็น 93% ของทั้ง Top 10 รวมกันแล้ว!)

เพิ่มขึ้นจาก Top 10 สุดสัปดาห์ก่อนถึง 145%!! (38 ล้านบาท)

และเพิ่มขึ้นจาก Top 10 สุดสัปดาห์เดียวกันในปีก่อนนิดหน่อยที่ 6% (89 ล้านบาท)

ซึ่งเป็นสุดสัปดาห์ที่ราชาเสือดำ Black Panther ผงาดคว้าแชมป์ตามคาด ด้วยรายได้เปิดตัวสูงอันดับต้นๆ ของปีก่อนถึง 77 ล้านบาท