สุดสัปดาห์หลังวันตรุษจีน หนังแอนิเมชั่นภาคต่ออย่าง How to Train Your Dragon: The Hidden World ยังคงครองแชมป์ต่ออีกหนึ่งสมัยแบบสบายๆ ด้วยรายได้สุดสัปดาห์นี้ที่เก็บไปอีก 17.68 ล้านบาท แม้รายได้สุดสัปดาห์ที่สองจะลดลงจากสุดสัปดาห์แรกถึง 68% แต่ก็ยังถือว่าสูงที่สุดของปีนี้อยู่ดี (ทิ้งห่างแชมป์เก่าอย่าง Spider-Man: Into the Spider-Verse เคยทำเอาไว้ที่ 7.9 ล้านบาทเกินเท่าตัว!) รวมไปถึงเป็นรายได้สุดสัปดาห์ที่สอง สูงเป็นอันดับ 2 ตลอดกาลในกลุ่มหนังแอนิเมชั่นในบ้านเราอีกด้วย (ตามหลังก๊วน Minion เช่นเคยที่ 21 ล้านบาท) ส่วนรายได้รวมนั้น กวาดไปแล้วถึง 90.24 ล้านบาท เข้าใกล้ตำแหน่งหนังร้อยล้านเรื่องแรกของปีนี้เข้าไปทุกที (แต่ก็ยังวางใจมากไม่ได้อยู่ดีจากการที่ต้องชนกับสองหนังฟอร์มเต็งในสัปดาห์หน้า) อย่างไรก็ดีโอกาสที่หนังจะไต่ขึ้นไปถึงตำแหน่งแชมป์หนังแอนิเมชั่นทำเงินสูงสุดตลอดกาลในบ้านเราน่าจะริบหรี่ลงไปทุกที จากรายได้สองสัปดาห์ของเจ้าเขี้ยวกุดที่เริ่มจะโดนแก๊ง Minion ทิ้งห่างออกไปเรื่อยๆ (แก๊งตัวเหลืองเก็บเงินสองสัปดาห์ไป 98 ล้านบาท) ถึงอย่างไรหนังก็ไต่ขึ้นมาใกล้จะแซงแอนิเมชั่นไทยทำเงินสูงสุด อย่าง ก้านกล้วย ภาคแรก (93 ล้านบาท) ขึ้นเป็นหนังแอนิเมชั่นทำเงินสูงอันดับ 2 ตลอดกาลในอีกไม่กี่วันข้างหน้านี้แล้ว

แอนิเมชั่นหน้าใหม่ที่ขึ้นมาท้าชนกับเจ้าเขี้ยวกุดอย่างแก๊งตัวต่อ-ภาคต่อ The LEGO Movie 2: The Second Part หยุดอยู่ที่ตำแหน่งรองแชมป์ด้วยรายได้เปิดตัวที่ทิ้งห่างกันอยู่พอสมควร ที่ 8.97 ล้านบาท ซึ่งก็ยังเป็นตัวเลขที่ไม่เลวอยู่ เพราะนอกจากจะติด Top 5 หนังเปิดตัวสูงสุดของปีนี้ (อยู่อันดับที่ 4 ซึ่งอีกสามเรื่องที่เหลือเปิดตัวมากกว่าสิบล้านขึ้นไปทั้งนั้น) ยังเป็นหนังแอนิเมชั่นเปิดตัวสูงอันดับ 3 ของปีนี้อีกด้วย (ตามหลังสองเรื่องสุดฮิตอย่าง How to Train Your Dragon: The Hidden World และ Spider-Man: Into the Spider-Verse ซึ่งเรื่องหลังเปิดตัวเอาไว้ที่ 21 ล้านบาท) ส่วนในตระกูลหนัง LEGO ด้วยกัน เอ็มเมตและผองเพื่อนจัดการคว้าแชมป์เปิดตัวสูงสุดมาจากภาคแรกได้สำเร็จ (The LEGO Movie เปิดตัวที่ 6 ล้านบาท) และทิ้งห่าง The LEGO Batman Movie กับ The LEGO Ninjago Movie (ที่ 2 ล้านบาททั้งคู่) ไปแบบไกลสุดกู่!
ส่วนอีกสองหนังใหม่ที่ชิงเข้าฉายรับเทศกาลตรุษจีนไปก่อนเพื่อนๆ อย่างหนังแฟนตาซี The Knight of Shadows: Between Yin and Yang ของพระเอกนักบู๊ เฮียเฉินหลง และหนังไซไฟ Replicas ของพระเอกหล่อไม่สร่าง เฮียคีอานู รีฟส์ โดยเรื่องแรกเปิดตัวสุดสัปดาห์แรกไป 3.81 ล้านบาท (รวมรายได้ตั้งแต่วันตรุษจีน เก็บเงินรวมหกวันไปแล้ว 6.37 ล้านบาท) ถือเป็นรายได้สุดสัปดาห์แรกที่ค่อนข้างน่าผิดหวังอยู่พอสมควร และยิ่งตอกย้ำกระแสของเฮียเฉินหลงซึ่งลดลงไปอย่างมากในบ้านเราช่วงหลายปีที่ผ่านมา เทียบกับหนังเมื่อปีก่อนของเฮียเฉินหลงอย่าง Bleeding Steel ที่แม้จะทำได้น่าผิดหวังเช่นกัน แต่ก็ยังอุตส่าห์เปิดตัวสุดสัปดาห์แรกได้มากกว่าอยู่ดี (ที่ 4 ล้านบาท) รวมไปถึงหากนับเฉพาะหนังคนแสดงของเฮียเฉินหลง โคตรพยัคฆ์หยินหยางถือว่าเปิดตัวน้อยที่สุดในเครดิตของเฮียแกในรอบ 8 ปีเลยทีเดียว!!! (ตามหลังหนังย้อนยุคเครียดๆ อย่าง 1911 ที่แฟนๆ ในบ้านเราอาจจะไม่ค่อยถูกจริต เลยเปิดตัวไปแบบเงียบๆ เมื่อ 8 ปีก่อนเพียง 1 ล้านบาทเท่านั้น!) แต่ถึงอย่างไร โคตรพยัคฆ์หยินหยางก็ยังขึ้นแท่นเป็นหนังเอเชียเปิดตัวสูงสุดของปีนี้ไปแบบสบายๆ อยู่ดี (เอาชนะแชมป์เก่าจากแดนกิมจิอย่าง BTS World Tour: Love Yourself in Seoul ซึ่งทำเงินสองวันสุดสัปดาห์ไป 1.7 ล้านบาท)
ส่วน Replicas ของเฮียคีอานู เปิดตัวสุดสัปดาห์แรกไป 3.08 ล้านบาท (รวมรายได้ตั้งแต่วันตรุษจีน เก็บเงินรวมหกวันไปแล้ว 4.39 ล้านบาท) ซึ่งแม้จะมีพระเอกที่คนดูในบ้านเราคุ้นหน้ากันเป็นอย่างดีมาเป็นจุดขาย แต่ด้วยแนวหนังอาจจะขายยากอยู่ซักหน่อยรายได้ที่ออกมาจึงค่อนข้างน้อยอย่างที่เห็น แต่ถึงอย่างไร หากวัดกันเฉพาะกลุ่มหนังระดับกลางๆ ของเฮียคีอานูด้วยกัน รายได้เปิดตัวของเรื่องนี้ก็ถือว่าไม่ขี้เหร่เลย โดยหนังฟอร์มกลางเรื่องล่าสุดของเฮียแกที่เปิดตัวเกินหลักล้านคือ Knock Knock เมื่อ 4 ปีก่อน เปิดตัวสุดสัปดาห์แรกไป 1 ล้านบาทพอดี! (แต่ถ้าเอาหนังฟอร์มใหญ่เข้ามารวมด้วย เรื่องก่อนหน้าก็คือหนังแอ็กชั่นสุดมันส์ที่กำลังจะมีภาคต่อในปีนี้อย่าง John Wick: Chapter 2 เปิดตัวสุดสัปดาห์แรกไป 27 ล้านบาท)
รองแชมป์เมื่อสัปดาห์ก่อนอย่าง Escape Room เก็บเงินสุดสัปดาห์นี้ไปอีก 3.07 ล้านบาท (ลดลงจากสัปดาห์แรกเกินครึ่งไปนิดหน่อยที่ 52%) และทำเงินรวมสองสัปดาห์ไปแล้ว 12.58 ล้านบาท แซงหน้าหนังเอาตัวรอดตระกูลดังภาคล่าสุดอย่าง Jigsaw (10 ล้านบาท) ไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
หนังไทยที่เหลือรอดอยู่เพียงเรื่องเดียวใน Top 10 สัปดาห์นี้ อย่าง รักไม่เป็นภาษา เก็บเงินสุดสัปดาห์นี้ไปอีก 1.4 ล้านบาท (ลดลงจากสุดสัปดาห์แรกเยอะหน่อยที่ 63%) และเก็บเงินสองสัปดาห์ไปแล้ว 6.71 ล้านบาท โอกาสที่จะทำเงินทะลุหลักสิบล้านหมดไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และน่าจะโดนเบียดจากตำแหน่งหนังไทยทำเงินสูงอันดับ 2 ของปีนี้ (ตามหลัง แช่ง ที่ 13 ล้านบาท) ในอีกไม่กี่วันข้างหน้านี้อย่างแน่นอน
ส่วนหนังใหม่อีกสองเรื่องที่เหลือใน Top 10 อย่างเกาหลีชวนระทึก Door Lock เปิดตัวสุดสัปดาห์แรกไป 2.5 แสนบาท กลายเป็นหนังเกาหลีเปิดตัวสูงอันดับ 2 ของปีนี้ ตามหลังหนังบันทึกคอนเสิร์ทวงดังขวัญใจแฟนๆ BTS World Tour: Love Yourself in Seoul ที่ใช้เวลาเพียงสองวันเสาร์-อาทิตย์ เก็บเงินไปถึง 1.7 ล้านบาท
และหนังดัดแปลงจากนิยายขายดี อย่าง The Extraordinary Journey of the Fakir ของพระเอกแดนภารตะ ดานุช เปิดตัวสุดสัปดาห์แรกไป 1.1 แสนบาท น้อยกว่าผลงานเรื่องก่อนหน้าของผู้กำกับเคน สก็อตต์ อย่างผู้ชายขายน้ำ Delivery Man มากโขทีเดียว (1 ล้านบาท)
Top 10 สุดสัปดาห์นี้ ทำเงินรวมกันไปทั้งสิ้น 69 ล้านบาท
ลดลงจาก Top 10 สุดสัปดาห์ก่อน 44% (69 ล้านบาท)
แต่ก็ยังอุตส่าห์เพิ่มขึ้นจาก Top 10 สุดสัปดาห์เดียวกันในปีก่อนนิดนึงที่ 6% (36 ล้านบาท)
ซึ่งเป็นสุดสัปดาห์ที่หนังร้อนปิดท้ายไตรภาค Fifty Shades Freed เข้าป้ายแชมป์ไปตามคาด แต่จากรายได้เปิดตัวที่น้อยสุดของทั้งสามภาค ที่ 12 ล้านบาท