สุดสัปดาห์นี้ยังคงเป็นช่วงเวลาทองของแชมป์เก่าอย่าง How to Train Your Dragon: The Hidden World ที่ยังครองบัลลังก์ได้อย่างต่อเนื่องโดยไม่สะทกเท่าไหร่จากหนังใหม่ที่เปิดตัวตั้งแต่วันตรุษจีนในวันอังคารไล่มาจนถึงวันพฤหัสที่ผ่านมา แม้รายได้วันพฤหัสนี้ของหนังที่เก็บไปอีก 2.31 ล้านบาท ถือว่ารูดลงมาจากพฤหัสที่แล้ว(ที่เด็กๆ หยุดเรียน)ค่อนข้างแรงทีเดียว (ลดลงถึง 86%!!!) แต่ก็ยังถือเป็นรายได้วันพฤหัสสุดสัปดาห์ที่สองสูงที่สุดของปีนี้อยู่ดี (เป็นเรื่องเดียวที่ทำได้เกินหลักล้าน แม้กระทั่งแชมป์เก่าอย่าง Spider-Man: Into the Spider-Verse ก็ยังทำได้แค่เกือบๆ ที่ 8 แสนบาท) และทำรายได้รวม 8 วันไปแล้วถึง 74.87 ล้านบาท ซึ่งก็ยังคงอยู่ในเส้นทางสู่หลักร้อยล้านเรื่องแรกของปีนี้อยู่ แถมทำเงินตามหลังแก๊ง Minions ไม่กี่ล้านบาทเท่านั้น (ทำเอาไว้ 8 วัน 79 ล้านบาท) รวมไปถึงใช้เวลาแค่สัปดาห์เดียว ทำเงินรวมมากกว่าทั้งสองภาคก่อนหน้ารวมกันเสียอีก (ภาค 1 และภาค 2 ทำเงินรวมกันไปเกือบ 72 ล้านบาท) และทะลุเข้าสู่ Top 5 หนังแอนิเมชั่นทำเงินสูงสุดตลอดกาลได้แล้วด้วย! (ล่าสุดขึ้นมาอยู่อันดับที่ 4 แซงแอนิเมชั่นไทย ก้านกล้วย ๒ ที่ 73 ล้านบาทไปแบบสบายๆ)
แต่ตำแหน่งแชมป์ของเจ้าเขี้ยวกุดก็ยังปลอดภัยนัก เมื่ออีกหนึ่งหนังใหม่อย่างแอนิเมชั่นภาคต่อของเหล่าตัวต่อ The LEGO Movie 2: The Second Part เข้าป้ายมาในฐานะรองแชมป์ ด้วยรายได้ไล่จี้หลังเจ้าเขี้ยวกุดมาติดๆ ในวันแรกที่ 1.97 ล้านบาท ซึ่งถือเป็นตัวเลขที่ไม่เลวเลยสำหรับหนังแนวแอนิเมชั่นช่วยกัน แถมช่วยให้ Top 5 หนังเปิดตัววันแรกสูงสุดของปีนี้ มีหนังแอนิเมชั่นติดโผถึง 3 เรื่องเลยทีเดียว! (เลโก้ของเราเข้าป้ายมาที่อันดับ 5 แบบหวุดหวิด) รวมไปถึงกลายเป็นหนังตระกูล LEGO Movie เปิดตัววันแรกสูงสุดในบ้านเราอีกด้วย (สองเรื่องก่อนหน้าอย่าง The LEGO Batman Movie และ The LEGO Ninjago Movie ทำเอาไว้ใกล้เคียงกันที่ 4 แสนบาท ส่วน The LEGO Movie ภาคแรก เคยทำเอาไว้สูงสุดที่ 1 ล้านบาท)

อีกหนึ่งหนังใหม่ฟอร์มเต็งที่ชิงเปิดตัวไปตั้งแต่วันตรุษจีนที่ผ่านมาอย่างหนังแอ็กชั่นแฟนตาซีปนฮา The Knight of Shadows: Between Yin and Yang ผลงานเรื่องล่าสุดของพระเอกนักบู๊ขวัญใจคนดูบ้านเรา เฮียเฉินหลง ตกลงมาอยู่อันดับ 3 กับรายได้วันพฤหัสแรกที่ทำไป 7 แสนบาท รวมสามวันทำเงินไปแล้วทั้งสิ้น 3.26 ล้านบาท ซึ่งก็ถือว่าไม่ใช่ตัวเลขที่น่าตื่นเต้นหรือหวือหวาอะไรในกลุ่มหนังเอเชียด้วยกันโดยเฉพาะมีดาราดังอย่างเฉินหลงเป็นจุดขายด้วยแล้ว แม้กระทั่งย้อนกลับไปดูรายได้วันแรกของหนังซึ่งตรงกับวันตรุษจีน(วันอังคาร) ซึ่งหนังทำเอาไว้ 1.4 ล้านบาท ก็เพิ่งจะเป็นหนังเรื่องที่ 2 จากทั้งหมด 5 เรื่อง(ในรอบ 3 ปี!) ของเฮียแกที่ทำเงินวันแรกเกินหลักล้านเท่านั้น (อีกเรื่องคือ The Foreigner ซึ่งถือเป็นหนังเปิดตัวสูงสุดของเฮียแกในช่วงหลังๆ ที่ 2 ล้านบาท) รวมไปถึงก็ยังไม่ใช่หนังเอเชียเปิดตัววันแรกสูงสุดของปีนี้อีกด้วย (แชมป์ยังคงเป็นของบันทึกคอนเสิร์ทวงดังจากเกาหลี BTS World Tour: Love Yourself in Seoul เปิดตัววันแรกในบ้านเราไป 1.6 ล้านบาท) แต่ถึงอย่างไรรายได้รวมเพียงสามวันของหนังก็มากพอที่จะช่วยให้ขึ้นแท่นเป็นหนังเอเชียทำเงินรวมสูงสุดในปีนี้ได้แล้ว (เป็นการแซง BTS World Tour: Love Yourself in Seoul ซึ่งทำเอาไว้ร่วมสองล้านบาท)

อีกหนึ่งหนังใหม่ที่เข้าฉายตั้งแต่ช่วงตรุษจีนอย่าง Replicas ผลงานเรื่องแรกในปีนี้ของอีกหนึ่งพระเอกขวัญใจบ้านเรา คีอานู รีฟส์ ทำเงินวันพฤหัสไป 6.6 แสนบาท รวมสามวันเก็บเงินไปแล้ว 1.97 ล้านบาท ถือเป็นตัวเลขที่ออกจะหงอยๆ อยู่พอสมควร แต่ก็ไม่น่าแปลกใจซักเท่าไหร่สำหรับพระเอกหนุ่มคีอานู รีฟส์ ที่หลายๆ เรื่องหากไม่ใช่หนังฟอร์มโตก็มักจะเปิดตัวราวๆ นี้อยู่เสมอ ตัวอย่างเช่นหนังรักเมื่อปีก่อนอย่าง Destination Wedding ที่เป็นการหวนกลับมาร่วมงานกับอดีตนางเอกตัวท็อป วิโนน่า ไรเดอร์ อีกครั้งในรอบหลายปี ก็เปิดตัววันแรกในบ้านเราไปแบบเงียบเชียบเพียงเกือบๆ 1 แสนบาทเท่านั้น หรือไกลอีกหน่อยอย่างหนังนัวร์ๆ The Neon Demon ก็เปิดตัวในบ้านเราเพียง 5 หมื่นบาทเท่านั้น ซึ่งที่ใกล้เคียงที่สุดก็น่าจะเป็นหนังระทึกอย่าง Knock Knock ที่เปิดตัววันแรกเกินหลักแสนขึ้นมาได้ (2 แสนบาท) (ส่วนตระกูลดังในช่วงปีหลังๆ ของเฮียแกอย่าง John Wick นั้นต่างก็ทำเงินวันแรกเกินหลักล้านด้วยกันทั้งสิ้น!)
ส่วนหนังเก่าจากสัปดาห์ก่อนเรื่องอื่นๆ ทั้งรองแชมป์เก่าสัปดาห์ก่อนอย่าง Escape Room ลงมาอยู่อันดับ 5 ด้วยรายรับพฤหัสนี้ที่เก็บไปอีก 6.1 แสนบาท (ลดลงจากพฤหัสแรก 64%) และเก็บเงิน 8 วันไปแล้ว 10.11 ล้านบาท ใกล้จะแซงหนังตระกูลดังภาคล่าสุดอย่าง Jigsaw ในอีกวันสองวันข้างหน้านี้แล้ว (10 ล้านบาท)
หนังไทยที่เหลือรอดอยู่เพียงเรื่องเดียวในตาราง อย่าง รักไม่เป็นภาษา ทำเงินพฤหัสนี้ไปอีก 2.4 แสนบาท (ลดลงจากพฤหัสแรกถึง 77%!!) และเก็บเงิน 8 วันไปแล้ว 5.55 ล้านบาท ยังตามหลัง แช่ง ซึ่งเป็นหนังไทยทำเงินสูงสุดของปีนี้อีกไกลโข (13 ล้านบาท) และน่าจะทำเงินไม่ถึงหลักสิบล้านเป็นที่แน่นอนแล้ว
ขณะที่กลุ่มหนังใหม่อีกสองเรื่องที่เหลือใน Top 10 ต่างก็ไม่มีเรื่องไหนทำเงินวันแรกเกินหลักแสนขึ้นมาได้ ทั้งหนังเกาหลีชวนระทึกอย่าง Door Lock เปิดตัววันแรกไป 4.6 หมื่นบาท น้อยกว่าบันทึกคอนเสิร์ทวงเกาหลี BTS World Tour: Love Yourself in Seoul เจ้าเก่าที่หนังแท่นหนังเกาหลีเปิดตัววันแรกสูงสุดของปีนี้ที่หลักล้านบาท แต่ก็ยังทำได้ดีกว่าหนังคู่หูคนกับผีสืบคดีอย่าง The Soul-Mate ที่เปิดตัววันแรกแบบเงียบๆ เพียง 2 หมื่นบาทเกินเท่าตัวเลยทีเดียว
และหนังตะลุยโลกกว้าง ดัดแปลงจากนิยายขายดี อย่าง The Extraordinary Journey of the Fakir ที่ได้ดานุช นักแสดงมากฝีมือจากอินเดียตอนใต้มารับบทนำ เก็บเงินวันแรกไปเพียง 2.1 หมื่นบาท น้อยกว่าผลงานเรื่องก่อนหน้าของผู้กำกับเคน สก็อตต์ อย่างผู้ชายขายน้ำ Delivery Man (2 แสนบาท) ถึงสิบเท่าเลยทีเดียว!