[Thailand Box Office] 10 อันดับหนังเอเชียทำเงินสูงสุดในไทย ประจำปี 2561 (Top 10 Asian Films in Thailand 2018)

ส่งท้ายเดือนนี้กันด้วยสรุป 10 อันดับหนังเอเชียทำเงินสูงสุดประจำปี 2018 ที่โดยภาพรวมอาจจะไม่ถึงขั้นหวือหวาหรือมีหนังระดับปรากฏการณ์มาสร้างสถิติใหม่ๆ ให้เห็นเหมือนปีก่อนๆ แต่ก็มีหนังเอเชียถึงสี่เรื่องที่สามารถทำเงินเกินสิบล้านเมื่อปีก่อน (ปี 2017 มีเพียง 2 เรื่อง) และกลายเป็นการกลับมาขึ้นบัลลังก์แชมป์ของหนังสัญชาติญี่ปุ่นครั้งแรกในรอบ 4 ปีเลยทีเดียว (นับตั้งแต่อนิเมะสามมิติ Stand By Me Doraemon เคยคว้าตำแหน่งแชมป์เมื่อปี 2014)

ส่วน 10 อันดับที่ว่ามีเรื่องอะไรบ้างนั้น? มาติดตามกันต่อเลยครับ

อันดับ 10 – Master Z: Ip Man Legacy (5 ล้านบาท *) [* ยังไม่สิ้นสุดการฉาย]

เริ่มกันที่ภาค Spin-off ของหนังบู๊ตระกูลดังอย่าง Ip Man ที่เปลี่ยนพระเอกจากอาจารย์ยิปมัน (ดอนนี่ เยน) มาเดินเรื่องผ่านตัวละคร จงเทียนฉี (จาง จิน) จอมมวยหย่งชุน คู่ปรับของอาจารย์ยิปใน Ip Man ภาคที่ 3 ซึ่งถึงแม้ว่าภาคนี้จะไม่มีเฮียดอนนี่ เยนซึ่งเป็นต้นตำรับมาเป็นจุดขาย แต่ก็ยังถือว่าทำได้ไม่ห่างจากซีรี่ย์หลักอย่าง Ip Man สองภาคก่อนหน้ามากนัก (ภาค 3 คือภาคที่เดียวที่ทำเงินทะลุหลักสิบล้านบาทขึ้นไปได้ ส่วนภาคสองหยุดตัวเลขไว้ที่ 6 ล้านบาท)

อันดับ 9 – Monster Hunt 2 (5 ล้านบาท)

ภาคต่อของหนังแฟนตาซีสุดฮิตทำเงินถล่มทลายในประเทศจีน ที่กลับมาอีกครั้งพร้อมกับเจ้าวูปา ราชาปีศาจสุดน่ารัก และสมทบด้วยนักแสดงชื่อดังอย่าง เหลียวเฉาเว่ย ซึ่งเป็นตัวละครใหม่ของภาคนี้ ถึงแม้ว่ารายได้ที่ออกมาอาจจะไม่เยอะมากเท่าไหร่ แต่ก็ถือว่าทำได้ดีขึ้นพอสมควรแล้ว เมื่อเทียบภาคแรกที่เคยทำเอาไว้ 2 ล้านกว่าบาทเมื่อ 4 ปีที่แล้ว

อันดับ 8 – Detective Conan: Zero the Enforcer (7 ล้านบาท)

อนิเมะหนังโรงภาคที่ 22 ของยอดนักสืบจิ๋ว โคนัน ขวัญใจแฟนๆ ในบ้านเรา ที่ภาคนี้เกี่ยวพันกับแผนการของ อามุโร่ หนึ่งในตัวละครที่แฟนๆ โคนันรู้จักกันเป็นอย่างดี ซึ่งถึงแม้ว่าจะยังคงเข้าฉายเฉพาะเครือ SF เช่นเดิม แต่ภาคนี้กลับสามารถทำเงินในระดับที่ไม่ใช่แค่แซงหน้าภาคอื่นๆ ขึ้นเป็นอนิเมะหนังโรงของโคนันทำเงินสูงสุดในบ้านเราเท่านั้น แต่ยังทำได้ก้าวกระโดดจากภาคอื่นๆ ซึ่งมักจะเกาะกลุ่มรายได้อยู่ที่ 4 ล้านกว่าบาทมาตลอดเท่านั้น!

อันดับ 7 – Bleeding Steel (7 ล้านบาท)

หนังแอ็กชั่น-ไซไฟรับเทศกาลตรุษจีนของ เฉินหลง พระเอกนักบู๊ขวัญใจบ้านเรา ที่ครั้งนี้มารับบทเป็นหน่วยรบพิเศษ ที่ต้องเข้าไปพัวพันกับแผนการขององค์กรลับสุดไฮเทค ซึ่งดูเหมือนความพยายามที่จะมาเล่นหนังบู๊แนวใหม่ๆ ของเฮียเฉินหลงดูจะไม่เป็นผลมากนัก จากรายได้ที่ไม่ค่อยประสบความสำเร็จอย่างที่คิดในจีน และเงียบเหงามากๆ ในบ้านเรา ลดลงจากสองเรื่องก่อนหน้ารับต้นปีและตรุษจีนเมื่อ 2 ปีก่อน อย่าง Railroad Tigers และ Kung Fu Yoga ซึ่งก็ทำได้ไม่ค่อยดีเท่าไหร่นักในบ้านเราเช่นกัน (ทำเอาไว้ 11 และ 8 ล้านบาท ตามลำดับ)

อันดับ 6 – Doraemon the Movie: Great Adventure in the Antarctic Kachi Kochi (7 ล้านบาท)

อนิเมะภาคหนังโรงประจำปี 2017 ของโดราเอม่อน เจ้าหุ่นยนต์แมวสีฟ้าขวัญใจแฟนๆ ซึ่งเป็นหนึ่งในสองภาคที่ได้เข้าฉายเมื่อปีก่อน โดยภาคนี้พูดถึงโดราเอม่อน, โนบิตะ และผองเพื่อนที่ตามสืบปริศนาจากเบาะแสซึ่งพาไปถึงทวีปแอนตาร์กติกอันหนาวเหน็บ เข้าฉายต้อนรับปิดเทอมใหญ่เดือนมีนา ซึ่งก็ได้รับเสียงตอบรับจากแฟนๆ เป็นอย่างดี จนกลายเป็นหนังโรงโดราเอม่อนภาคที่ทำเงินสูงที่สุดในรอบเกือบ 4 ปี (ณ ตอนนั้น) เลยทีเดียว!

อันดับ 5 – Be With You (8 ล้านบาท)

หนังรีเมคเวอร์ชั่นเกาหลีที่ดัดแปลงมาจากหนังญี่ปุ่นชื่อเดียวกันเมื่อปี 2004 กับเรื่องราวปาฏิหาริย์ความรักของหญิงสาวที่เสียชีวิตไปแล้ว แต่ฟื้นกลับมาพบสามีและลูกของเธอทุกฤดูฝนตามที่เคยสัญญาไว้ ซึ่งนอกจากจะทำเงินไปได้พอสมควรที่เกาหลีใต้บ้านเกิด ในบ้านเราก็ถือว่าทำได้ค่อนข้างดีทีเดียว เพราะนอกจากจะเป็นหนังเกาหลีทำเงินสูงเป็นอันดับสองของปีนี้ ยังถือเป็นหนังทำเงินสูงในระดับ Top 5 ของหนังเกาหลีในรอบ 3 ปีที่ผ่านมาอีกด้วย! (อยู่อันดับที่ 4)

อันดับ 4 – The Monkey King 3 (10 ล้านบาท)

ยังคงเป็นหนังภาคต่อตระกูลดังที่ดัดแปลงจากวรรณกรรมระดับขึ้นหิ้งอย่าง ไซอิ๋ว โดยภาคนี้เล่าเรื่องราวตอนที่พระถังซัมจั๋วและชาวคณะเดินทางผ่านมายังเมืองแม่ม่าย และราชินีของเมืองเกิดตกหลุมรักพระถังซัมจั๋งเข้า ซึ่งหนังไซอิ๋วตระกูล The Monkey King ถือเป็นตระกูลที่ทำเงินค่อนข้างดีมาโดยตลอดสำหรับบ้านเรา ซึ่งถึงแม้ว่าภาคนี้จะทำเงินลดลงมาจากสองภาคก่อนหน้าค่อนข้างมาก (ครึ่งหนึ่งของทั้งสองภาค ซึ่งต่างก็ทำเงินในระดับยี่สิบล้านด้วยกันทั้งคู่) แต่ก็ยังถือเป็นหนังที่ดัดแปลงจากไซอิ๋วทำเงินสูงสุดนับตั้งแต่
The Monkey King 2 (เมื่อ 3 ปีก่อน) เป็นต้นมา และกลายเป็นหนังจีนทำเงินสูงสุดของปี 2018 ด้วยเช่นกัน

อันดับ 3 – Along with the Gods: The Last 49 Days (12 ล้านบาท)

อีกหนึ่งภาคต่อของหนังฮิตถล่มทลายดัดแปลงจากการ์ตูนดังแดนกิมจิ กับเรื่องราวบทสรุปของเหล่ายมฑูต และวิญญาณอาฆาต ที่ถึงแม้ว่าจะยังคงทำรายได้ทะลุหลักสิบล้านได้ตามมาตรฐานจนขึ้นแท่นเป็นหนังเกาหลีทำเงินสูงสุดของปีก่อนไปตามคาด แต่อย่างไรก็ตาม รายได้ของภาคนี้ก็ยังถือว่าลดลงมาจากภาคแรกอยู่พอสมควรอยู่ดี (ทำเอาไว้ที่ 18 ล้านบาท เป็นหนังเกาหลีทำเงินสูงอันต้นๆ ของบ้านเรา)

อันดับ 2 – Doraemon the Movie: Nobita’s Treasure Island (12 ล้านบาท)

อนิเมะหนังโรงของโดราเอม่อนอีกหนึ่งภาคที่ได้เข้าฉายเมื่อปีก่อน กับเรื่องราวการออกล่องเรือผจญภัยตามล่าสมบัติของโดราเอม่อน, โนบิตะและผองเพื่อน ซึ่งมีแต้มต่อเหนือกว่าอีกภาคตรงที่เป็นภาคล่าสุดที่ฉายปีเดียวกับที่ญี่ปุ่นเลย จึงไม่น่าแปลกใจที่รายได้ของภาคนี้จะก้าวกระโดดจากภาคก่อนถึงเกือบเท่าตัว แถมยังทำสถิติเป็น Doraemon the Movie ฉบับสองมิติภาคที่ทำเงินสูงที่สุดในบ้านเราอีกด้วย! (ล้มแชมป์เก่าอย่าง Nobita’s Secret Gadget Museum ที่ 11 ล้านบาทเมื่อ 6 ปีก่อนได้สำเร็จ) และครองอันดับหนึ่งหนังเอเชียทำเงินสูงสุดของปีก่อนอยู่พักหนึ่ง จนกระทั่ง…การมาถึงของแชมป์ตัวจริง

อันดับ 1 – Dragon Ball Super: Broly (13 ล้านบาท *) [* ยังไม่สิ้นสุดการฉาย]

คว้าแชมป์ไปครองแบบเหนือความคาดหมายอยู่เหมือนกัน สำหรับอนิเมะหนังโรงภาคล่าสุดของการ์ตูนแอ็กชั่นสนั่นจักรวาล ดราก้อน บอล ที่ครั้งนี้โกคู และเบจิต้า ต้องมารับมือกับศัตรูใหม่(แต่หน้าเก่า) อย่างโบรลี่ หนึ่งในตัวละครขวัญใจแฟนๆ ที่ถูกปัดฝุ่นจับมารวมกับเนื้อเรื่องหลักกับเขาเสียที หนังยังได้เข้าฉายแทบทุกเครือเป็นวงกว้างครั้งแรกอีกด้วย (สองภาคก่อนเข้าฉายเฉพาะเครือ SF) จึงไม่น่าแปลกใจที่ภาคที่จะทำเงินแซงสองภาคก่อนหน้าไปแบบกระจุยกระจาย (แซง Dragon Ball Z: Battle of the Gods ที่เคยปิดรายได้เอาไว้เพียงล้านกว่าบาทเท่านั้น) แต่ที่น่าตกใจก็คือการที่หนังทำเงินทะยานทะลุหลักสิบล้าน จนถึงขั้นแซง Doraemon the Movie ภาคล่าสุดที่เพิ่งพูดถึงไป ขึ้นเป็นหนังญี่ปุ่นทำเงินสูงสุดของปี 2018 รวมไปถึงเป็นหนังอนิเมะญี่ปุ่นทำเงินสูงอันดับ 3 ตลอดกาลในบ้านเราอีกด้วย (เป็นรองเพียงสองหนังสุดฮิต อย่าง Your Name และ Stand By Me Doraemon ที่ทำขึ้นไปถึงระดับสี่สิบล้านด้วยกันที้งคู่!)

ตาราง 10 อันดับ หนังเอเชียทำเงินสูงสุดในไทย ปี 2561

รายได้รวมของทั้งสิบเรื่องอยู่ที่ 89 ล้านบาท มากกว่ารายได้รวม 10 อันดับแรกของปี 2017 เกินสิบล้านบาทเลยทีเดียว (78 ล้านบาท) แต่ถึงอย่างไรก็เทียบกับปี 2016 (ที่แค่สองอันดับแรกอย่าง Train to Busan และ Your Name ก็ทำเงินรวมกันทะลุหลักร้อยล้านไปแล้ว!!) แทบไม่ได้เลยอยู่ดี

Leave a Reply

Fill in your details below or click an icon to log in:

WordPress.com Logo

You are commenting using your WordPress.com account. Log Out /  Change )

Twitter picture

You are commenting using your Twitter account. Log Out /  Change )

Facebook photo

You are commenting using your Facebook account. Log Out /  Change )

Connecting to %s