สุดสัปดาห์นี้กลายเป็นสุดสัปดาห์ที่หงอยเหงาที่สุด ไม่ใช่แค่ในรอบปีนี้ หรือในรอบสองสามปีที่ผ่านมาเท่านั้น แต่ถึงขนาดในรอบเกือบสิบปีที่ผ่านมาเลยทีเดียว!! ในเมื่อเหล่าบรรดาหนังใหม่ไม่สามารถเข้ามาสร้างความเปลี่ยนแปลงในกลุ่มหัวตารางได้ แชมป์เลยยังคงเป็นของซูเปอร์ฮีโร่สายดาร์ก Glass ที่ครองบัลลังก์ต่อเป็นสมัยที่สอง ด้วยรายรับสุดสัปดาห์นี้ที่เก็บไปอีก 4.88 ล้านบาท (ลดลงจากสุดสัปดาห์แรกเกินครึ่งไม่มาก ที่ 55%) ทำสถิติเป็นหนังที่คว้าแชมป์ประจำสุดสัปดาห์ด้วยรายได้น้อยกว่าห้าล้านบาทเป็นเรื่องแรกในรอบ 9 ปีเลยทีเดียว!! (น้อยสุดนับตั้งแต่หนังแฟนตาซีลูกเทพ Clash of the Titans กลับมาขึ้นอันดับที่ 1 ในสุดสัปดาห์ที่สี่ ด้วยรายได้ 4 ล้านบาทพอดี เมื่อ 9 ปีที่แล้ว) แต่ถึงอย่างไร รายได้รวมสองสัปดาห์ของหนังที่เก็บไปแล้ว 22.26 ล้านบาท ก็ใกล้จะขึ้นแท่นเป็นหนังทำเงินสูงสุดของไตรภาค Unbreakable ในบ้านเราแล้ว (ตามหลังต้นตระกูลอย่าง Unbreakable เมื่อ 19 ปีก่อน ที่ 22 ล้านบาท แค่หลักแสนแล้วเท่านั้น)

แอนิเมชั่นไอ้แมงมุม Spider-Man: Into the Spider Verse ยังเกาะอยู่อันดับ 2 เช่นเดิม กับรายได้สุดสัปดาห์นี้ที่เก็บไปอีก 3.65 ล้านบาท (ลดลงจากสุดสัปดาห์ที่แล้วเกินครึ่งไม่มากเช่นกันที่ 53%) และเก็บรายรับรวมสี่สัปดาห์(รวมรอบพิเศษ)ไปแล้ว 47.03 ล้านบาท โอกาสทะลุหลักห้าสิบล้านเรื่องแรกของปีนี้ค่อนข้างสูงมากทีเดียว จากแนวโน้มของรายได้ที่ยังคงนำหน้าแอนิเมชั่นไทยอย่าง ๙ ศาสตรา ในช่วงเวลาที่เท่ากันอยู่เช่นเดิม (เก็บเงินสามสัปดาห์ไป 46 ล้านบาท) แต่ก็ยังวางใจไม่ได้อยู่ดีในเมื่อภาคปิดไตรภาคของ “หนุ่มขี่มังกร” กำลังจะมาในสัปดาห์หน้านี้แล้ว ซึ่งน่าจะแย่งกลุ่มคนดูจากไอ้แมงมุมของเราไปไม่น้อยทีเดียว

หนังผีไทยเปิดปีอย่าง แช่ง ยังคงอยู่ที่เดิมเช่นกันในอันดับที่ 3 กับรายรับสุดสัปดาห์นี้ที่เก็บไปอีก 2.18 ล้านบาท (ลดลงจากสัปดาห์แรก 57%) และเก็บเงินรวมสองสัปดาห์ไปแล้ว 12.5 ล้านบาท สถิติในกลุ่มหนังผีไทยช่วงปีสองปีที่ผ่านมาด้วยกันอาจจะไม่ค่อยเหลืออะไรให้ลุ้นแล้ว (ยังตามหลัง เพื่อน..ที่ระลึก อยู่ค่อนข้างไกลทีเดียว) แต่เมื่อนำไปเทียบกับหนังสยองทุกสัญชาติเมื่อปีก่อน กลายเป็นว่าหนังกระโดดขึ้นมาถึง Top 5 ของปีที่แล้วเลยทีเดียว (หยุดอยู่อันดับที่ 5 ตามหลังภาคปัดฝุ่นของฆาตกรสุดคลาสสิคอย่าง Halloween ที่เก็บเงินในบ้านเราไป 15 ล้านบาท) รวมไปถึงขึ้นแท่นเป็นหนังทำเงินสูงสุดในเครดิตของผู้กำกับจิต กำเหนิดรัตน์ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว (แซงหนังตลกสลับร่าง เลิฟอะรูมิไลค์ รักอะไรไม่รู้ ไปแบบสบายๆ ที่ 12 ล้านบาท)

หนังใหม่ที่ทำได้ดีที่สุดในสัปดาห์นี้คือหนังชีวประวัติหญิงเก่งผู้สร้างความเปลี่ยนแปลงด้านสิทธิสตรีในอเมริกา อย่าง On the Basis of Sex เปิดตัวสุดสัปดาห์แรกไป 1.16 ล้านบาท ซึ่งถือว่าทำได้ไม่เลวเลยสำหรับหนังแนวนี้ รวมไปถึงทำได้ใกล้เคียงกับรายได้เปิดตัวของหนังที่ส่งให้นางเอกสาวเฟลิซิตี้ โจนส์ ได้เข้าชิงออสการ์สมทบหญิงยอดเยี่ยม ณ ตอนนั้น อย่าง The Theory of Everything เคยทำเอาไว้ที่ 1.3 ล้านบาท รวมไปถึงทำได้ดีกว่าผลงานเรื่องก่อนหน้าของผู้กำกับหญิง มิมี่ เลเดอร์ (ที่เคยกำกับหนังฟอร์มโตอย่างอุกกาบาตชนโลก Deep Impact เมื่อ 21 ปีก่อนมาแล้ว) อย่าง Thick as Thieves เคยเปิดตัวในบ้านเราไปแบบกร่อยๆ เมื่อ 10 ปีที่แล้วเพียง 4 แสนบาทเท่านั้น

ฉายมาแล้วเกือบสองเดือน แต่ความแรงก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะหายไปง่ายๆ สำหรับเจ้าสมุทรสุดฮอต Aquaman ที่นอกจากจะเพิ่งฉลองขึ้นแท่นเป็นหนังทำเงินทั่วโลกสูงสุดของจักรวาลฮีโร่ DC ไปหมาดๆ ในบ้านเราก็เข้าสู่ Top 5 หนังซูเปอร์ฮีโร่ทำเงินสูงสุดตลอดกาลในบ้านเราไปหลายวันแล้ว โดยสุดสัปดาห์นี้หนังเก็บเงินไปอีก 1.15 ล้านบาท ลดลงจากสุดสัปดาห์ก่อนเพียง 29% เท่านั้น!! (และกลายเป็นหนังเรื่องแรกของปี 2018 ที่ยังทำเงินเกินหลักล้านได้ในสุดสัปดาห์ที่เจ็ดได้อยู่ ทิ้งห่างอันดับสองอย่าง Jurassic World: Fallen Kingdom ซึ่งทำเงินสุดสัปดาห์ที่เจ็ดไปอีกเพียง 2 แสนบาทเท่านั้น!) และทำเงินรวมเจ็ดสัปดาห์ไปแล้วถึง 253.41 ล้านบาท แม้ในส่วนรายได้รวมจะไม่ค่อยเหลืออะไรให้ลุ้นแล้ว (หลังจากทำภารกิจพิชิต Top 5 หนังซูเปอร์ฮีโร่ทำเงินสูงสุดตลอดกาลในไทยสำเร็จไปแล้วก่อนหน้านี้) แต่สถิติในปี 2018 ก็ยังเหลือให้หนังได้ทำลายอยู่ โดยเฉพาะสถิติติดอยู่ใน Top 5 ประจำสุดสัปดาห์ ที่หนังสามารถคว้าตำแหน่งแชมป์ไปแบบเดี่ยวๆ เป็นที่เรียบร้อยหลังจากอยู่ติดต่อกันยาวนานมาถึง 7 สัปดาห์ (ล้มสถิติเดิมของ Black Panther และ Jurassic World: Fallen Kingdom ที่เคยทำเอาไว้ 6 สัปดาห์เท่ากัน)

อีกหนึ่งหนังใหม่ในสัปดาห์นี้กับหนังอีสานหมอลำโมเดิร์น อย่าง หมอลำมาเนีย ของทีมนักแสดงและผู้กำกับหน้าใหม่ไฟแรง เปิดตัวสุดสัปดาห์แรกไป 9.1 แสนบาท อาจจะเป็นตัวเลขที่น่าผิดหวังอยู่ซักหน่อยในยุคที่หนังอีสานกำลังอยู่ในช่วงขึ้นแบบนี้ ซึ่งเรื่องที่ใกล้เคียงที่สุดเห็นจะเป็น ผู้สาวขาเลาะ เดอะ มูฟวี่ อินดี้  หนังที่ตั้งชื่อตามเพลงฮิตและได้สองสาว ลำไย ไหทองคำ และ อาม ชุติมา มาเป็นจุดขาย แต่หน้าหนังที่ดูไม่ดีเสียเลยก็ทำเอาหนังเปิดตัวไปแบบกร่อยๆ ที่ 9.6 แสนบาท หรือตอนต่อจากอีกหนึ่งซีรี่ย์ที่บุกเบิกหนังอีสานในเมืองกรุง อย่าง ผู้บ่าวไทบ้าน 3 หมาน แอนด์เดอะ คำผาน ที่แม้จะมีสองหนุ่มไทบ้าน เดอะซีรี่ย์ มาเป็นแขกรับเชิญ แต่ก็ดูเหมือนจะเรียกคนดูได้ไม่มากอย่างที่คิด เลยเปิดตัวไปได้เพียง 6 แสนบาทเท่านั้น

ส่วนบรรดาหนังเก่าในอันดับที่เหลือต่างก็ได้รับอานิสงค์ที่ไม่มีหนังฟอร์มโตเข้าฉาย ทำให้หลายเรื่องรายได้ลดลงจากสัปดาห์ก่อนไม่มากกันถ้วนหน้า โดยเฉพาะสองหนังผู้เข้าชิงภาพยนตร์ยอดเยี่ยมออสการ์ปีนี้ที่ยังติดอยู่ใน Top 10 อย่าง Green Book และ Bohemian Rhapsody โดยฝั่ง Green Book เก็บเงินสัปดาห์นี้ไปอีก 7.3 แสนบาท (ลดลงจากสัปดาห์ก่อนแค่ 19% เท่านั้น!!) และเก็บเงินรวมสี่สัปดาห์(รวมรอบพิเศษ)ไปแล้ว 7.17 ล้านบาท ยังพอมีลุ้นให้ถึงหลักสิบล้านได้อยู่

ส่วนฝั่งราชาในนามราชินีที่ติดอยู่ใน Top 10 เป็นสัปดาห์ที่ 11 เข้าไปแล้ว ทำเงินสุดสัปดาห์นี้ไปอีก 3.9 แสนบาท ซึ่ง”เพิ่มขึ้น”จากสัปดาห์ที่แล้ว 21%!!! (จากอานิสงค์โรงฉายและโรง IMAX ที่เพิ่มกลับเข้ามา) และทำเงินรวมไปแล้ว 22.75 ล้านบาท แซงหน้า The Revenant (22 ล้านบาท) ของป๋าลีโอ ขึ้นเป็นหนังผู้ชนะภาพยนตร์ยอดเยี่ยมลูกโลกทองคำสาขาดราม่า ทำเงินสูงสุดในรอบ 10 ปีของบ้านเราจนได้!! (นับตั้งแต่ Avatar ที่ทำเงินฮิตถล่มทลายระดับสองร้อยล้านบาทเมื่อปี 2009 โน่นเลย)

แต่ยังมีอีกหนึ่งเรื่องที่ไม่ได้ใส่เข้ามาในตาราง Top 10 สัปดาห์นี้เนื่องจากไม่มีตัวเลขอย่างเป็นทางการออกมา ทั้งๆ ที่รายได้ควรจะสูงที่สุดในบรรดาหนังใหม่ด้วยกันในสัปดาห์นี้ นั่นก็คือบันทึกคอนเสิร์ทของวงดังจากฝั่งเกาหลี อย่าง BTS World Tour Love Yourself in Seoul ที่เข้าฉายหลักๆ วันที่ 26 เพียงวันเดียวเท่านั้น (แต่ยังมีฉายต่อที่เอ็มควอเทียร์จนถึงวันที่ 8 มีนาคม) ซึ่งรายได้บางแหล่งแจ้งไว้ว่าหนังทำเงินสองวันไปถึง 1.7 ล้านบาท และตัวเลขที่ประมาณการไว้สูงกว่า 2 ล้านบาทเลยทีเดียว (เฉพาะในเขตกรุงเทพฯ, ปริมณฑล และเชียงใหม่ ส่วนทั่วประเทศอยู่ที่ประมาณ 3 ล้านบาท) ซึ่งถ้านำไปเทียบกับการจัดอันดับโดยปกติของปีนี้ถือเป็นตัวเลขวันแรกที่สูงถึงอันดับ 4 ของปีนี้ (ตามหลัง
Spider-Man: Into the Spider Verse, Glass และ แช่ง เพียงสามเรื่องเท่านั้น) แต่ถึงอย่างไร ก็ยังทำได้น้อยกว่าหนังเรื่องก่อนของวง BTS อย่าง Burn The Stage The Movie เมื่อปีก่อน เคยเก็บเงินในบ้านเรา 3 วันสูงถึง 4 ล้านบาทเลยทีเดียว!

Top 10 สุดสัปดาห์นี้ ทำเงินรวมกันไปเพียง 15 ล้านบาท

ลดลงจาก Top 10 สุดสัปดาห์ก่อน 46% (29 ล้านบาท)

และลดลงจาก Top 10 สุดสัปดาห์เดียวกันในปีก่อนถึง 71% (56 ล้านบาท)

ซึ่งเป็นสุดสัปดาห์ที่หนังฟอร์มโตปิดไตรภาควงกตอย่าง Maze Runner: The Death Cure คว้าแชมป์ไปแบบสบายๆ ด้วยรายได้เปิดตัวสูงถึง 44 ล้านบาท