แช่ง คือหนังหลอนรวมตอนสั้นสามตอนย่อย ที่มีธีมเกี่ยวข้องกับ “คำสาปแช่ง” ที่เกิดจากแรงอาฆาตเหมือนกัน แม้หน้าหนังจะดูค่อนข้างธรรมดา ไม่ต่างจากหนังแนวเดียวกันเรื่องอื่นๆ ซักเท่าไหร่ แต่พล็อตเรื่องของแต่ละตอนถือว่าทำออกมาได้ค่อนข้างน่าสนใจทีเดียว

ตอนที่ 1 : วิปลาส

บาทหลวงโจเซฟ (เดวิด อัศวนนท์) เดินทางไปยังหมู่บ้านห่างไกลแห่งหนึ่งเพื่อสืบเรื่องราวของเพื่อนบาทหลวงที่เสียชีวิตอย่างปริศนา โดยมีแผ่นเสียงต้องคำสาป ซึ่งบันทึกการแสดงที่ทำให้ผู้ชมในวันนั้นล้มตายกันอย่างลึกลับเป็นเบาะแส

ถือเป็นตอนที่ดีและน่าจะหลอนที่สุดในทั้งสามตอนเลยก็ว่าได้ โดยการเดินเรื่องแบบสืบสวน ค่อยๆ เปิดปมต่างๆ ออกมา ไปพร้อมๆ กับบรรยากาศบ้านป่าเมืองเถื่อนแบบย้อนยุคที่ทำออกมาได้ชวนหลอน,ไม่น่าไว้วางใจอยู่พอสมควร รวมไปถึงบทหนังที่แทรกการวิพากษ์สังคมในยุคสมัยนั้นและอาจเกี่ยวพันมาถึงยุคสมัยนี้อยู่บ้าง ทั้งเรื่องความเชื่อ, ผู้มีอำนาจ และการถูกยัดเยียดทางสังคม ที่หลายคนอาจจะคุ้นเคยกันมาบ้างจากหนังต่างประเทศหลายๆ เรื่อง ซึ่งหนังก็สื่อออกมาได้ค่อนข้างดี แต่ด้วยความที่พล็อตของหนังค่อนข้างใหญ่ และปมของหนังเกี่ยวข้องกับตัวละครค่อนข้างเยอะ ทำให้หนังไม่ได้เฉลยบางปมที่ยังค้างคา หรือหลายๆ ปมที่เฉลยออกมาก็ดูจะเป็นการเฉลยออกมาดื้อๆ เพราะยังปูรายละเอียดให้คนดูคล้อยตามได้ไม่มากพอ ซึ่งส่วนหนึ่งน่าจะเพราะเวลาของหนังที่มีค่อนข้างจำกัดด้วย ส่วนความหลอนของตอนนี้ถือว่าทำได้ดีในระดับหนึ่งทั้งจากบรรยากาศและบทเพลงคำสาป ฉากผีตุ้งแช่มีให้เห็นนิดหน่อย การแสดงของคุณเดวิดถือว่าทำได้ดีตามมาตรฐานซึ่งตัวบทไม่ค่อยมีอะไรให้ได้โชว์ฝีมือการแสดงมากเท่าไหร่นัก

ตอนที่ 2 : Tattoo

เฟิร์น (กวาง เดอะเฟซ) สาวสวยผู้เปลี่ยวเหงา จำใจที่จะต้องหวนกลับมาหา เฟร็ดดี้ (ชิน ชินวุฒ) หนุ่มหล่อช่างสัก พร้อมกับสิ่งลึกลับบางอย่างที่ตามติดอยู่กับเธอ

ตอนนี้มาพร้อมกับบรรยากาศแบบหนังนีโอ-นัวร์ ซึ่งก็ช่วยให้บรรยากาศของหนังดูมีความลึกลับ เต็มไปด้วยปริศนาดำมืดซ่อนอยู่ รวมไปถึงพล็อตและบทเฉลยของปมเรื่องที่ทำออกมาได้น่าสนใจทีเดียว แต่ปัญหาของตอนนี้กลับกลายเป็นว่าไม่สามารถจัดการกับแนวทางที่หลายในพล็อตให้ลงตัวได้ สุดท้ายหนังเลยไปได้ไม่สุดซักทาง ทั้งแนวรักโรแมนติก, ลึกลับ-อีโรติก หรือแนวสยองขวัญซึ่งถือเป็นจุดขายหลักของหนัง ก็ไม่สามารถสื่อออกมาให้รู้สึกเป็นที่จดจำได้เท่าไหร่ รวมไปถึงความหลอนของตอนนี้ถือว่าน้อยกว่าที่ควรและเน้นไปที่ฉากตุ้งแช่เป็นหลัก(ซึ่งก็มีบางฉากที่ทำออกมาได้ดีอยู่)ด้วยความที่บรรยากาศของหนังที่ออกไปในโทนมืดแทบทั้งตอน ทำเอาการเฉลยปมตอนท้ายที่ควรจะหลอนและสะใจได้มากกว่านี้ออกอาการกร่อยลงไปพอสมควร สิ่งที่แบกหนังเรื่องนี้เอาไว้คือนักแสดงของสาว กวาง เดอะเฟซ ที่เฉิดฉายแทบทุกฉาก และดูทุ่มเทมากทีเดียว ถึงแม้สุดท้ายหนังจะใช้ประโยชน์จากจุดนี้ได้ไม่เต็มประสิทธิภาพอย่างที่ควรก็ตาม

ตอนที่ 3 : เมียแช่ง

ซัน (หน่อง ธนา) ชายหนุ่มที่จู่ๆ ความทรงจำสามวันก่อนหน้าหายไป แต่มาพร้อมๆ กับภาพหลอนที่คอยตามหลอกเขาไปทุกๆ ที่จนแทบเป็นบ้า เจ้านายและเพื่อนๆ ของเขาจึงต้องร่วมกันหาสาเหตุว่าทุกอย่างเกิดขึ้นจากอะไรกันแน่

ถือเป็นตอนที่ทะเยอะทะยานและเล่นท่ายากที่สุดของเรื่องเลยก็ว่าได้ แต่สิ่งที่ตามมาคือ ถ้าคุมมันไม่อยู่ ทุกอย่างก็จะลงเอยเป็นหายนะอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ทั้งที่ช่วงต้นเรื่องถือว่าผูกปมต่างๆ เอาไว้ค่อนข้างน่าสนใจ และเมื่อถึงเวลาคลายปมหนังกับหยิบโน่นผสมนี่ปนกันมั่วจนทุกอย่างเละเทะไปหมด ซึ่งหลายๆ ปัญหาที่เกิดขึ้นกับตอนนี้น่าจะมาจากเวลาที่มีค่อนข้างจำกัด ทำให้หนังไม่สามารถปูเรื่องราวที่มาที่ไปต่างๆ ได้มากพอให้คนดูคล้อยตามตามที่หนังต้องการจะสื่อได้มากพอ รวมไปถึงปมของหนังที่ยัดเข้ามามากมาย แต่สุดท้ายก็เฉลยกันแบบโต้งๆ ไม่ก็ตัดจบไปดื้อๆ, หลายๆ ฉากเลือกมุมมองที่ไม่เข้ากับสิ่งที่หนังต้องการจะสื่อจนทำเอาเปลี่ยนอารมณ์ของหนังไปเสียอย่างนั้น และโทนหนังที่ไม่รู้ว่าพยายามจะไปทางไหนดีระหว่างตลกร้าย(ที่สุดท้ายกลายเป็นการยัดมุขเข้ามาซึ่งไม่กลมกลืนกับพล็อตซักเท่าไหร่), สืบสวน หรือลึกลับ-สยองขวัญ ผสมแฟนตาซีหน่อยๆ ที่ก็ทำได้ไม่สุดทาง และฉากสยองที่ทำออกมาได้หลอนน้อยกว่าที่ควรจะเป็น ทั้งๆ ที่ในส่วนของพล็อตเรื่องและบทหนังที่แฝงประเด็นทางสังคม ถือว่าทำออกมาได้น่าสนใจและแปลกใหม่อยู่พอสมควร แต่เวลาที่จำกัดก็ทำให้แต่ละฉากสั้นเกินไปจนคนดูจับประเด็นที่หนังต้องการจะสื่อมาร้อยเรียงได้ยากมาก อีกอย่างที่น่าเสียดายคือการแสดงของคุณหน่อง ธนา ที่ดูจะทุ่มเทเต็มที่แล้ว แต่ก็ช่วยอะไรหนังไม่ได้มากเท่าไหร่ ส่วนสามนักแสดงอย่างคุณบ๊อบบี้, คุณยัด และคุณเชน ถือว่าสร้างสีสันได้บ้างตามบทที่มี

โดยรวมแล้ว หนังเรื่องแช่งไม่ใช่หนังที่แย่ เพียงแต่เป็นหนังที่มีพล็อตและการนำเสนอที่น่าสนใจ แล้วไม่สามารถรีดศักยภาพความหลอนออกมาจากพล็อตเรื่องให้แก่คนดูได้อย่างที่ควร ใครที่หวังได้ดูฉากสยองหรือฉากตุ้งแช่เยอะๆ ก็อาจจะผิดหวังอยู่ซักหน่อย รวมไปถึงผีในเรื่องก็ไม่หลอนมากอย่างที่คิด แต่โปรดักชั่น, งานภาพและเสียงถือว่าทำได้ค่อนข้างดี ตัวหนังเดินเรื่องค่อนข้างกระชับ ดูได้เพลินๆ และมีข้อคิดให้คนดูได้คิดตามกันอยู่บ้าง