หลังชิมลางเข้าฉายรอบพิเศษไปเมื่อสัปดาห์ก่อน ก็ได้เวลาที่แอนิเมชั่นมันส์ปนฮาอย่าง Spider-Man: Into the Spider-Verse ไต่ทะยานคว้าแชมป์สุดสัปดาห์วันเด็กแห่งชาติไปครองได้ตามคาด (ขึ้นแท่นเป็นหนังปี 2019 เรื่องแรกที่คว้าแชมป์) ด้วยรายได้เปิดตัว 21.34 ล้านบาท (รวมรอบพิเศษเมื่อสัปดาห์ก่อนเข้าไปด้วย หนังทำเงินรวมไปแล้ว 26.84 ล้านบาท) ซึ่งถือว่าค่อนข้างสูงทีเดียวสำหรับในกลุ่มหนังแอนิเมชั่นด้วยกัน โดยหากลองนำไปเทียบกับรายได้เปิดตัวของหนังแอนิเมชั่นเมื่อปีก่อน ก็สามารถกระโดดขึ้นไปถึงระดับ Top 3 ได้อย่างไม่ยากเย็น (อยู่อันดับที่ 3 ตามหลังสองแนิเมชั่นภาคต่อ Incredibles 2 และ Ralph Breaks the Internet เช่นเดิม ที่ 27 และ 25 ล้านบาท ตามลำดับ) รวมไปถึงขึ้นแท่นเป็นหนังแอนิเมชั่นซูเปอร์ฮีโร่ทำเงินเปิดตัวสูงเป็นอันดับ 3 ตลอดกาลในบ้านเรา (เป็นรองครอบครัวฮีโร่ Incredibles 2 เจ่าเก่าและอีกหนึ่งเรื่องจากค่ายดิสนี่ย์อย่าง Big Hero 6 โดยเรื่องหลังเปิดตัวเอาไว้ที่ 23 ล้านบาท) และสร้างสถิติเป็นหนังเปิดตัวสุดสัปดาห์วันเด็กแห่งชาติสูงสุดตลอดกาลในบ้านเราเรื่องใหม่ แทนที่หนังคุณพ่อขาโหดภาคต่อ(ที่อาจจะไม่เหมาะกับคุณหนูๆ ในวันเด็กปีนั้นซักเท่าไหร่) อย่าง Taken 3 ผู้ครองสถิตินี้มายาวนานถึงสี่ปี (ซึ่งปีก่อนเคยเกือบจะโดนแอนิเมชั่นสายพันธุ์ไทยอย่าง ๙ ศาสตรา โค่นลงมาได้แล้ว แต่สุดท้ายก็พ่ายไปแบบเฉียดฉิว) ที่ 20 ล้านบาท แต่สำหรับในกลุ่มหนังตระกูลสไปเดอร์แมนด้วยกัน ถือว่าทำได้ค่อนข้างห่างไกลกับเวอรืชั่นคนแสดงอยู่พอสมควร กระทั่งตอนที่เปิดตัวเอาไว้น้อยที่สุดในบ้านเราอย่าง Spider-Man ภาคแรกสุด ก็เคยทำเอาไว้ในระดับ 50 ล้านบาท(ซึ่งเป็นระดับสถิติ ณ ตอนนั้น)เลยทีเดียว และน่าจะเป็นหนังไอ้แมงมุมเรื่องแรกที่ทำเงินไม่ถึงหลักร้อยล้านในบ้านเราเป็นที่แน่นอนแล้ว

หนังไทยขายฮาของผู้กำกับหม่ำจ๊กมก ขุนบันลือ ยังคงเกาตำแหน่งรองแชมป์เอาไว้แน่น ไม่ขยับไปไหน เก็บเงินสุดสัปดาห์นี้ไปอีก 3.7 ล้านบาท (ลดลงจากสุดสัปดาห์ก่อนแค่เกือบครึ่งเท่านั้น!) และเก็บเงินรวมสามสัปดาห์ไปแล้ว 42.88 ล้านบาท ใกล้จะแซง ขุนพันธ์ 2 (44 ล้านบาท) ขึ้นไปนั่งตำแหน่งอันดับ 6 หนังไทยทำเงินสูงสุดประจำปี 2018 อีกแค่ไม่กี่อึดใจแล้ว
ส่วนแชมป์เก่าสี่สมัยอย่างเจ้าสมุทร Aquaman โดนเบียดลงมาอยู่อันดับ 3 กับรายได้สุดสัปดาห์นี้ที่เก็บไปอีก 3.59 ล้านบาท (นอกนจากจะลดลงจากสัปดาห์ก่อนเกินครึ่งไม่มาก ที่ 57% ยังทำสถิติเป็นรายได้สุดสัปดาห์ที่ห้า สูงสุดขงอปี 2018 ทิ้งห่างสถิติเดิมของ Black Panther ไปถึงล้านบาท) และกวาดรายห้าสัปดาห์ไปแล้วถึง 248.78 ล้านบาท ขยับขึ้นมาไล่จี้รายได้ห้าสัปดาห์กว่าๆ ของ The Avengers ภาคแรกเหลือแค่ล้านกว่าๆ แล้ว (เหล่าอเวนเจอร์ เพิ่งจะทำเงินทะลุ 250 ล้านในสัปดาห์นี้) และแน่นอนว่ากำลังจะกลายเป็นซูเปอร์ฮีโร่หลัก 250 ล้านเรื่องแรกของจักรวาล DC ในบ้านเราเสียที (โดยเรื่องแรกของฝั่งมาร์เวลก็คือ The Avengers ภาคแรกเมื่อ 7 ปีที่แล้วนั่นแหละ)
เจ้าหุ่นรถเต่าสีเหลือง Bumblebee ใกล้จะถึงฝั่งฝันร้อยล้านเข้าไปทุกทีแล้ว โดยเก็บเงินสุดสัปดาห์นี้ไปอีก 2.99 ล้านบาท (ลดลงจากสัปดาห์ก่อนพอๆ กับเจ้าสมุทรที่ 57%) และเก็บรายได้รวมสี่สัปดาห์กว่าๆ ไปแล้วถึง 98.17 ล้านบาท แซงหน้าหนังแอ็กชั่นถล่มเมืองของเฮียเดอะร็อคอย่าง Rampage (96 ล้านบาท) ขึ้นไปอยู่อันดับที่ 12 หนังทำเงินสูงสุดประจำปี 2018 ได้แล้ว และแทบจะไม่น่าพลาดตำแหน่งหนังร้อยล้านเรื่องปิดท้ายของปี 2018 แล้วมั้ง (เว้นเสียแต่ว่าจู่ๆ โรงจะหายเกลี้ยงแทบหมดโปรแกรมในสัปดาห์หน้าล่ะนะ)
หนังใหม่อีกสองเรื่องที่เหลือที่เข้า Top 10 มาในสัปดาห์นี้ เริ่มจากหนังวิกฤติเรือดำน้ำระเบิด Kursk ของผุ้อำนวยการสร้างชื่อดัง ลุค เบซอง เปิดตัวสุดสัปดาห์แรกไป 1.8 ล้านบาท ซึ่งถือว่าน่าผิดหวังอยู่พอสมควร แต่เพราะด้วยแนวหนังอาจจะเข้าถึงคนดูในวงกว้างยากอยู่ซักหน่อย โดยเฉพาะเมื่อเทียบกับหนังแนวคล้ายกัน และทำรายได้พอจะใกล้เคียงกันอย่างหนังกู้ภัยเรือล่มกลางพายุ The Finest Hours แม้จะออกตัววันแรกไม่เยอะมาก แต่ก็ปิดรายได้สุดสัปดาห์ไปได้พอประมาณ ที่ 6 ล้านบาท หรือเทียบกับผลงานอำนวยการสร้างเรื่องก่อนหน้าของ ลุค เบซอง อย่างหนังภาคต่อ Taxi 5 เมื่อปีก่อน ซึ่งอาจจะมีความเป็นหนังตลาดมากกว่า เลยเปิดตัวได้ดีกว่า(แม้จะต่างกันไม่มาก) ที่ 3 ล้านบาท ส่วนในเครดิตของทีมนักแสดงที่คอหนังบ้านเราน่าจะคุ้นหน้ากันอยู่พอสมควร รายได้เปิดตัวระดับนี้ถือว่าค่อนข้างน้อยอยู่แล้วสำหรับแต่ละคนที่ต่างก็เคยผ่านหนังฟอร์มโตกันมาอยู่แล้ว ทั้งพระเอกหนุ่มมาทิอัส โชนาร์ท (เรื่องก่อนหน้าคือหนังสายลับ Red Sparrow เมื่อปีก่อน เปิดตัวเอาไว้เป็นสถิติของเจ้าตัวที่ 9 ล้านบาท), นางเอกสาวลีอา แซดู (เรื่องก่อนหน้าคือหนังฟอร์มเล็กแต่กระแสแรงอย่าง The Lobster เมื่อ 4 ปีก่อน เคยเปิดตัวในบ้านเราจากไม่กี่โรงถึง 1 ล้านบาท) และเฮียโคลิน เฟิร์ธ (มีหนังอีกเรื่องที่ยังติดอยู่ใน Top 10 สัปดาห์นี้ด้วยเช่นกัน อย่าง Mary Poppins Returns เคยเปิดตัวเอาไว้มากกว่าเกือบเท่าตัวที่ 3.5 ล้านบาท)
อีกหนึ่งเรื่องคืออนิเมะแดนปลาดิบภาคล่าสุดของเจ้าหนูจอมแก่นขวัญใจคนดูบ้านเรา อย่าง Crayon Shin-chan The Movie 2018 เปิดตัวสุดสัปดาห์แรกไป 8.8 แสนบาท ซึ่งถือเป็นตัวเลขที่ไม่เลวเลย เพราะหากลองนำไปเทียบกับรายได้เปิดตัวของหนังญี่ปุ่นเมื่อปีก่อน ถือว่าสูงในระดับติด Top 10 ได้เลยทีเดียว (อยู่อันดับที่ 8 ตามหลังหนังเมียแกล้งตายชื่อย้าวยาว When I Get Home, My Wife Always Pretends to be Dead เคยเปิดตัวเอาไว้ที่หลักล้านบาทเมื่อปีก่อน) รวมไปถึงกลายเป็นหนังโรงชินจังภาคที่เปิดตัวสูงสุดตลอดกาลในบ้านเราไปแล้ว! (เอาชนะภาค ศึกยอดคุณพ่อโรบอท เมื่อ 3 ปีก่อนไปแบบเฉียดฉิว ที่ 8 แสนบาท และทำได้มากกว่าภาค สงครามกระบองเพชรยักษ์ เมื่อช่วงวันเด็กสามปีที่แล้วเกินเท่าตัว ที่ 4 แสนบาท)
กลุ่มเจ้าของรางวัลลูกโลกทองคำปีล่าสุด นอกจากไอ้แมงมุมเจ้าของรางวัลแอนิเมชั่นยอดเยี่ยมที่พูดถึงไปแล้วในฐานะแชมป์ประจำสัปดาห์ อีกสองเรื่องที่ได้รับประโยชน์มากกว่าเรื่องอื่นๆ หน่อยคงหนีไม่พ้นเจ้าของรางวัลภาพยนตร์ยอดเยี่ยมทั้งสองสาขา เริ่มจากสาขาหนังเพลงหรือตลก อย่าง Green Book กระโดดขึ้นมาอีกหนึ่งอันดับ เก็บรายได้สุดสัปดาห์นี้ไปอีก 1.46 ล้านบาท ลดลงจากสัปดาห์แรกแค่ 1% เท่านั้น!!! (แน่นอนว่าขึ้นแท่นเป็นหนังทำ % ลดลงจากสัปดาห์แรกน้อยที่สุดของปีนี้ไปโดยปริยาย) และเก็บรายรับรวมสามสัปดาห์(รวมรอบพิเศษ)ไปแล้ว 4.49 ล้านบาท แม้จะยังเป็นรายได้รวมที่ไม่สูงมากนัก แต่ก็กลายเป็นหนังทำเงินสูงสุดในรอบหลายปีของทั้งพระเอกหนุ่มวิกโก้ มอร์เทนเซ่น (สูงสุดในรอบ 15 ปีนับตั้งแต่หนังผจญภัย Hidalgo เคยเก็บเงินในบ้านเราไปเกือบ 20 ล้านบาท) และผู้กำกับปีเตอร์ ฟาร์เรลลี่ (สูงสุดในรอบ 15 ปีเช่นกัน แถมยังมีโอกาสไปไกลกว่านั้นหากแซงหนังแฝดสยาม Stuck on You ซึ่งปิดรายได้เอาไว้ที่ 6 ล้านบาทอีกด้วย) ส่วนเจ้าของรางวัลสมทบชายลูกโลกทองคำอย่างมาเฮอร์ชาลา อาลี แม้จะมีหนังที่ให้เสียงพากย์อย่าง
Spider-Man: Into the Spider-Verse คว้าแชมป์ในสัปดาห์นี้ด้วยรายได้เปิดตัวที่สูงกว่ารายได้รวมของ Green Book หลายเท่า แต่สำหรับหนังคนแสดงด้วยกัน รายได้รวมของ Green Book ก็ยังคงมากกว่าหนังเรื่องก่อนหน้าของเฮียอาลี ทั้ง Hidden Figures (4 ล้านบาท) และ Moonlight (1 ล้านบาท) ได้แบบไม่ยากเย็น
ส่วนภาพยนตร์ยอดเยี่ยมสาขาหนังดราม่า อย่าง Bohemian Rhapsody ที่ได้ขยายโรงกลับมาเป็นหลักสิบโรงอีกครั้ง จนสามารถกระโดดกลับขึ้นมาใน Top 10 หลังจากที่ห่างหายจากตารางไปนานสองสัปดาห์ และเข้าฉายมาอย่างยาวนานมากกว่าสิบสัปดาห์! แม้สถิติส่วนของรายได้รวม (ทำไปแล้วถึง 21.73 ล้านบาท) จะยังไม่มีอะไรเพิ่มเติมไปมากกว่านี้ แต่สถิติการติด Top 10 ถึง 8 สัปดาห์ (ไม่นับรวมรอบพิเศษอีกหนึ่งสัปดาห์ก่อนหน้านั้น) ก็ทำให้หนังครองสถิติ หนังที่ติดอยู่ใน Top 10 ประจำสุดสัปดาห์มากสัปดาห์ที่สุดโดยไม่นับรอบพิเศษของปี 2018 เหนือ Black Panther และ Avengers: Infinity War (ที่ 7 สัปดาห์) ได้แต่เพียงผู้เดียวและแบบเป็นเอกฉันท์เสียที!
Top 10 สุดสัปดาห์นี้ ทำเงินรวมกันไป 37 ล้านบาท
เพิ่มขึ้นจาก Top 10 สุดสัปดาห์ก่อน 6% (34 ล้านบาท)
แต่ลดลงจาก Top 10 สุดสัปดาห์เดียวกันในปีก่อน 21% (47 ล้านบาท)
ซึ่งเป็นสุดสัปดาห์ที่แอนิเมชั่นไทยสุดอลัง ๙ ศาสตรา คว้าแชมป์ฉลองวันเด็กไปแบบชิลๆ ด้วยรายได้เปิดตัวไม่เลวเลยที่ 20 ล้านบาท