[Thailand Box Office] หนังทำเงินประจำสุดสัปดาห์ที่ 27-30 ธันวาคม 2561 : Aquaman เบียด Bumblebee, ขุนบันลือ คว้าแชมป์สามสมัยติดส่งท้ายปี

สุดสัปดาห์ส่งท้ายปี 2018 ยังคงเป็นช่วงเวลาทองของหนังซูเปอร์ฮีโร่สุดฮิตอย่าง Aquaman ที่สามารถต้านทานกองทัพหนังใหม่เอาไว้ จนสามารถครองบัลลังก์แชมป์เป็นสมัยที่ 3 ติดต่อกันได้สมใจ กับรายได้สุดสัปดาห์นี้ที่เก็บไปอีก 23.56 ล้านบาท ที่นอกจากจะลดลงไม่ถึงครึ่งจากสัปดาห์ก่อน (-46%) ยังกลายเป็นรายได้สุดสัปดาห์ที่สามสูงสุดของปีนี้ทิ้งห่างเรื่องอื่นไปแบบหล่อๆ อีกด้วย! แซงหนังฮีโร่แห่งปีของฝั่งมาร์เวลอย่าง Avengers: Infinity War ไปพอสมควร (18 ล้านบาท) แต่ที่พิเศษไปกว่านั้นจากการแซงรายได้สัปดาห์ที่สามของ Avengers ภาคล่าสุดในครั้งนี้พ่วงด้วยตำแหน่งรายได้สุดสัปดาห์ที่สามของหนังซูเปอร์ฮีโร่สูงสุดตลอดกาลในบ้านเราไปด้วย!! (รวมไปถึงแซงแชมป์เก่าของฮีโร่ฝั่ง DC อย่าง The Dark Knight Rises ไปไกลร่วมสิบล้านทีเดียว ที่ 13 ล้านบาท) ส่วนรายได้รวมสามสัปดาห์ของหนังที่กวาดไปแล้วถึง 218.38 ล้านบาท โดยทะลุหลักสองร้อยล้านไปเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (ใช้เวลารวมทั้งสิ้น 13 วัน เร็วเป็นอันดับ 3 ของปีนี้ตามหลัง
Avengers: Infinity War และ Jurassic World: Fallen Kingdom) และกลายเป็นหนังซูเปอร์ฮีโร่ทำเงินเกินสองร้อยล้านเรื่องที่ 6 ในบ้านเราอย่างเป็นทางการ (ซึ่งแน่นอนว่าเป็นเรื่องแรกของฝั่ง DC ด้วย) รวมไปถึงโอกาสที่จะทะลุเข้าสู่ Top 5 หนังฮีโร่ทำเงินสูงสุดตลอดกาลสำหรับหนังยังเปิดกว้างอยู่พอสมควร แม้รายได้รวมสามสัปดาห์ของหนังจะตามหลังอันดับ 5 อย่าง The Avengers ภาคแรกอยู่ร่วมยี่สิบล้าน (239 ล้านบาท) แต่นั่นเพราะเจ้าสมุทรของเราเริ่มต้นจากการตามหลังเหล่าอเวนเจอร์ถึงเกือบ 50 ล้านบาทในสุดสัปดาห์แรก (เหล่าอเวนเจอร์ทำเงินหกวันแรกไป 142 ล้านบาท) แต่รายได้ที่ลดลงต่อสัปดาห์น้อยกว่าก็เลยทำให้เจ้าสมุทรของเราไล่จี้ใกล้ขึ้นมาเรื่อยๆ จนช่องว่างของทั้งสองเรื่องลดลงมาเหลือเท่าที่เห็นนี่ล่ะ (ส่วนจะแซงได้หรือไม่นั้น คงต้องมาลุ้นกันว่าวันหยุดยาวปีใหม่จะช่วยเจ้าสมุทรของเราได้มากแค่ไหน)

หนังภาคแยกของเจ้าหุ่นสีเหลือง Bumblebee ยังคงเกาะตำแหน่งรองแชมป์ไว้ได้อีกสมัยเช่นกัน เก็บเงินสุดสัปดาห์นี้ไปอีก 18.81 ล้านบาท ซึ่งลดลงจากสัปดาห์แรกเพียง 52% เท่านั้น (น้อยกว่าที่ Aquaman ทำเอาไว้เมื่อสัปดาห์ก่อนเสียอีก แต่ชนะกันไปแบบเฉียดฉิวแค่หลักทศนิยมเท่านั้น!) แต่น่าเสียดายที่หนังพลาดโอกาสเข้าสู่ Top 10 รายได้สัปดาห์ที่สองสูงสุดของปีนี้ไปเพียงนิดเดียว (หยุดอยู่อันดับที่ 11 ตามหลังขาโหดอย่าง Venom ไปแค่หลักหมื่นเท่านั้น! ที่ 18 ล้านบาท) ส่วนรายได้รวมสองสัปดาห์ที่เก็บไปแล้ว 72.98 ล้านบาท ความหวังที่จะไต่ขึ้นไปถึงระดับร้อยล้านยังพอเปิดกว้างอยู่บ้าง (มีวันหยุดยาวปีใหม่ช่วยให้ได้โกยเงินอีก) แม้เจ้าบัมเบิ้ลบีของเราจะยังคงตามหลังรายได้รวมสองสัปดาห์ของบรรดาหนังที่”เฉียดหลักร้อยล้าน”เกือบทุกเรื่องเลยก็ตาม ทั้งอีกหนึ่งหนังหุ่นยักษ์ภาคต่ออย่าง Pacific Rim: Uprising (80 ล้านบาท) หรือหนังปิดไตรภาควงกต Maze Runner: The Death Cure (74 ล้านบาท) ซึ่งโชคดีหน่อยตรงที่บัมเบิ้ลบีทำรายได้สัปดาห์ที่สองมากกว่าสองเรื่องที่กล่าวมา (12 และ 16 ล้านบาทตามลำดับ) ทำให้มีโอกาสที่จะแซงรายได้สุดท้ายของทั้งสองเรื่อง และขยับขึ้นไปใกล้หลักร้อยล้านมากๆ ได้อยู่

ส่วนอันดับที่เหลือใน Top 10 นอกจากแชมป์และรองแชมป์ ต่างก็เป็นหนังเข้าฉายใหม่ หรือเปิดตัวชิงลางรอบพิเศษกันทั้งสิ้น! โดยเริ่มจากอันดับสามกับหนังไทยขายฮาส่งท้ายปีอย่าง ขุนบันลือ ผลงานการกำกับเรื่องล่าสุดของคุณหม่ำ จ๊กมก หลังจากเว้นช่วงไปนานหลายปี เปิดตัวสุดสัปดาห์แรกไปที่ 17.04 ล้านบาท ถือเป็นตัวเลขที่พอใช้ได้อยู่ ไม่ว่าจะเทียบในกลุ่มหนังไทยด้วยกัน (เปิดตัวสูงเป็นอันดับ 7 ในกลุ่มหนังไทยปีนี้ ตามหลัง ขุนพันธ์ 2 ไม่มาก ที่ 18 ล้านบาท) หรือในกลุ่มหนังไทยที่เน้นขายความฮา (เปิดตัวเป็นอันดับ 2 ตามหลัง ไบค์แมน​ ศักรินทร์ตูดหมึก เพียงเรื่องเดียวที่ 20 ล้านบาท) ถึงแม้ว่าเมื่อเทียบในเครดิตการกำกับเรื่องก่อนๆ ของคุณหม่ำ ถือว่าอยู่ในระดับกลางๆ ค่อนไปทางน่าผิดหวังอยู่หน่อยๆ (เปิดตัวสูงเป็นอันดับ 8 จากทั้งหมด 12 เรื่องในเครดิตการกำกับของคุณหม่ำ สูงกว่าเรื่องล่าสุดอย่าง ทาสรักอสูร เมื่อ 4 ปีก่อนพอประมาณที่ 11 ล้านบาท) รวมไปถึงทำได้น้อยกว่า ส่ม ภัค เสี่ยน ผลงานการกำกับเรื่องแรกของคุณเอ็ม บุษราคัม ลูกสาวของคุณหม่ำเกือบเท่าตัวเลยทีเดียว! (เปิดตัวเอาไว้เมื่อปีก่อนที่ 31 ล้านบาท)

อนิเมะหนังโรงสุดมันส์ภาคล่าสุดอย่าง Dragon Ball Super: Broly เปิดตัวด้วยรายได้ 4.75 ล้านบาท ขึ้นแท่นเป็นหนังอนิเมะญี่ปุ่นเปิดตัวสูงเป็นอันดับ 2 ของปีนี้ (พ่วงตำแหน่ง หนังญี่ปุ่นเปิดตัวสูงเป็นอันดับ 2 ของปีนี้ไปด้วย) ตามหลังเจ้าหุ่นยนต์แมวสีฟ้าภาคล่าสุดอย่าง Doraemon the Movie: Nobita’s Treasure Island  เพียงเรื่องเดียวเท่านั้น (เปิดตัวเอาไว้ที่ 6 ล้านบาท) ส่วนในกลุ่มหนังแอนิเมชั่นของปีนี้ หนังยังทะยานขึ้นมาติด Top 10 เปิดตัวสูงสุดของกลุ่มนี้ได้อยู่ (หยุดอยู่ที่อันดับ 8 ตามหลังแอนิเมชั่นไทย ครุฑ มหายุทธ หิมพานต์ นิดหน่อย ที่ 5 ล้านบาท) และแน่นอนว่าขึ้นแท่นเป็นอนิเมะหนังโรงของตระกูล Dragon Ball ที่เปิดตัวสุดสัปดาห์แรกสูงที่สุดในบ้านเราไปแล้วด้วย! (แซงภาคก่อนหน้าอย่าง Dragon Ball Z: Resurrection ‘F’ ซึ่งเข้าฉายเฉพาะเครือ SF เมื่อสามปีก่อนไปแบบขาดลอยที่ 8 แสนบาท)

หนังอนิเมะญี่ปุ่นเปิดตัวสูงสุดในไทยปีนี้

ภาคต่อของพี่เลี้ยงสาวมหัศจรรย์ Mary Poppins Returns กระโดดเข้า Top 5 มาได้สำเร็จ ด้วยรายได้เปิดตัว 3.57 ล้านบาท (รวมหกวัน ทำเงินไปแล้ว 5.44 ล้านบาท) ถือเป็นตัวเลขที่น่าผิดหวังอยู่พอสมควร เมื่อเทียบกับหนังร่วมค่ายที่ทำได้ใกล้เคียงกันในปีนี้อย่าง Christopher Robin ก็กลายเป็นว่าทำรายได้สุดสัปดาห์แรกน้อยกว่าไปเสียอย่างนั้น (หมีพูห์เปิดตัวสุดสัปดาห์แรกไป 5 ล้านบาท) รวมไปถึงตามหลังรายได้เปิดตัวผลงานเรื่องก่อนหน้าของผู้กำกับร็อบ มาร์แชลล์ อย่าง Into the Woods อยู่ไกลโขเลยทีเดียว (14 ล้านบาท) ส่วนในเครดิตของนางเอกสาวเอมิลี่ บลันท์ในปีนี้ แม้จะตามหลังหนังสยองสุดฮิตอย่าง A Quiet Place ไกลมากๆ (เปิดตัวไป 20 ล้านบาท) แต่อย่างน้อยก็ยังแซง”รายรับรวม”ของแอนิเมชั่นภาคต่ออย่าง Sherlock Gnomes ที่เธอให้เสียงพากย์ไปแบบสบายๆ (ปิดรายได้ไปเพียง 2 ล้านบาท)

หนังแฟนตาซีหลอนปนฮาภาคต่ออย่าง Goosebumps 2: Haunted Halloween เปิดตัวสุดสัปดาห์แรกไป 3.54 ล้านบาท น้อยกว่าภาคแรกเคยทำเอาไว้เมื่อสามปีก่อนค่อนข้างมากเลยทีเดียว (11 ล้านบาท)

หนังแอ็กชั่นภาคแยกตำนานมวยหย่งชุนอย่าง Master Z: Ip Man Legacy เปิดตัวสุดสัปดาห์แรกไป 1.68 ล้านบาท เป็นอีกหนึ่งเรื่องที่ทำได้น่าผิดหวังเมื่อเทียบกับภาคหลักที่มีเฮียดอนนี่ เยนนำแสดง (อย่างภาคล่าสุด Ip Man 3 เมื่องสองปีก่อน เคยเปิดตัวเอาไว้ค่อนข้างเยอะทีเดียวในกลุ่มหนังเอเชียช่วงหลังๆ ที่ 6 ล้านบาท) แต่สำหรับนักแสดงไทยขาบู๊ที่ได้ร่วมแสดงในเรื่องนี้ด้วย อย่างคุณจา พนม ถือเป็นรายได้เปิดตัวที่โอเคขึ้นมาหน่อย เมื่อเทียบกับหนังฮ่องกงเรื่องก่อนอย่าง Paradox ที่เปิดตัวในบ้านเราเพียง 3 แสนบาทเท่านั้น!

หนังมิตรภาพต่างสายพันธุ์อย่าง Mia and the White Lion เปิดตัวสุดสัปดาห์แรกไป 6.3 แสนบาท อย่างที่เคยบอกไปว่าด้วยแนวหนังเลยอาจจะทำให้นำไปสู้กับหนังมิตรภาพต่างสายพันธุ์เรื่องอื่นๆ ในปีนี้ที่มีจุดขายค่อนข้างแปลกใหม่กว่าได้ยากพอสมควร เช่น คู่ซี้ยุคโบราณใน Alpha (เปิดตัวสุดสัปดาห์แรกไป 10 ล้านบาท) หรือซี้สุนัขจักรกล A-X-L (
เปิดตัวสุดสัปดาห์แรกไป 4 ล้านบาท)

ปิดท้ายด้วยสองหนังที่ขอชิมลางเข้าฉายรอบพิเศษส่งท้ายปีกันก่อน อย่างดราม่าปนฮาที่เดินหน้ากวาดรางวัลหลายเวที Green Book เปิดตัวรอบพิเศษไปที่ 2.4 แสนบาทและหนังครอบครัวซึ้งแฝงฮาอย่าง Instant Family เปิดตัวรอบพิเศษไป 2.3 ล้านบาท จากโรงฉายที่ได้ไปพอๆ กัน (20 โรง)

Top 10 สุดสัปดาห์ส่งท้ายปี 2018 ทำเงินรวมกันไปทั้งสิ้น 74 ล้านบาท

ลดลงจาก Top 10 สุดสัปดาห์ก่อนถึง 14% (86 ล้านบาท)

แต่เพิ่มขึ้นจาก Top 10 สุดสัปดาห์เดียวกันในปีก่อนถึง 7% (68 ล้านบาท)

ซึ่งเป็นสุดสัปดาห์ที่หนังผจญภัยภาคต่อ Jumanji: Welcome to the Jungle กระโดดขึ้นมาคว้าแชมป์ส่งท้ายปี ด้วยรายได้เปิดตัวสูงเกินคาดถึง 47 ล้านบาท

Leave a Reply

Fill in your details below or click an icon to log in:

WordPress.com Logo

You are commenting using your WordPress.com account. Log Out /  Change )

Twitter picture

You are commenting using your Twitter account. Log Out /  Change )

Facebook photo

You are commenting using your Facebook account. Log Out /  Change )

Connecting to %s