กลายเป็นอีกหนึ่งสุดสัปดาห์ที่เกิดการพลิกล็อคอีกครั้ง เมื่อแชมป์วันพฤหัสที่ผ่านมาอย่าง Bumblebee โดนเจ้าสมุทร Aquaman ที่อาศัยโกยเงินเพิ่มในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ พลิกแซงคว้าแชมป์ประจำสุดสัปดาห์นี้ไปแบบหน้าตาเฉย ด้วยรายได้สัปดาห์ที่สองสูงถึง 44.17 ล้านบาท ลดลงจากสัปดาห์แรกเพียง 52% เท่านั้น! ซึ่งถือว่าทำได้ดีมากๆ ในฐานะหนังฟอร์มยักษ์ที่ปกติมักจะทำเงินลดลงสุดสัปดาห์ที่สองเกิน 60% กันเสียเป็นส่วนใหญ่ (ขึ้นแท่นเป็นหนังเปิดตัวเกิน 50 ล้านบาทในสัปดาห์แรก แล้วทำเงินลดลงสัปดาห์ที่สองน้อยที่สุดของปีนี้ เอาชนะหนังไทยสุดฮิตอย่าง น้อง.พี่.ที่รัก เคยลดลงไป 61%) ซึ่งถึงแม้รายได้สุดสัปดาห์ที่สองของหนังจะยังคงสูงเป็นอันดับ 3 ของปีนี้ ตามหลังสองอภิมหายักษ์แห่งปีอย่าง Avengers: Infinity War และ Jurassic World: Fallen Kingdom (55 และ 54 ล้านบาท ตามลำดับ) เช่นเคย แต่ถ้าสังเกตดูดีๆ จะพบว่ารายได้สุดสัปดาห์ที่สองของเจ้าสมุทรถือว่าขยับเข้าไปใกล้สองเรื่องที่ว่ามากๆ จนห่างกันแค่สิบกว่าล้านบาทเท่านั้น! ทั้งๆ ที่หนังทั้งสองเรื่องเคยเปิดตัวสุดสัปดาห์แรกมากกว่ากันเกินครึ่งร้อยล้านเลยทีเดียว ส่วนรายได้รวมสองสัปดาห์ของหนังที่กวาดไปแล้วถึง 176.26 ล้านบาท นอกจากจะทำเงินแซงหนังซูเปอร์ฮีโร่ที่เคยเปิดตัวใกล้เคียงกันในปีนี้อย่าง Black Panther หรือเมื่อปลายปีก่อนอย่าง Thor: Ragnarok จากค่ายมาร์เวลไปหลายสิบล้านแล้ว (เก็บเงินรวมสัปดาห์กันไป 154 และ 155 ล้านบาท ตามลำดับ) หนังยังใช้เวลาเพียงสองสัปดาห์ ขึ้นแท่นเป็นหนังฮีโร่ DC ทำเงินรวมสูงสุดตลอดกาลในบ้านเราได้สำเร็จ! (โค่นหนังรวมพลสามตัวท็อปของค่ายอย่าง Batman v Superman: Dawn of Justice ไปไกลโขทีเดียวที่ 148 ล้านบาท) และมีลุ้นที่จะทำรายได้แซง Black Panther ขึ้นเป็นหนังซูเปอร์ฮีโร่ฉายเดี่ยวภาคแรก ทำเงินรวมสูงสุดในบ้านเราในไม่ช้านี้อีกด้วย ส่วนอันดับล่าสุดในกลุ่มหนังทำเงินสูงสุดของปีนี้ หนังไต่แซง นาคี ๒ (161 ล้านบาท) ทะลุขึ้นมาถึงอันดับที่ 4 แล้ว (ตามหลัง Black Panther เจ้าเก่า)

แชมป์วันเปิดตัวอย่าง Bumblebee ตกลงมาอยู่อันดับสอง กับรายรับสุดสัปดาห์แรกที่ 39.41 ล้านบาท (รวมรายได้รอบพิเศษสองวันสุดสัปดาห์ก่อนเข้าไปด้วย ทำเงินไปแล้วทั้งสิ้น 40.81 ล้านบาท) แม้จะเป็นตัวเลขที่ไม่น้อย ถือว่าอยู่ในระดับกลางๆ สำหรับหนังฟอร์มโตที่ไม่ได้เน้นขายฉากแอ็กชั่นมากนัก แต่ด้วยความที่หนังพะยี่ห้อ “จักรวาล Tranformers” เอาไว้ด้วยเลยทำให้เป็นตัวเลขที่ออกมาค่อนข้างน่าผิดหวังอยู่ซักหน่อย เพราะนอกจากจะทำเงินเปิดตัวน้อยที่สุดในจักรวาล Transformers ไปแล้ว (น้อยกว่า Transformers ภาคแรกเคยทำเอาไว้ที่ 60 ล้านบาท) โอกาสที่บัมเบิ้ลบีของเราจะทำเงินรวมไปถึงหลักร้อยล้านเป็นเรื่องแรกของจักรวาล Transformers มีค่อนข้างสูงทีเดียว (ต้องมาลุ้นกันว่ากระแสปากต่อปากและวันหยุดยาวช่วงปีใหม่จะช่วยได้มากแค่ไหน) แต่ภายใต้ความน่าผิดหวังกลับมีสถิติหนึ่งที่หนังคว้าไปครองได้แบบไร้คู่แข่ง นั่นก็คือสถิติ “รายได้เปิดตัวสูงสุดปีนี้ของหนังที่ไม่สามารถคว้าอันดับ 1 ได้ในสุดสัปดาห์แรก” ที่นอกจากจะทิ้งแชมป์เก่าของปีนี้อย่าง The Pool นรก 6 เมตร ไปไกล (เปิดตัวอันดับ 3 ด้วยรายได้ 13 ล้านบาท) ยังเป็นตัวเลขที่สูงในระดับสถิติอันดับต้นๆ ตลอดกาลของบ้านเราในกลุ่มหนังที่ “พลาดแชมป์” อีกด้วย (สูงสุดตลอดกาลยังคงเป็นหนังแฟนตาซีปิดไตรภาค อย่าง The Hobbit: The Battle of the Five Armies ที่เปิดตัวเข้าป้ายมาเป็นอันดับ 2 ในสัปดาห์นั้นด้วยรายได้สูงถึง 49 ล้านบาท) รวมไปถึงกลายเป็นหนังเปิดตัวสูงสุดในเครดิตของนางเอกสาว เฮลีย์ สไตน์เฟลด์ (เอาชนะ Ender’s Game ที่ 17 ล้านบาท) และนักมวยปล้ำขวัญใจแฟนๆ จอห์น ซีน่า (ทิ้งห่าง Daddy’s Home ภาคแรกไปไกลหลายเท่าตัว ที่ 3 ล้านบาท)

การฟาดฟันกันแย่งแชมป์ของสองหนังใหญ่ที่เป็นไปอย่างดุเดือด ทำเอาทั้งหนังเก่าและหนังใหม่ฟอร์มไม่ใหญ่มากในตารางได้รับผลกระทบกันถ้วนหน้า ทั้งแอนิเมชั่นภาคต่อสุดฮิตอย่าง
Ralph Breaks the Internet ที่แม้สุดสัปดาห์เก็บเงินไปอีกเพียง 6.9 แสนบาท (ลดลงจากสุดสัปดาห์ก่อนถึง 73%!!) แต่หนังวก็ใช้เวลาสี่สัปดาห์ ทำเงินรวมทะลุหลัก 60 ล้านได้แล้ว กลายเป็นหนังแอนิเมชั่นเรื่องที่ 2 ของปีนี้ที่สามารถทะลุหลักนี้ขึ้นมาได้ (ตามหลังครอบครัวฮีโร่ Incredibles 2) และเป็นเรื่องที่ 8 ตลอดกาลในบ้านเรา

หนังผีไทยรวมดาราและผู้กำกับมากฝีมืออย่าง สิงสู่ ทำเงินุสดสัปดาห์นี้ไปอีกเพียง 5.1 แสนบาท (ลดลงจากสุดสัปดาห์ก่อนถึง 76%!!) และเก็บเงินสองสัปดาห์ไปแล้ว 3.77 ล้านบาท โอกาสที่จะขึ้นเป็นหนังผีไทยทำเงินสูงสุดของปีนี้แทนที่ ตีสาม After Shock (ปิดรายได้เอาไว้ที่ 5 ล้านบาท) แทบจะหมดลงไปแล้ว รวมไปถึงกำลังจะเป็นหนังกำกับเดี่ยวของผู้กำกับวิศิษฏ์ ศาสนเที่ยง ทำเงินรวมน้อยที่สุดอีกด้วย (น้อยกว่าหนังเรื่องแรกของคุณวิศิษฏ์อย่าง ฟ้าทะลายโจร เคยทำเอาไว้ที่ 9 ล้านบาท)

หนังใหม่อีกสองเรื่องที่เข้ามาใน Top 10 สัปดาห์นี้คือหนังอนิเมะจากแดนปลาดิบอย่าง I Want to Eat Your Pancreas เปิดตัวสุดสัปดาห์แรกไป 4.9 แสนบาท กลายเป็นหนังอนิเมะญี่ปุ่นเปิดตัวสูงเป็นอันดับ 9 ของปีนี้ (ตามหลัง Sayoasa ที่ 5 แสนบาท) และตามหลังเวอร์ชั่นคนแสดงอย่าง Let Me Eat Your Pancreas เคยทำเอาไว้เมื่อปีก่อนเกือบสองเท่าตัวเลยทีเดียว (1.4 ล้านบาท)

อีกหนึ่งเรื่องคือหนังดราม่าเต็งรางวัลอย่าง The Wife ที่หลายคนลุ้นให้เจ้าป้าเกลนน์ โคลสคว้าออสการ์จากเรื่องนี้ได้เสียที เปิดตัวสุดสัปดาห์แรกไป 4.4 แสนบาท ซึ่งแน่นอนว่าห่างไกลจากหนังฟอร์มโตที่เจ้าป้าร่วมแสดงเรื่องก่อนๆ หน้า(ทั้ง What Happened to Monday และ Guardians of the Galaxy Vol. 2 ต่างก็เปิดตัวในระดับหลายสิบล้านด้วยกันทั้งคู่!) หลายเท่าตัวแม้แต่เรื่องที่ใกล้เคียงที่สุดอย่าง The Girl with All the Gifts เมื่อสองปีก่อนก็ยังเปิดตัวได้มากกว่าเกินเท่าตัวเลยทีเดียว (9 แสนบาท)

แต่มีอีกหนึ่งเซอร์ไพรส์ประจำสัปดาห์นี้คือการกระโดดกลับขึ้นมาติด Top 10 อีกครั้งของหนังฮิตขวัญใจหลายๆ คนอย่าง Bohemian Rhapsody ที่นอกจากจะทำเงินทะลุหลัก 20 ล้านไปแล้ว หนังยังคว้าสถิติ “หนังที่ติด Top 10 หนังทำเงินประจำสุดสัปดาห์” ได้ยาวนานที่สุดของปีนี้ ถึง 8 สัปดาห์(แบบไม่ติดต่อกัน) ไปครองเรื่องเดียวหล่อๆ ได้สำเร็จ!

เจ้าหุ่นบัมเบิ้ลบี และฮีโร่เจ้าสมุทร รวมพลังกันพา Top 10 สุดสัปดาห์นี้ ทำเงินรวมกันขึ้นไป 86 ล้านบาท

ลดลงจาก Top 10 สุดสัปดาห์ก่อนถึง 17% (104 ล้านบาท)

แต่เพิ่มขึ้นจาก Top 10 สุดสัปดาห์เดียวกันในปีก่อนถึง 155%!! (33 ล้านบาท)

ซึ่งเป็นสุดสัปดาห์ที่หนังสงครามจักรวาลภาคล่าสุดอย่าง Star Wars: Episode VIII – The Last Jedi ยึดแชมป์เอาไว้เป็นสมัยที่สอง ด้วยรายได้ที่ร่วงลงมาหนักเอาการ ที่ 16 ล้านบาท (โดยมี Jumanji: Welcome to the Jungle ตามมาห่างๆ ในฐานะรองแชมป์ แต่จากรายได้รอบพิเศษที่ถือว่าไม่เลวทีเดียว ที่ 6 ล้านบาท