สุดสัปดาห์นี้ ได้เวลเปิดศึกกันระหว่างสองหนังฟอร์มยักษ์ส่งท้ายปี ระหว่างแชมป์เก่าเมื่อสัปดาห์ก่อนอย่างเจ้าสมุทร Aquaman และภาคแยกจากจักรวาล Transformers ของเจ้าหุ่นยักษ์สีเหลืองขวัญใจแฟนๆ อย่าง Bumblebee ซึ่งท้ายที่สุดกลายเป็นฝั่งบัมเบิ้ลบีที่ออกหมัดเอาชนะไปได้ในยกแรก แต่ก็โดนเจ้าสมุทรไล่ต้อนจนออกอาการเป๋อยู่เหมือน ทำเอาหนังเก็บรายได้วันแรกไปน้อยกว่าที่หวังอยู่ซักหน่อย ที่ 9.23 ล้านบาท (รวมรายได้รอบพิเศษวันเสาร์-อาทิตย์สัปดาห์ก่อน เก็บเงินรวมไปแล้ว 10.63) ด้วยความที่ที่หน้าหนังขายฉากแอ็กชั่นสนั่นจอลดลงจากรุ่นพี่ Transformers ตอนก่อนๆ และเปลี่ยนมาขายความดราม่าอบอุ่นมากขึ้น ทำให้หนังเรียกแฟนๆ กลุ่มหลักของหนังซีรี่ย์นี้ตีตั๋วเข้าโรงได้ยากขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ (แต่ก็แลกมาด้วยคำชมที่เพิ่มขึ้นอย่างหนาหู) จนกลายเป็นหนังจากจักรวาล Transformers เรื่องแรกที่เปิดตัววันแรกไม่ถึงหลักสิบล้านไปเสีย (ขณะที่ Transformers ภาคล่าสุดที่โดนแฟนๆ ด่าซะเละเมื่อปีก่อน อย่าง The Last Knight ทำเงินเปิดตัววันแรกมากกว่าถึงเท่าตัวเลยทีเดียว ที่ 18 ล้านบาท) แต่ถึงอย่างไรรายได้วันแรกของหนังก็ถือว่าไม่ขี้เหร่มากนัก แม้จะห่างจาก Top 10 รายได้เปิดตัววันแรกสูงสุดของปีนี้อยู่พอสมควร (อยู่อันดับ 15) แต่เมื่อลองเทียบกับหนังหุ่นยักษ์ฟอร์มโตอีกเรื่องของปีนี้ อย่าง Pacific Rim: Uprising ที่อัดฉากแอ็กชั่นตูมตามเข้ามามากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด แต่ก็ทำได้มากกว่าไม่มากนัก (เหล่าเยเกอร์ขาบู๊เปิดตัววันแรกไป 13 ล้านบาท) รวมไปถึงเป็นหนังภาคแยกของตัวละครยอดนิยมที่ทำเงินวันแรกสูงสุดในรอบปีนี้ไปแล้ว เอาชนะทั้งเรื่องที่ฮิตอย่างผีแม่ชี The Nun จากจักรวาล Conjuring (8 ล้านบาท) หรือเรื่องที่แป้กผิดฟอร์มอย่าง Solo: A Star Wars Story จากจักรวาล Star Wars (3 ล้านบาท)

ฟากแชมป์เก่าอย่างเจ้าสมุทร Aquaman แม้จะเสียแชมป์ในยกแรก แต่ดูเหมือนจะไม่สะเทือนอย่างที่คิด เพราะเก็บเงินพฤหัสที่สองไล่จี้บัมเบิ้ลบีไปแบบติดๆ ที่ 8.04 ล้านบาท ลดลงจากพฤหัสแรกเกินครึ่งไปนิดหน่อย ที่ 53% เท่านั้น!! ซึ่งถือว่าผิดวิสัยของหนังฟอร์มโตทั้งหลายเอามากๆ ที่มักจะทำเงินสัปดาห์ที่สองร่วงเกินครึ่งลงมาพอสมควร โดยเฉพาะยิ่งต้องมาโดนหนังฟอร์มโตไม่แพ้กันมาเบียดแย่งโรงแบบนี้ด้วย ตัวอย่างจากหนังฮีโร่ที่ไม่ไกลนักก็คือหนังซูเปอร์วายร้ายสุดฮิตอย่าง Venom ที่เปิดตัววันแรกไปพอๆ กับเจ้าสมุทร (16 ล้านบาท) แต่พฤหัสที่สองกลับทำเงินลดลงมาจากวันแรกถึง 76%!! (เก็บไปอีก 3 ล้านบาท) หรือกระทั่งฮีโร่ฉายเดี่ยวสุดฮิตอย่าง Black Panther ที่อาจจะดูดีขึ้นมาหน่อย แต่ก็ยังทำเงินพฤหัสที่สองลดลงจากพฤหัสแรกถึง 67% อยู่ดี (เก็บไปอีก 4 ล้านบาท) ทำให้รายได้วันพฤหัสสัปดาห์ที่สองของเจ้าสมุทร สูงเป็นอันดับ 2 ของปีนี้เลยทีเดียว! เบียดหนังที่เปิดตัวสุดสัปดาห์แรกมากกว่ากันครึ่งร้อยล้านอย่าง Jurassic World: Fallen Kingdom (6 ล้านบาท) ไปแบบพลิกความคาดหมาย และเป็นรองปรากฏการณ์ของปีนี้อย่าง Avengers: Infinity War เพียงเรื่องเดียวเท่านั้น (11 ล้านบาท) ส่วนรายได้รวม 8 วันของหนังที่เก็บไปแล้วถึง 140.13 ล้านบาท (ใช้เวลาเพียง 5 วันผ่านหลักร้อยล้าน) แม้จะตามหลังสองหนังเปิดตัวแรงอย่าง Avengers: Infinity War, Jurassic World: Fallen Kingdom แบบไกลเกินเอื้อม (เรื่องแรกทะลุ 300 ล้าน ส่วนเรื่องหลังจ่อ 200 ล้าน!) แต่เมื่อมาเทียบกับเรื่องที่สูสีกันหน่อยอย่าง Black Panther กลายเป็นว่ารายได้แปดวันแรกของหนัง แซงฝ่าบาทเสือดำไปแล้วมากกว่าสิบล้านเลยทีเดียว! (เสือดำของเราเก็บเงินแปดวันไป 125 ล้านบาท) รวมไปถึงตำแหน่งหนังฮีโร่ DC ทำเงินสูงสุดในบ้านเราก็อยู่ใกล้แค่เอื้อมเข้าไปทุกที (ใช้เวลาเพียง 8 วัน แซงภาคปิดไตรภาคมนุษย์ค้างคาวเฮียโนแลน The Dark Knight Rises ที่ 133 ล้านบาท ขึ้นเป็นหนังซูเปอร์ฮีโร่ DC ทำเงินสูงอันดับ 2 ในบ้านเราไปแล้ว) ก็ต้องมาลุ้นกันว่ากระแสปากต่อปากที่เป็นบวกมากๆ ของหนังจะช่วยให้เจ้าสมุทรของเราสร้างสถิติอะไรใหม่ๆ ในสุดสัปดาห์นี้ได้หรือไม่!

ท่ามกลางสมรภูมิการแก่งแย่งคนดูกันของสองหนังยักษ์ใหญ่ ผลกระทบกลับไปตกอยู่กับหนังร่วมโปรแกรมในสัปดาห์นี้ไม่ว่าจะหน้าเก่าหรือหน้าใหม่ที่พากันโรงหดหายถ้วนหน้า จนไม่มีเรื่องไหนทำเงินวันพฤหัสที่ผ่านมาทะลุหลักแสนกว่าๆ ขึ้นมาได้แม้แต่เรื่องเดียว! กระทั่งหนังที่อันดับจ่อหลังสองยักษ์ใหญ่ อย่างอนิเมะหนังโรงเรื่องใหม่จากแดนปลาดิบ I Want to Eat Your Pancreas ที่เพิ่งจะมีเวอร์ชั่นคนแสดงดัดแปลงจากนิยายเรื่องเดียวกันเข้าฉายไปเมื่อปีก่อนนี่เอง เปิดตัววันแรกตามหลังสองยักษ์ใหญ่แบบสุดกู่ เพียง 1 แสนบาทเท่านั้น แม้จะยังติด Top 10 อนิเมะญี่ปุ่นหนังโรงเปิดตัววันแรกสูงสุดของปีนี้ได้อยู่ (อยู่อันดับ 8) แต่หนังทำได้น้อยกว่าเวอร์ชั่นคนแสดงอย่าง Let Me Eat Your Pancreas เมื่อปีก่อนเกินเท่าตัวเลยทีเดียว (เคยทำเอาไว้ที่ 2.5 แสนบาท)

อีกหนึ่งหนังใหม่คือตัวเต็งรางวัลสาขานำหญิงปีนี้อย่าง The Wife ที่หลายๆ คนลุ้นให้นักแสดงมากฝีมืออย่างเกลนน์ โคลส คว้ารางวัลออสการ์จากเรื่องนี้ให้ได้เสียที เปิดตัววันแรกไป 9 หมื่นบาท จากจำนวนโรงฉายสามสิบโรง ซึ่งอาจจะเป็นตัวเลขที่น้อยไปซักหน่อย แต่ก็ถือว่าไม่น่าแปลกใจเท่าไหร่นักสำหรับหนังแนวดราม่าที่ต้องมาเข้าฉายท่ามกลางกระแสหนังยักษ์เต็มโปรแกรม และมาช่วงที่ไม่มีกระแสเวทีรางวัลใหญ่ๆ มาช่วยหนุนแบบนี้ ส่วนในเครดิตของเจ้าป้าเกลนน์ โคลส เรื่องก่อนๆ ถือเป็นหนังแอ็กชั่นฟอร์มดีกันทั้งนั้น จึงไม่น่าแปลกใจที่จะทำรายได้วันแรกได้มากกกว่าหลายเท่าตัว (อย่างหนังฮิตเกินคาด What Happened to Monday ที่เปิดตัววันแรกไป 5 ล้านบาท หรือภาคต่อฮีโร่มาร์เวลสุดป่วนอย่าง Guardians of the Galaxy Vol. 2 ที่ทำได้มากขึ้นไปอีกถึง 13 ล้านบาท)

ส่วนหนังเก่าเรื่องอื่นๆ ต่างก็พากันทำเงินรูดลงแรงกันถ้วนหน้า ไม่ว่าจะเป็นหนังไทยแนวหลอนอย่าง สิงสู่ ที่เก็บเงินวันพฤหัสนี้ไปอีก 1 แสนบาท ลดลงจากพฤหัสแรกถึง 82%!! กับรายได้รวมแปดวันเพียง 3.36 ล้านบาท น่าจะไปแตะหลักห้าล้านยากแล้ว

หรือหนังแอนิเมชั่นสุดฮิตอย่าง Ralph Breaks the Internet เก็บเงินพฤหัสนี้ไปอีก 9.1 หมื่นบาท (ลดลงจากพฤหัสที่แล้ว 74%!) และทำรายได้รวมไปแล้ว 59.97 ล้านบาท โอกาสที่จะขึ้นแท่นเป็นหนังแอนิเมชั่นทำเงินสูงสุดของปีนี้เริ่มยากขึ้นไปทุกขณะ

และสองหนังที่เคยขับเคี่ยวกันแย่งแชมป์ อย่าง หอแต๋วแตก แตกต่อไม่รอแล้วนะ และ
Mortal Engines ก็แทบจะไม่เหลือเรี่ยวแรงให้ได้เก็บเงินไปไกลกว่าหลัก 30 ล้านมากเท่าไหร่แล้ว (เก็บเงินกันไป 2.9 และ 2.3 หมื่นบาทตามลำดับ ลดลงจากพฤหัสที่แล้วพอๆ กันถึง 90%!!)