ซูเปอร์ฮีโร่แห่งท้องทะเลจากค่าย DC อย่าง Aquaman คว้าแชมป์ประจำสุดสัปดาห์นี้ไปครองได้ตามคาด ด้วยรายได้เปิดตัวกระหึ่มลั่นโรงถึง 93.4 ล้านบาท ถือเป็นการกู้ชื่อให้กับฮีโร่จากค่ายนี้ได้แบบสมศักดิ์ศรีจริงๆ เพราะนอกจากจะขึ้นแท่นเป็นหนังภาคแรกทำเงินเปิดตัวสูงสุดของปีนี้ (เอาชนะซูเปอร์ฮีโร่จากค่ายมาร์เวล อย่าง Black Panther ที่ 77 ล้านบาทไปไกล) หนังยังทะยานเข้าสู่ Top 3 หนังเปิดตัวสุดสัปดาห์แรกสูงสุดของปีนี้ไปได้แบบหล่อๆ อีกด้วย (หยุดอยู่ที่อันดับ 3 ตามหลังสองหนังฟอร์มอภิมหายักษ์แห่งปีอย่าง Avengers: Infinity War และ Jurassic World: Fallen Kingdom ที่ต่างก็ทำได้ในระดับ”เกินร้อยล้าน”ในสุดสัปดาห์แรกด้วยกันทั้งคู่!) นอกจากนั้น ยังพ่วงมาด้วยตำแหน่งหนังซูเปอร์ฮีโร่ภาคแรก ควบหนังซูเปอร์ฉายเดี่ยวเปิดตัวสูงสุดของปีนี้ (แซง Black Panther นั่นแหละ) และหนังซูเปอร์ฮีโร่เปิดตัวสูงอันดับ 2 ของปีนี้
(ตามหลัง Avengers: Infinity War แค่เรื่องเดียว)

ส่วนในกลุ่มหนังจากจักรวาล DC ด้วยกัน ที่นอกจากหนังจะคว้าตำแหน่งหนังฮีโร่ DC แห่งปีนี้ไปแบบไม่ต้องแข่งกับใคร (เพราะเข้าฉายเรื่องเดียว) หนังยังได้กระแสปากต่อปากด้านบวกช่วยดันให้รายได้ช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์สูงจนแซงทางโค้ง เข้าป้ายคว้าตำแหน่งหนังเปิดตัวสุดสัปดาห์แรกสูงสุดของค่าย DC ตลอดกาลในบ้านเราได้สำเร็จ! (ทิ้งห่าง Batman v Superman: Dawn of Justice ที่เคยเปิดตัววันแรกมากกว่าไปค่อนข้างไกลทีเดียว ที่ 80 ล้านบาท) รวมไปถึงเตรียมตัวเข้าป้ายเป็นหนังฮีโร่ DC Extended Universe เรื่องที่ 5 จากทั้งหมด 6 เรื่องที่ผ่านมาแบบไม่ต้องลุ้นกันแล้ว (แม้จะนับรวมเรื่องก่อนหน้า Man Of Steel เข้ามาด้วย ก็เพิ่งจะเป็นร้อยล้านเรื่องที่ 6 ของค่ายเท่านั้นเอง) ขณะที่อันดับรายได้เปิดตัวสูงสุดตลอดกาลในกลุ่มหนังซูเปอร์ฮีโร่ด้วยกัน หนังพลาดที่จะเข้าสู่ Top 5 ของกลุ่มไปอย่างน่าเสียดาย (หยุดอยู่ที่อันดับ 6 ตามหลังไอ้แมงมุมยุคทีมอเวนเจอร์ส อย่าง Spider-Man: Homecoming ไปแบบเฉียดฉิว ที่ 94 ล้านบาท)

แอนิเมชั่นสุดฮิตอย่าง Ralph Breaks the Internet ยังคงเกาะอันดับสองเอาไว้ได้อย่างเหนียวแน่น แม้จะโดนความแรงของเจ้าสมุทรเล่นงานไม่ใช่น้อย ทำเอารายได้สัปดาห์ที่สามของหนัง ลดลงจากสัปดาห์ก่อนถึง 77%!! (เก็บไปอีก 2.56 ล้านบาท) รวมสัปดาห์เก็บเงินรวมไปแล้ว 58.85 ล้านบาท แม้จะวิ่งเข้าใกล้ตำแหน่งแอนิเมชั่นทำเงินสูงสุดของปีนี้เข้าไปทุกที (ตามหลังรายได้รวมของครอบครัวฮีโร่ Incredibles 2 ไม่ถึงห้าล้านบาทแล้ว!) แต่ด้วยโปรแกรมที่หนักหน่วงจากทัพหนังฟอร์มโตในสัปดาห์ถัดๆ ไป ก็แอบทำให้หวั่นๆ เหมือนกันว่าหนังจะสามารถพาตัวเองฝ่าฟันไปจนถึงเส้นชัยไหวหรือไม่ รวมไปถึงตำแหน่งแอนิเมชั่นทำเงินสูงสุดตลอดกาลของค่ายดิสนี่ย์ในบ้านเรา ที่ดูท่าจะหมดลุ้นไปแล้วเช่นกัน (ตามหลัง Zootopia ค่อนข้างไกลเลยทีเดียวที่ 88 ล้านบาท) แต่สำหรับในกลุ่มหนังแอนิเมชั่นทำเงินสูงสุดตลอดกาลในบ้านเรา หนังทำเงินทะลุขึ้นมาถึง Top 10 ได้แล้วนะเออ! (ล่าสุดมาอยู่อันดับ 9 ตามหลังแอนิเมชั่นค่ายพิกซ่าร์ Inside Out ซึ่งน่าจะโดนแซงในเร็ววันนี้ ที่ 59 ล้านบาท)
หนังผีไทยเรื่องใหม่ที่รวมทีมนักแสดงและผู้กำกับระดับลุ้นรางวัลเอาไว้อย่าง สิงสู่ เปิดตัวเข้ามาในอันดับที่ 3 ด้วยรายได้ 2.16 ล้านบาท แม้จะเป็นรายได้ที่ค่อนข้างน่าผิดหวัง ด้วยการที่ต้องมาชนกับหนังฟอร์มยักษ์แบบนี้ แต่เมื่อเทียบกับหนังผีสยองขวัญของไทยในปีนี้ด้วยกัน ดูเหมือนจะทำได้ไม่ค่อยแตกต่างจากเรื่องอื่นๆ ซักเท่าไหร่ เพราะรายได้เปิดตัวของหนังตามหลังหนังผีไทยเปิดตัวสูงสุดของปีนี้อย่าง ตีสาม After Shock แค่ไม่กี่แสนเท่านั้น! (2.7 ล้านบาท) แถมเพิ่งจะเป็นหนังผีสยองขวัญของไทยเรื่องที่สาม ที่ทำ”รายได้รวม”เกินหลักล้านเรื่องที่ 3 ของปีนี้อีกต่างหาก! (อีกหนึ่งเรื่องคือ ผีโทรศัพท์ ที่เพิ่งเข้าฉายก่อนหน้าไปเมื่อเดือนก่อนและปิดรายได้รวมไปเพียง 2 ล้านนิดๆ) ซึ่งบ่งบอกถึงความซบเซาของกลุ่มหนังผีไทยในปีนี้ได้เป็นอย่างดี รวมไปถึงกลายเป็นหนังเปิดตัวได้น้อยอันดับท้ายๆ ในเครดิตของทีมนักแสดงนำและผู้กำกับของเรื่องนี้ไปอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ทั้งพระเอกอนันดา เอเวอร์ริ่งแฮม (เปิดตัวน้อยที่สุดในรอบ 5 ปีนับตั้งแต่ ภวังค์รัก เคยเปิดตัวเอาไว้ในวงจำกัด ที่ 2 แสนบาท), นางเอกจ๋า วรัลชญาน์ (เปิดตัวน้อยที่สุดในเครดิตของสาวจ๋า น้อยกว่า รัก ลวง หลอน เคยเปิดตัวเอาไว้ที่ 2.6 ล้านบาท), นักแสดงสาวพลอย ศรนรินทร์ (กลายเป็นหนังที่เปิดตัวสูงที่สุดในปีนี้ของสาวพลอยไปเสียอย่างนั้น ด้วยการเอาชนะ ผีโทรศัพท์ ซึ่งเปิดตัวไปเพียง 1.4 ล้านบาท) และผู้กำกับวิศิษฏ์ ศาสนเที่ยง (หากไปนับหนังใหม่อีกเรื่องที่เข้าฉายพร้อมกันในสัปดาห์นี้ ก็จะถือว่าน้อยที่สุดนับตั้งแต่หนังร่วมทุนหลายสัญชาติอย่าง Camellia รักแรก รักเธอ รักสุดท้าย เคยเปิดตัวในบ้านเราเมื่อ 7 ปีก่อนไปเพียง 2 แสนบาท)
อีกหนึ่งหนังฟอร์มยักษ์ที่กำลังจะเปิดตัวในสัปดาห์อย่าง Bumblebee ขอชิมลางหยั่งกระแสจากแฟนๆ แบบด่วนๆ ด้วยการเปิดตัวรอบพิเศษเพียงสองวันในสัปดาห์นี้ ซึ่งก็ทำเงินไป 1.4 ล้านบาท แม้จะเป็นตัวเลขที่ไม่สูงมากนักเมื่อเทียบกับรายได้รอบพิเศษของหนังซีรี่ย์หลักอย่าง Transformers เรื่องที่ผ่านๆ มา (ภาคล่าสุดอย่าง Transformers: The Last Knight ทำเงินขากรอบพิเศษวันเดียวไปถึง 6 ล้านบาท) แต่ก็พอเข้าใจได้ จากจำนวนโรงฉายที่ไม่ถึงกับสูงมากนัก เมื่อต้องมาเบียดแย่งกับเจ้าสมุทรแบบกระทันหันแบบนี้ (100 กว่าโรง) แต่มีหนึ่งสถิติที่หนังคว้าไปแล้วในรอบปีนี้นั่นก็คือ สถิติรายได้รอบพิเศษสุดสัปดาห์แรกสูงสุดของปีนี้ เอาชนะการกลับมาของฆาตกรอมตะ Halloween ไปแบบเฉียดฉิว (ทำเอาไว้ที่ 4 วัน 1.38 ล้านบาท)
ส่วนหนังเรื่องอื่นๆ ทั้งเก่าและใหม่ ต่างก็ได้รับผลกระทบจากการมาของเจ้าสมุทรกันอย่างถ้วนหน้า ไล่มาตั้งแต่แชมป์วันพ่อเมื่อสัปดาห์ก่อนอย่าง หอแต๋วแตก แตกต่อไม่รอแล้วนะ เก็บรายได้สัปดาห์นี้ไปอีก 2.01 ล้านบาท (ลดลงจากสัปดาห์แรกถึง 80%!!!) แต่รายได้รวมสองสัปดาห์ที่เก็บไปแล้ว 26.14 ล้านบาท ก็ช่วยให้หอแต๋วภาคนี้ วิ่งแซงภาค 4 อย่าง หอแต๋วแตก แหกมว๊ากมว๊ากกก (26 ล้านบาท) ขึ้นเป็นหนังจากจักรวาลหอแต๋วทำเงินสูงเป็นอันดับ 4 ของกลุ่มจนได้ และทะลุเข้าสู่ Top 10 หนังไทยทำเงินสุงสุดของปีนี้ไปแล้ว (หยุดอยู่อันดับ 9 รอแซง The Pool นรก 6 เมตร ที่ 27 ล้านบาทในเร็ววันนี้)
แชมป์เก่าอย่าง Mortal Engines กลายเป็นหนังที่ได้รับผลกระทบหนักหน่วงที่สุดจากการมาของเจ้าสมุทร (ด้วยความที่เป็นหนังฟอรืมโต ขาย CG เหมือนๆ กัน) โดยสุดสัปดาห์นี้ทำเงินไปอีกเพียง 1.26 ล้านบาท ลดลงจากสัปดาห์แรกถึง 90%!!!! ทำสถิติ(ซึ่งคงไม่มีเรื่องไหนอยากได้)เป็นหนังทำเงินตกลงจากสัปดาห์แรกรุนแรงที่สุดในรอบปีนี้เมื่อเทียบกันในกลุ่มหนังที่เปิดตัวสุดสัปดาห์แรกเกินสิบล้านบาทขึ้นไป (แชมป์เก่าก็คือหนังสารคดีไทยอย่าง BNK48: Girls Don’t Cry ซึ่งเคยลดลงจากสัปดาห์แรกถึง 88%!) ส่วนรายได้รวมของหนังเก็บรวมไปแล้ว 28.88 ล้านบาท อีกนิดเดียวก็จะแซงอีกหนึ่งหนังฟอร์มโตที่ทำได้ค่อนข้างน่าผิดหวังอย่าง Solo: A Star Wars Story (29 ล้านบาท) ได้แล้ว
ปิดท้ายด้วยหนังใหม่ 3 เรื่องที่เหลือซึ่งไม่มีเรื่องไหนเปิดตัวเกินหลักล้านขึ้นมาได้ ประกอบด้วย Second Act ของสาวเจโล เปิดตัวสุดสัปดาห์แรกไป 6.1 แสนบาท (น้อยกว่ารายได้วันแรกของหนังเรื่องก่อนหน้าอย่าง Ice Age: Collision Course ที่เคยทำเอาไว้เกินหลักล้านเสียอีก)
หนังโรงเรียนหลอน Down a Dark Hall เปิดตัวสุดสัปดาห์แรกไปเพียง 2.5 แสนบาท น้อยกว่าเรื่องก่อนหน้าของสาวอูม่า เธอร์แมน อย่าง Burnt เคยทำเปิดตัวเอาไว้แบบเงียบเหงาไม่แพ้กัน ที่ 3 แสนบาท
และหนังไทยตะลุยเมืองคานส์อย่าง Ten Years Thailand เปิดตัวสุดสัปดาห์ไป 1.7 แสนบาท จากโรงฉายเพียงสิบโรง ซึ่งก็ถือว่าไม่มากหรือน้อยจนเห็นได้ชัดเมื่อเทียบกับผลงานเรื่องก่อนหน้าของผู้กำกับแต่ละท่าน อย่างคุณเจ้ย อภิชาติพงศ์ (หนังปาล์มทองคำ อย่าง ลุงบุญมีระลึกชาติ เคยเปิดตัวไป 2 แสนบาทจากโรงฉายเดียว!), คุณวิศิษฏ์ ศาสนเที่ยง (ที่เพิ่งกล่าวถึงไปแล้วจากหนัง สิงสู่ ที่เข้าฉายในสัปดาห์เดียวกัน),คุณอาทิตย์ อัสสรัตน์ (วันเดอร์ฟูลทาวน์ ทำเงินในวงจำกัดในบ้านเราไป 7 หมื่นบาท) และจุฬญาณนนท์ ศิริผล (หนังโรงเรื่องแรก)
การมาของเจ้าสมุทร ช่วยดันให้ Top 10 สุดสัปดาห์นี้ ทำเงินรวมกันพุ่งไปถึง 104 ล้านบาท (เฉพาะรายได้ของ Aquaman เพียงเรื่องเดียว ก็มากถึง 89% ของทั้ง 10 อันดับรวมกันแล้ว!)
เพิ่มขึ้นจาก Top 10 สุดสัปดาห์ก่อนถึง 146%!! (42 ล้านบาท)
และเพิ่มขึ้นจาก Top 10 สุดสัปดาห์เดียวกันในปีก่อนถึง 60% (65 ล้านบาท)
ซึ่งเป็นสุดสัปดาห์ที่ภาคต่อสงครามจักรวาล Star Wars: Episode VIII – The Last Jedi คว้าแชมป์ไปครองตามคาด แต่ด้วยรายได้เปิดตัวที่ลดลงจากภาคก่อนไปพอสมควร ที่ 54 ล้านบาท