สุดสัปดาห์วันพ่อแห่งชาติพ่วงวันรัฐธรรมนูญ หลังจากที่หนังไทยภาคต่อฟอร์มเต็งจะออกตัวได้แรงกว่าเรื่องอื่นๆ ในวันแรก แต่ท้ายที่สุดแชมป์ประจำสุดสัปดาห์กลับตกมาเป็นของหนังฝรั่งฟอร์มโตอย่าง Mortal Engines ที่ยืนระยะได้ดีกว่าจนสามารถเบียดแซงเรื่องอื่นๆ ขึ้นครองบัลลังก์ได้สำเร็จ ด้วยรายได้เปิดตัว 13.78 ล้านบาท (20.76 ล้านบาท) อาจจะเป็นตัวเลขที่ค่อนข้างน่าผิดหวังอยู่ซักหน่อยเมื่อเทียบกับฟอร์มของหนังเอง แต่อย่างน้อยๆ หนังก็ทำได้ดีกว่าหนังฟอร์มโตที่ทำได้ค่อนข้างน่าผิดหวังในบ้านเราหลายๆ เรื่อง หนึ่งในนั้นก็คือหนังภาคแยกของตัวละครดังจากจักรวาล Star Wars อย่าง Solo: A Star Wars Story ที่เหล่าเมืองเคลื่อนที่ของเราทำรายได้เปิดตัวแซงรายได้แบบเฉียดฉิวเพียงหลักหมื่นบาทเท่านั้น! (ฮาน โซโลเปิดตัวไป 13.7 ล้านบาทเท่ากัน) ซึ่งแทบไม่ต้องพูดถึงการนำไปเทียบผลงานเรื่องก่อนหน้าของโปรดิวเซอร์ ปีเตอร์ แจ็คสัน ที่ส่วนใหญ่ต่างก็ทำเงินในระดับ “ลุ้นร้อยล้าน” กันทั้งนั้น โดยเฉพาะหนังชุดจากวรรณกรรมของเจ. อาร์. อาร์. โทลคีน ทั้งไตรภาค The Lord of the Rings และ The Hobbit ต่างก็ทำเงินเปิดตัวในระดับมากกว่า 30 ล้านบาทกันทั้งนั้น
แชมป์เก่าอย่างแอนิเมชั่นภาคต่อ Ralph Breaks the Internet ลงมาอยู่อันดับ 2 โดยเก็บรายได้สุดสัปดาห์นี้ไปอีก 11.46 ล้านบาท ถือว่าทำได้ค่อนข้างดีทีเดียว เพราะลดลงจากสัปดาห์ก่อนเกินครึ่งไปไม่มากเท่าไหร่ (-55%) รวมไปถึงเป็นรายได้สุดสัปดาห์ที่สองสูงเป็นอันดับ 2 ในกลุ่มหนังแอนิเมชั่นปีนี้ด้วยกัน (เป็นรองแอนิเมชั่นภาคต่อจากค่ายพิกซ่าร์อย่าง Incredibles 2 ที่ 13 ล้านบาทเพียงเรื่องเดียวเท่านั้น) แต่รายได้รวมของหนังสองสัปดาห์ที่เก็บรวมไปแล้วถึง 50.94 ล้านบาท ทำให้ราล์ฟจอมทุบพาหนังภาคนี้ทำเงินทะลุหลัก 50 ล้านเร็วกว่าครอบครัวฮีโร่ Incredibles 2 ไปแล้ว (แต่ก็น้อยกว่ากันไปไม่มาก ที่ 49 ล้านบาท) ซึ่งราล์ฟของเรายังพอมีลุ้นที่จะขึ้นเป็นหนังแอนิเมชั่นทำเงินสูงสุดของปีนี้ได้อยู่ (ล่าสุดยังหยุดอยู่ที่อันดับ 3 แต่ก็ใกล้จะแซงอันดับ 2 อย่าง ๙ ศาสตรา ในอีกวันสองวันแล้ว!) ส่วนเมื่อเทียบกับหนังแอนิเมชั่นในอดีต นอกจากหนังจะทำเงินแซงภาคแรกไปไกลโข (22 ล้านบาท) ยังทำเงินทะลุเข้าสู่ Top 3 แอนิเมชั่นจากค่ายดิสนี่ย์ทำเงินสูงสุดตลอดกาลในบ้านเราอีกด้วย (อยู่อันดับ 3 ตามหลัง Big Hero 6 ที่ 55 ล้านบาท ไม่ไกลแล้ว) ซึ่งหากแซง Big Hero 6 ขึ้นไปได้ ก็แทบจะการันตีการทำเงินทะลุเข้าสู่ Top 10 หนังแอนิเมชั่นทำเงินสูงสุดของปีนี้ด้วยเช่นกัน
หนังไทยฟอร์มเต็งประจำสัปดาห์นี้อย่าง หอแต๋วแตก แตกต่อไม่รอแล้วนะ หลังจากที่เปิดตัววันแรกแล้วคว้าแชมป์ประจำวันไปครองได้ตอนวันพ่อ วันต่อๆ มาหนังกลับทำเงินรูดลงค่อนข้างแรงจนทำให้หนังเรื่องอื่นๆ พากันเร่งเครื่องทำเงินแซงปาดหน้าไปในท้ายที่สุด โดยสุดสัปดาห์แรก หนังเปิดตัวไป 10.48 ล้านบาท ทะลุเข้า Top 10 หนังไทยเปิดตัวสุดสัปดาห์แรกสูงสุดปีนี้ได้แบบหวุดหวิด (อยู่อันดับ 10 พอดี ตามหลัง BNK48: Girls Don’t Cry ที่ 10 ล้านบาทแค่ไม่กี่หมื่นบาท) รวมไปถึงกลายเป็นหนังเปิดตัวสุดสัปดาห์แรกสูงสุดในปีนี้ของผู้กำกับพชร์ อานนท์อีกด้วย (แซง หลวงพี่แจ๊ส 5G และ ตุ๊ดตู่กู้ชาติ ที่ต่างก็ทำเงินเปิดตัวในระดับ 8 ล้านบาทกันทั้งคู่) แต่ถึงอย่างไรเมื่อเทียบรายได้เปิดตัวของหนังในจักรวาล “หอแต๋วแตก” ด้วยกัน ถือเป็นรายได้ที่เกือบจะรั้งท้ายกลุ่มเลยทีเดียว (อยู่อันดับที่ 5 จากทั้งหมด 6 ภาค มากกว่าภาค 4 ซึ่งเป็นภาคเดียวที่เปิดตัวสุดสัปดาห์แรกไม่ถึงหลักสิบล้าน) ส่วนรายได้รวม 5 วันของหนัง ด้วยอานิสงค์ที่หนังทำเงินไปค่อนข้างเยอะตอนวันพ่อ (ซึ่งน้อยกว่ารายได้รวมสองสี่วันถัดมาแค่ล้านหน่อยๆ!) ทำให้หนังทำเงินรวมไปแล้ว 19.17 ล้านบาท คว้าตำแหน่งหนังทำเงินสูงสุดของผู้กำกับพชร์ในปีนี้ไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว (แซง ตุ๊ดตู่กู้ชาติ ที่ 19 ล้านบาทเท่ากัน) และใกล้จะทะลุเข้าสู่ Top 10 หนังไทยทำเงินสูงสุดของปีนี้เต็มแก่ด้วยเช่นกัน (ล่าสุดหยุดอยู่ที่อันดับ 11 ตามหลัง ฮักแพง อีกเพียงล้านเดียว ที่ 20 ล้านบาท) ส่วนในกลุ่มหนังจักรวาลหอแต๋วฯ ด้วยกัน แม้รายได้รวมจะยังคงรั้งท้ายทุกภาค (ภาคก่อนๆ ทำเงินมากกว่า 20 ล้านบาทขึ้นไปกันทั้งหมด) แต่อย่างน้อยๆ ภาคล่าสุดก็ช่วยให้รายได้รวมของทั้ง 6 ภาคในจักรวาลนี้ทำเงินเกิน 200 ล้านบาท (เฉพาะในเขต กทม.) ไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

ส่วนเรื่องอื่นๆ ในตารางที่น่าสนใจประกอบไปด้วยหนังแฟนตาซีฟอร์มยักษ์ Fantastic Beasts: The Crimes of Grindelwald ทำเงินรวมสี่สัปดาห์ไปแล้วถึง 137.09 ล้านบาท เตรียมตัวแซง Venom (137 ล้านบาท) ขึ้นเป็นหนังทำเงินสูงอันดับ 7 ของปีนี้ในอีกวันสองวันเช่นกัน แต่น่าจะหมดโอกาสแซงภาคแรก (150 ล้านบาท) แน่นอนแล้ว
หนังอีสานภาคต่อสุดฮิตอย่าง ไทบ้าน เดอะซีรีย์ 2.2 แม้จะทำเงินทะลุหลัก 30 ล้านบาทไปได้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว แต่ด้วยรายได้สัปดาห์นี้ที่ลดลงมาค่อนข้างแรง (1.88 ล้านบาท) ทำให้โอกาสที่หนังจะไต่อันดับขึ้นไปสูงกว่านี้ในตารางหนังไทยทำเงินสูงสุดปีนี้แทบจะหมดไปแล้วด้วยเช่นกัน (หยุดอยู่ที่อันดับ 8 ตามหลัง ขุนพันธ์ 2 ที่ 44 ล้านบาทค่อนข้างไกลทีเดียว)
ส่วนหนังใหม่อีกสองเรื่องใน Top 10 อย่างหนังเด็กสยอง Malicious เปิดตัวสุดสัปดาห์แรกไป 4.3 แสนบาท (รวม 5 วันเก็บเงินรวมไป 6.1 แสนบาท) และหนังภาคต่อดัดแปลงจากการ์ตูนดังอย่าง Gintama 2 เปิดตัวไป 2.7 แสนบาท (รวม 5 วันเก็บเงินรวมไป 4.1 แสนบาท) รายได้รวมห้าวันยังไม่ถึงครึ่งที่ภาคแรกเคยทำได้ในสุดสัปดาห์แรกเสียอีก (ทำไป 4 วันแรก 9.5 แสนบาท)
Bohemian Rhapsody ยังคงติดอยู่ใน Top 10 เป็นสัปดาห์ที่ 7 ติดต่อกัน (รวมสัปดาห์ที่ฉายรอบพิเศษ) ทำให้หนังขึ้นไปทาบสถิติติดอยู่ใน Top 10 ติดต่อกันยาวนานที่สุดของปีนี้ไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เท่ากัน Black Panther, Avengers: Infinity War และ Jurassic World: Fallen Kingdom เป็นที่เรียบร้อย
Top 10 สุดสัปดาห์นี้ ทำเงินรวมกันไปทั้งสิ้น 42 ล้านบาท
ลดลงจาก Top 10 สุดสัปดาห์ก่อนไป 18% (51 ล้านบาท)
แต่เพิ่มขึ้นจาก Top 10 สุดสัปดาห์เดียวกันในปีก่อนถึง 47% (28 ล้านบาท)
ซึ่งเป็นสุดสัปดาห์ที่แอนิเมชั่นค่ายพิกซ่าร์ อย่าง Coco ครองแชมป์ต่ออีกหนึ่งสมัย ด้วยรายได้ที่แทบไม่ลดลงจากสัปดาห์แรก ที่ 10 ล้านบาท (โดยมีหนังแอ็กชั่น Renegades เปิดตัวเยอะที่สุดในกลุ่มหนังใหม่ ที่ 4 ล้านบาท)