[Thailand Box Office] หนังทำเงินประจำสุดสัปดาห์ที่ 29 พฤศจิกายน – 2 ธันวาคม 2561 : Ralph Breaks the Internet ลุยทุบสถิติ Disney Animation

แอนิเมชั่นภาคต่อสุดฮา+พาให้แฟนๆ ดิสนี่ย์ฟินไปตามๆ กันอย่าง Ralph Breaks the Internet คว้าแชมป์ประจำสุดสัปดาห์นี้ไปครองได้ตามคาด (เพิ่งจะเป็นหนังแอนิเมชั่นเรื่องที่ 4 ของปีนี้ที่สามารถคว้าแชมป์ประจำสุดสัปดาห์ได้ ตามหลัง ๙ ศาสตรา, Incredibles 2 และ The Grinch) ด้วยรายได้เปิดตัวถึง 25.87 ล้านบาท นอกจากจะทะยานขึ้นไปถึงอันดับ 2 หนังแอนิเมชั่นเปิดตัวสูงสุดของปีนี้ได้อย่างไม่ยากเย็นนัก (ตามหลังภาคต่อครอบครัวฮีโร่ Incredibles 2 ที่ 27 ล้านบาทเพียงเรื่องเดียวเท่านั้น) หนังยังใช้เวลาแค่สี่วัน กระโดดเข้า Top 3 แอนิเมชั่นทำเงินสูงสุดปีนี้ได้อีกด้วย! (แซงท่านเคาท์อินเลิฟ Hotel Transylvania 3: Summer Vacation ที่ปิดรายได้เอาไว้ 21 ล้านบาทไปแบบชิลๆ)

แต่ที่เป็นไฮไลท์คงหนีไม่พ้นการที่ลูกพี่ราล์ฟสามารถทุบสถิติเปิดตัวสูงสุดของหนังแอนิเมชั่นจากค่าย Walt Disney Animation ได้เป็นผลสำเร็จ! ไม่ว่าจะนับเฉพาะแอนิเมชั่นจากสตูดิโอดิสนี่ย์แอนิเมชั่นยุคใหม่ตั้งแต่ปี 2007 เป็นต้นมา หรือนับรวมแอนิเมชั่นยุคเก่าตั้งแต่ในอดีตเข้ามาด้วย ก็ยังคงเป็นการโค่นแชมป์เก่าของค่ายอย่างแอนิเมชั่นก๊วนฮีโร่ Big Hero 6 เคยเปิดตัวในบ้านเราเมื่อสี่ปีก่อนไปถึง 23 ล้านบาท (ส่วนแอนิเมชั่นค่ายดิสนี่ย์ยุคอดีตก่อนปี 2007 เรื่องที่เปิดตัวดีที่สุดคือ Tarzan เคยทำเอาไว้ที่ 15 ล้านบาท และเป็นเรื่องเดียวที่แทรก Top 5 ของค่ายขึ้นมาได้ที่อันดับ 5) รวมไปถึงเมื่อเทียบกับแอนิเมชั่นค่ายอื่นๆ เจ้าราล์ฟของเราก็ยังสามารถไต่ขึ้นไปถึง Top 5 แอนิเมชั่นเปิดตัวสูงสุดตลอดกาลในบ้านเราได้อีกด้วย (หยุดอยู่ที่อันดับ 5 พอดิบพอดี ตามหลังที่ 4 อย่างเจ้าหมีจอมยุทธ Kung Fu Panda 2 ที่ 28 ล้านบาท)

แชมป์เก่าสองสมัยอย่าง Fantastic Beasts: The Crimes of Grindelwald โดนเบียดลงมาอยู่อันดับ 2 โดยเก็บเงินสุดสัปดาห์นี้ไปอีก 7.79 ล้านบาท (ลดลงจากสัปดาห์ก่อน 62%) ซึ่งยังถือเป็นรายได้สัปดาห์ที่สามสูงในระดับ Top 10 ของปีนี้อยู่ (อยู่อันดับ 7 ตามหลังภาคต่อสายลับไฮเทค Mission: Impossible – Fallout เพียงไม่กี่แสน ที่ 8 ล้านบาท) ส่วนรายได้รวมสามสัปดาห์ของหนังที่เก็บไปแล้ว 131.59 ล้านบาท แม้จะสามารถไต่แซงอีกหนึ่งหนังฮีโร่มาร์เวลอย่าง Ant-Man and the Wasp (128 ล้านบาท) ขึ้นเป็นหนังทำเงินสูงอันดับ 8 ของปีนี้ได้แบบไม่ยากเย็น แต่ดูเหมือนว่าหนังจะตามหลังภาคแรกห่างออกไปไกลมากขึ้นไปทุกทีจนระยะห่างเกือบๆ จะถึงหลักสิบล้านเข้าไปแล้ว (ภาคแรกเก็บเงินสามสัปดาห์รวมไปแล้ว 139 ล้านบาท)

หนังอีสานภาคต่ออย่าง ไทบ้าน เดอะซีรีย์ 2.2 ยังคงอยู่ที่เดิมในอันดับ 3 ไม่ขยับไปไหน เก็บเงินสุดสัปดาห์นี้ไปอีก 7.48 ล้านบาท (รายได้สัปดาห์ที่สองสูงเป็นอันดับ 6 ของหนังไทยปีนี้) ลดลงจากสัปดาห์ก่อนเพียง 37% เท่านั้น (% ลดลงน้อยเป็น 3 ของปีนี้ในกลุ่มหนังไทยปีนี้ เป็นรอง ไบค์แมน​ ศักรินทร์ตูดหมึก และ ไทบ้าน เดอะซีรีส์ ภาคก่อนเพียงสองเรื่อง) ซึ่งถือแม้จะลดลงน้อยมากสำหรับหนังไทย แต่ภาคนี้ก็ยังเป็นภาคที่ทำเงินตกลงจากสัปดาห์แรกแรงที่สุดในตระกูลไทบ้าน เดอะซีรีส์ไปเสียอย่างนั้น (แถมภาคที่ทำได้ดีที่สุดอย่างภาคแรก ทำเงินเพิ่มขึ้นจากสัปดาห์แรกอีกต่างหาก!) แต่รายได้รวมสองสัปดาห์ของที่ทำไปแล้ว 26.05 ล้านบาท (รวมทั่วประเทศเก็บไปแล้วเฉียดหลักร้อยล้าน!) นอกจากจะแซงภาคก่อน (22 ล้านบาท) ขึ้นเป็นหนังไทยทำเงินสูงอันดับ 8 ของปีนี้ ยังเป็นการคว้าตำแหน่งหนังทำเงินทำเงินสูงสุดของตระกูลไทบ้าน เดอะซีรีส์ได้ภายในเวลาไม่ถึงสองสัปดาห์อีกด้วย! (และน่าจะเป็นหนังไทบ้านทำเงินเกิน 30 ล้านบาทภาคแรกได้อย่างไม่ยากเย็นนัก)

หนังใหม่อีกหนึ่งเรื่องที่ค่อนข้างทำได้ดีเกินคาดพอสมควร อย่างอนิเมะหนังโรงของก๊วนนักเรียนฮีโร่ My Hero Academia The Movie: Two Heroes เปิดตัวสุดสัปดาห์แรกไป 1.63 ล้านบาท (จากโรงฉายไม่ถึง 20 โรงด้วยซ้ำ) ซึ่งถือว่าทำได้ดีมากๆ สำหรับอนิเมะหนังโรงที่มาเข้าฉายในบ้านเราเป็นภาคแรก เบ่งพลังกระโดดขึ้นไปถึง Top 5 หนังอนิเมะจากแดนปลาดิบเปิดตัวสูงสุดในบ้านเราในปีนี้ได้สมใจแฟนๆ (หยุดอยู่อันดับ 5 เป็นรอง Doraemon the Movie ทั้งสองภาค, Detective Conan: Zero the Enforcer และ No Game No Life: Zero ซึ่งแพ้เรื่องหลังไปเพียงไม่กี่หมื่นบาทเท่านั้น!)

หนังไทยเรื่องใหม่แนวโรแมนติกอย่าง Gravity of Love รักแท้…แพ้แรงดึงดูด เปิดตัวสุดสัปดาห์แรกที่ 1.48 ล้านบาท ถือว่าค่อนข้างน้อยไปซักนิดเมื่อเทียบกับชื่อชั้นของสามนักแสดงหลักซึ่งเป็นจุดขายของเรื่อง ทั้งหนุ่มบอย ปกรณ์ (น้อยกว่าหนังเรื่องก่อนหน้าอย่าง จำเนียร วิเวียน โตมร ที่เปิดตัวสุดสัปดาห์แรกไป 7 ล้านบาท) และสาวเต้ย จรินทร์พร (หนังเรื่องก่อนหน้า อย่าง Die Tomorrow ของผู้กำกับเต๋อ นวพล แม้จะเข้าฉายแบบจำกัดโรง แต่ก็ยังเปิดตัวได้มากกว่าอยู่ ที่ 1.5 ล้านบาท) แต่สำหรับหนุ่มหลุยส์ สก็อตต์ อาจจะห่างหายจากหนังจอใหญ่ไปนานซักหน่อย เรื่องก่อนหน้าจึงเป็นหนังฟอร์มเล็กอย่าง รักเลี้ยวเฟี้ยวว!!(อ่ะ) เปิดตัวสุดสัปดาห์แรกไปแบบจุ๋มจิ๋มเพียง 5 หมื่นบาท

ส่วนหนังใหม่อีกสามเรื่องที่เหลือใน Top 10 ประกอบด้วยหนังเรื่องล่าสุดของป๋านิโคลัส เคจ อย่าง 211 เปิดตัวสุดสัปดาห์แรกไป 9.1 แสนบาท แน่นอนว่าเป็นการกลับมาขึ้นจอใหญ่ครั้งแรกในรอบหลายปีของป๋าแกที่ค่อนข้างกร่อยไปซักหน่อย (ตามหลังเรื่องก่อนหน้าอย่าง Snowden อยู่หลายช่วงตัวเลยทีเดียว ที่ 5 ล้านบาท)

หนังญี่ปุ่นดัดแปลงจากนิยายที่มีเจ้าเหมียวเป็นจุดขายอย่าง The Travelling Cat Chronicles เปิดตัวสุดสัปดาห์แรกที่ 7.2 แสนบาท ซึ่งน่าเสียดายที่หนังหลุดตำแหน่ง Top 5 หนังคนแสดงญี่ปุ่นเปิดตัวสุดสัปดาห์แรกสูงสุดไปแบบเฉียดฉิวเท่านั้น (หยุดอยู่อันดับที่ 6 เป็นรอง Sensei! เพียงสองหมื่นบาทเท่านั้น!) แต่ยังคงติด Top 10 หนังญี่ปุ่นเปิดสุดสัปดาห์แรกแรกสูงสุดของปีนี้ได้อยู่ (เกาะอยู่อันดับ 10 พอดิบพอดี)

และหนังเกาหลีชวนหลอน The Wrath เปิดตัวสุดสัปดาห์แรกไป 5.9 แสนบาท พลาด Top 5 หนังเกาหลีเปิดตัวสูงสุดของปีนี้ในบ้านเราเช่นกัน (หยุดอยู่ 6 ตามหลัง Monstrum ที่ 7 แสนบาท)

ส่วนหนังเก่าอย่าง Bohemian Rhapsody ยังคงติด Top 10 (รวมสัปดาห์ฉายรอบพิเศษ) มาอย่างยาวนานถึง 6 สัปดาห์เข้าไปแล้ว ใกล้จะทาบสถิติติด Top 10 ยาวนานสุดในปีนี้เข้าไปทุกที (ที่ 7 สัปดาห์)

Top 10 สุดสัปดาห์นี้ ทำเงินรวมกันไปทั้งสิ้น 51 ล้านบาท

เพิ่มขึ้นจาก Top 10 สุดสัปดาห์ก่อนไปแบบเฉียดฉิวเพียง 2% (50 ล้านบาท)

และเพิ่มขึ้นจาก Top 10 สุดสัปดาห์เดียวกันในปีก่อน 37% (37 ล้านบาท)

ซึ่งเป็นสุดสัปดาห์ที่แอนิเมชั่นขวัญใจของใครหลายๆ คนจากค่ายพิกซ่าร์ อย่าง Coco กระโดดขึ้นมาครองแชมป์ในสัปดาห์ที่เข้าฉายจริงได้สำเร็จ แต่ด้วยรายได้ที่อาจจะไม่ค่อยหวือหวาซักเท่าไหร่นัก ที่ 12 ล้านบาท

Leave a Reply

Fill in your details below or click an icon to log in:

WordPress.com Logo

You are commenting using your WordPress.com account. Log Out /  Change )

Twitter picture

You are commenting using your Twitter account. Log Out /  Change )

Facebook photo

You are commenting using your Facebook account. Log Out /  Change )

Connecting to %s