สุดสัปดาห์วันลอยกระทง แชมป์เก่าฟอร์มยักษ์อย่าง Fantastic Beasts: The Crimes of Grindelwald ยังคงเกาะบัลลังก์เอาไว้ได้อย่างเหนียวแน่นเป็นสมัยที่สอง โดยทำรายได้สุดสัปดาห์ที่สองไปอีก 20.95 ล้านบาทซึ่งถือว่าตกหนักเอาเรื่องอยู่พอสมควร เพราะลดลงจากสัปดาห์ก่อนถึง 72% (เทียบกับหนังที่เปิดตัวในระดับเกิน 70 ล้านเรื่องอื่นๆ ในปีนี้ มีแค่ Venom เพียงเรื่องเดียวเท่านั้นที่ % ทำเงินลดลงจากสัปดาห์แรกสูงกว่า ที่ 73%) แต่อย่างน้อยรายได้สุดสัปดาห์ที่สองของหนังก็ยังสูงในระดับ Top 10 ของปีนี้อยู่ (อันดับที่ 7 ของปีนี้ ตามหลังหนังสายลับภาคต่อ Mission: Impossible – Fallout ที่ 25 ล้านบาท) รวมไปถึงหนังเก็บเงินสองสัปดาห์ทะลุหลักร้อยล้านไปได้ตามคาด ที่ 116.52 ล้านบาท โดยใช้เวลาเพียง 9 วันทำเงินทะลุหลักร้อยล้านได้เป็นเรื่องที่สิบของปีนี้พอดิบพอดี (เร็วเป็นอันดับ 7 ของปีนี้ โดยใช้เวลาเท่ากันกับหนังไทยสุดฮิตอย่าง น้อง.พี่.ที่รัก) รวมไปถึงไต่ขึ้นมาถึง Top 10 หนังทำเงินสูงสุดของปีนี้ได้ก่อนจะทำเงินทะลุร้อยล้านเสียอีก (หยุดอยู่ที่อันดับ 10 ตามหลังอันดับ 9 อย่าง Deadpool 2 ที่ 124 ล้านบาทอยู่ไม่ไกลเท่าไหร่แล้ว)

ส่วนเมื่อเทียบกับหนังโลกเวทมนตร์ในจักรวาล Wizarding World ด้วยกัน แม้สัตว์วิเศษภาคนี้จะทำเงินสัปดาห์ที่สองร่วงลงมาแรงกว่าภาคแรกพอสมควร (ภาคแรกทำเอาไว้ที่ 28 ล้านบาท ลดลงจากสัปดาห์แรก 60%) และรายได้รวมสองสัปดาห์ตามหลังภาคแรกไปเสียแล้ว (120 ล้านบาท) แต่รายได้สองสัปดาห์ของหนังยังคงทำได้มากกว่าหนังจากตระกูล Harry Potter ภาคหลังๆ หลายภาคอยู่ (นับเฉพาะสี่ภาคหลัง สัตว์วิเศษภาคนี้ทำเงินสองสัปดาห์น้อยกว่า Harry Potter ภาค 5 และ 7.2 เพียงสองภาคเท่านั้น)

หนังใหม่ที่ทำได้ดีที่สุดในสัปดาห์นี้คือหนังแอ็กชั่นรัวธนู อย่าง Robin Hood เวอร์ชั่นตีความใหม่ เปิดตัวสุดสัปดาห์แรกไป 13.17 ล้านบาท กลายเป็นหนังโรบินฮู้ดเรื่องแรกที่สามารถเปิดตัวสุดสัปดาห์แรกเกินสิบล้านบาทในบ้านเราได้สำเร็จ (เอาชนะ Robin Hood เวอร์ชั่นปี 2010 ของผู้กำกับริดลีย์ สก็อตต์ และพระเอกรัสเซล โครว์ เคยทำได้แค่เกือบๆ ที่ 9 ล้านบาท) รวมไปถึงใช้เวลาแค่สัปดาห์เดียว ขึ้นแท่นเป็นหนังโรบินฮู้ดทำเงินสูงอันดับ 2 ตลอดกาลในบ้านเราไปแล้ว แซงหน้าเวอร์ชั่นเก๋ากึ๊กส์เมื่อ 27 ปีก่อน อย่าง Robin Hood: Prince of Thieves ของพระเอกเคยฮอต เควิน คอสต์เนอร์ เคยปิดรายได้เอาไว้ที่ 8 ล้านบาท และลุ้นแซงเวอร์ชั่นปี 2010 ที่เคยปิดรายได้เอาไว้มากกว่ายี่สิบล้านได้อยู่

อีกหนึ่งหนังใหม่ที่เป็นไฮไลท์ของสัปดาห์นี้ คือหนังอีสานอินดี้อย่าง ไทบ้าน เดอะซีรีย์ 2.2 ซึ่งท้ายที่สุดแล้วสามารถผ่านกระบวนการเซ็นเซอร์จนได้เข้าฉายตามสุดสัปดาห์เดิมที่กำหนดไว้ แม้จะเข้าช้ากว่าเรื่องอื่นๆ ไปซักหน่อย แต่ท้ายที่สุดหนังก็ใช้เวลาเพียงสองวัน เก็บเงินสุดสัปดาห์แรกไป 11.94 ล้านบาท (ส่วนทั่วประเทศ ทำเงินสองวันไปแล้วมากกว่า 40 ล้านบาท!!) ถือเป็นตัวเลขที่ไม่น้อยเลยทีเดียว ถึงขนาดกลายเป็นหนังไทยเรื่องที่ 4 ของปีนี้ที่ใช้เวลาทำเงินเกินสิบล้านบาทได้ภายในสองวันแรก (ตามหลัง นาคี ๒, น้อง.พี่.ที่รัก และ Homestay) แต่เวลาที่ให้หนังเก็บเงินในรอบสุดสัปดาห์มีน้อยไปซักนิด เลยทำให้หนังหมดลุ้นที่จะติด Top 5 หนังไทยเปิดตัวสุดสัปดาห์แรกสูงสุดของปีนี้ไปอย่างน่าเสียดาย (อยู่อันดับ 8 ตามหลัง The Pool นรก 6 เมตร ไม่มากนักที่ 13.9 ล้านบาท) ถึงอย่างไรไทบ้านภาคนี้ก็ยังขึ้นแท่นหนังจัดจำหน่ายโดยค่ายอิสระเปิดตัวสูงสุดในรอบปีนี้ได้อย่างไม่ยากเย็นนัก (รับไม้ต่อจากภาคก่อน ไทบ้าน เดอะซีรีย์ 2.1 เคยทำเอาไว้เฉียดสิบล้านสุดๆ ที่ 9.9 ล้านบาท) รวมไปถึงใช้เวลาเพียงสองวัน ทำเงินมากกว่ารายได้เปิดตัวของหนังไทบ้านสองภาคก่อนเปิดตัวรวมกันเสียอีก! (11 ล้านนิดๆ) และแซงรายได้ปิดโปรแกรมของภาคแรกใน กทม. ไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว (7 ล้านบาท) ซึ่งมีโอกาสสูงมากทีเดียวที่หนังจะทำเงินแซงภาค 2.1 ขึ้นเป็นหนังไทบ้านทำเงินสูงสุดได้ในเร็ววัน

ยังคงโชว์เซอร์ไพรส์ เรียกแฟนๆ ให้มาเข้าโรงกันอย่างต่อเนื่อง สำหรับหนังชีวประวัติวงควีนอย่าง Bohemian Rhapsody ที่นอกจากจะยังคงยึดอันดับ 4 ไว้แน่น ไม่ยอมขยับไปไหน ถึงสามสัปดาห์ติดแล้ว ยังเป็นหนังเก่าเพียงเรื่องเดียวในตารางที่ทำเงินลดลงจากสัปดาห์ก่อนไม่ถึงครึ่งอีกด้วย โดยเก็บเงินไปอีก 1.59 ล้านบาท (ลดลงจากสัปดาห์ก่อนเพียง 21% เท่านั้น!!) และเก็บเงินห้าสัปดาห์ขยับเข้าใกล้หลักยี่สิบล้านเข้าไปทุกทีแล้ว ที่ 16.94 ล้านบาท

ส่วนหนังใหม่เรื่องอื่นๆ ในตาราง ประกอบด้วย หนังแอ็คชั่นแฟนตาซีภาคต่อจากแดนมังกร อย่าง Ice Man 2 ของพระเอกนักบู๊ ดอนนี่ เยน เปิดตัวสุดสัปดาห์แรกไปเพียง 9.1 แสนบาท ลดลงมาจากภาคแรกเหลือไม่ถึงครึ่งเลยด้วยซ้ำ (เคยเปิดตัวเอาไว้เมื่อ 4 ปีก่อนที่ 2.3 ล้านบาท)

หนังอนิเมะไซไฟ-แฟนตาซีเรื่องใหม่จากแดนปลาดิบอย่าง Penguin Highway เปิดตัวสุดสัปดาห์แรกไป 3.2 แสนบาท ถือว่าทำได้น้อยกว่าอนิเมะหนังโรงแนวคล้ายกันอย่าง Mirai อยู่พอประมาณ (เรื่องหลังเปิดตัวเอาไว้ที่ 4 แสนบาท)

และหนังไทยเรื่องใหม่อีกหนึ่งเรื่องที่มาพร้อมกับแนวแฟนตาซี อย่าง ปาฏิหาริย์แก้วนาคราช เปิดตัวสุดสัปดาห์แรกไปเพียง 1.5 แสนบาท ถือเป็นการกลับมาครั้งแรกในรอบสามปีของหนุ่มนิว ชัยพลที่ไม่ค่อยจะดีเท่าไหร่นัก (เรื่องก่อนหน้าเมื่อสามปีก่อนอย่าง มนต์เลิฟสิบหมื่น เคยเปิดตัวไปถึง 11 ล้านบาทเลยทีเดียว)

Top 10 สุดสัปดาห์นี้ ทำเงินรวมกันไปทั้งสิ้น 50.57 ล้านบาท
ลดลงจาก Top 10 สุดสัปดาห์ก่อน 43% (88.98 ล้านบาท)
แต่เพิ่มขึ้นจาก Top 10 สุดสัปดาห์เดียวกันในปีก่อน 21% (41.787 ล้านบาท)
ซึ่งเป็นสุดสัปดาห์ที่หนังรวมพลฮีโร่ฝั่ง DC อย่าง Justice League ครองแชมป์ต่อได้อีกหนึ่งสมัย ที่รายได้ 17 ล้านบาท (โดยมีหนังนักสืบชื่อดังแอร์กูล ปัวโรต์ อย่าง Murder on the Orient Express เปิดตัวได้เยอะที่สุดในกลุ่มหนังใหม่ ที่ 12 ล้านบาท)