สุดสัปดาห์นี้ ได้เวลาอีกหนึ่งหนังภาคต่อฟอร์มเต็งอย่าง Fantastic Beasts: The Crimes of Grindelwald ร่ายมนต์เรียกคนดู จนคว้าแชมป์ไปตามคาด ด้วยรายได้เปิดตัวสุดสัปดาห์แรกสูงถึง 75.78 ล้านบาท (รวมทั่วประเทศเก็บเงินสุดสัปดาห์แรกไปแล้วถึง 130 ล้านบาท!) กระโดดเข้าสู่ Top 5 หนังทำเงินเปิดตัวสุดสัปดาห์แรกสูงสุดของปีนี้ได้สำเร็จ (มาอยู่อันดับ 4 ตามหลัง Black Panther ที่ 77 ล้านบาทแค่ไม่กี่ล้านเท่านั้น)

ส่วนเมื่อเทียบกับหนังในจักรวาล Wizarding World ด้วยกัน นอกจากจะเปิดตัวแซงภาคแรกอย่าง Fantastic Beasts and Where to Find Them ไปได้ (70 ล้านบาท) แม้จะได้ไม่ไกลอย่างที่หวังเอาไว้เท่าไหร่นัก แต่อย่างน้อยหนังก็ยังกระโจนเบียดหนังพ่อมดน้อย Harry Potter ได้เกือบทุกภาค ขึ้นไปถึง Top 3 รายได้เปิดตัวสูงสุดตลอดกาลของจักรวาลพ่อมดเลยทีเดียว! (อยู่อันดับ 3 ตามหลัง Harry Potter ภาค The Deathly Hallows: Part 2 และ The Goblet of Fire ที่ 99 และ 82 ล้านบาทตามลำดับ) เช่นเดียวกับในเครดิตของทีมนักแสดงของเรื่องที่หลายๆ คนได้หนังเปิดตัวสูงสุดในเครดิตของตัวเองจากการที่ภาคสองทำเงินเปิดตัวแซงภาคหนึ่งไปได้ ซึ่งก็รวมไปถึงจอห์นนี่ เดปป์ ในบทพ่อมดกรินเดลวัลด์ ที่แซงทั้งภาคแรกที่ป๋าเดปป์ได้ปรากฏตัวแว้บๆ และ แซงหนังตระกูลแจ้งเกิดของป๋าแกที่ได้ออกฉากเยอะหน่อยอย่าง Pirates of the Caribbean โดยแซงภาคที่ทำเอาไว้สูงสุดอย่าง Salazar’s Revenge ไปค่อนข้างห่างทีเดียว (60 ล้านบาท) ส่วนผู้กำกับเดวิด เยทส์ ที่รับหน้าที่กุมบังเหียนหนังตระกูลนี้ยางมาตั้งแต่หนังพ่อมดน้อย Harry Potter ภาคห้าจนถึงเรื่องนี้แบบไม่มีขาดตอน ก็ยังคงรอหนังเปิดตัวสูงสุดในเครดิตของตัวเองต่อไป หลังจากที่หนังสัตว์วิเศษภาคสอง ยังไม่สามารถแซงพ่อมดหนุ่มแฮร์รี่ภาค The Deathly Hallows: Part 2 ไปได้ (ซึ่งถ้าจะแซงได้ ต้องลุ้นให้สัตว์วิเศษภาคหน้าหรือภาคต่อๆ ไปเปิดตัวทะลุหลักร้อยล้านแล้วล่ะ)

อีกหนึ่งหนังใหม่ที่มาแรงไม่แพ้กันนั่นก็คือสารคดีของวงบอยแบนด์เกาหลีสุดฮอต วง BTS อย่าง Burn The Stage: The Movie ซึ่งได้อานิสงค์รายได้เปิดตัววันแรกที่กระหึ่มเกินคาดจนถึงขั้นเก็บสถิติของปีนี้ไปหลายสถิติแม้จะเข้าฉายเพียงโรงละรอบแบบจำกัดโรง ช่วยให้เก็บรายได้รวมสุดสัปดาห์สามวันไปถึง 4.83 ล้านบาท โดยที่รายได้วันแรกสูงเกินครึ่งหนึ่งของรายได้ทั้งสามวันรวมกันเสียอีก (เกือบ 60%) ถือเป็นกรณีคล้ายๆ กับหนังสารคดีวงไอด้อลชื่อดังในไทยอย่าง BNK48: Girls Don’t Cry ที่รายได้วันแรกเยอะกว่ารายได้วันอื่นๆ แบบเห็นได้ชัด จากการที่แฟนๆ รีบตีตั๋วกันเข้ามาดูวันแรก (รายได้เปิดตัววันแรกที่ 3.8 ล้านบาทมากกว่า 1 ใน 3 ของรายได้ทั้งสี่วันสุดสัปดาห์รวมกันที่ 10 ล้านบาท) ทำให้หนังพลาดที่จะคว้าสถิติต่างๆ ของปีนี้ในรอบสุดสัปดาห์ไปอย่างน่าเสียดาย ทั้งสถิติหนังเอเชียเปิดตัวสูงสุดประจำปีนี้ที่อย่างน้อยๆ หนังก็ยังเกาะอยู่ใน Top 5 ของปีได้อยู่ (อยู่อันดันที่ 4) ซึ่งเป็นการตามหลังอีกหนึ่งหนังเกาหลีภาคต่อฟอร์มยักษ์ของปีนี้อย่าง Along with the Gods: The Last 49 Days (ห่างกันอยู่ไม่กี่แสน ที่ 5.1 ล้านบาท) เลยทำให้หนังพลาดโอกาสคว้าตำแหน่งหนังเกาหลีเปิดตัวสูงสุดของปีนี้ในบ้านเราไปอีกหนึ่งตำแหน่ง (ได้อันดับ 2 ไป) ส่วนในกลุ่มหนังสารคดี อย่างน้อยๆ หนังก็ยังคว้าสถิติติดตัวมาได้บ้าง ไล่ตั้งแต่ในรอบปีนี้ที่หนังขึ้นแท่นเป็นสารคดีต่างประเทศเปิดตัวสูงสุดของปีนี้ในบ้านเรา (แซง Earth: One Amazing Day ที่ 5 แสนบาทไปแบบขาดลอย) และเป็นหนังสารคดีเปิดตัวสูงเป็นอันดับ 2 ของปีนี้ เป็นรอง BNK48: Girls Don’t Cry เพียงเรื่องเดียวเท่านั้น (แต่ถ้าวัดในกลุ่มรายได้รวมปิดของหนังสารคดีปีนี้ หนังยังตามหลังสองสารคดีของไทยอย่าง BNK48: Girls Don’t Cry และ 2,215 เชื่อ บ้า กล้า ก้าว อยู่) หรือเมื่อเทียบสถิติในระดับตลอดกาล นอกจากหนังจะคว้าตำแหน่งสารคดีเกาหลีเปิดตัวสูงสุดในบ้านเราได้สำเร็จ (เอาชนะสารคดีของวงบอยแบนด์รุ่นพี่อย่าง BIGBANG10 the Movie: BIGBANG MADE เคยเปิดตัวในบ้านเราไว้ไม่น้อยเช่นกันที่ 2.6 ล้านบาท) ยังไต่ขึ้นไปถึง Top 5 หนังสารคดีเปิดตัวสูงสุดตลอดกาลในบ้านเราได้อีกด้วย! (มาหยุดอยู่ที่อันดับ 4 ตามหลังหนังสารคดีต่างประเทศของราชาเพลงป๊อป Michael Jackson’s This Is It ไปไม่มาก ที่ 5 ล้านบาท) ส่วนอีกหนึ่งอย่างที่หนังสามารถขึ้นไปท้าทายบรรดาหนังฟอร์มยักษ์ของปีนี้ได้นั่นก็รายได้เฉลี่ยต่อโรงสุดสัปดาห์แรกที่หนังทำไปเกือบ 2.7 หมื่นบาทต่อโรง จนสามารถทะลุเข้าไปถึง Top 5 หนังทำเงินเฉลี่ยต่อโรงสุดสัปดาห์แรกสูงสุดของปีนี้ได้ (หยุดอยู่ที่อันดับ 5 พอดี ตามหลัง Love Simon, Avengers: Infinity War, Jurassic World: Fallen Kingdom และ The Shape of Water ซึ่งทำได้น้อยกว่าเรื่องหลังสุดแค่ไม่กี่พันบาทต่อโรงเท่านั้น)

ส่วนหนังเรื่องอื่นๆ ในสัปดาห์นี้แม้ส่วนใหญ่จะได้รับผลกระทบกันไปไม่น้อยจากการมาของหนังฟอร์มยักษ์ที่แย่งทั้งโรงและคนดูไปไม่น้อย แต่ก็ยังมีอีกกลุ่มหนึ่งที่สามารถยืนต้านทานอานุภาพของโลกเวทย์มนต์ได้อย่างเกินคาด จนทำให้รอดพ้นจากการทำเงิน “ร่วงแรง” ไปแบบหวุดหวิด กลุ่มที่ว่าประกอบไปด้วยหนังแอนิเมชั่นสุดป่วนอย่าง The Grinch ที่เก็บเงินสัปดาห์นี้ไปอีก 2.58 ล้านบาท ลดลงเกินครึ่งไปไม่มาก (55%) ส่วนรายได้รวมใกล้จะถึงสิบล้านบาทเข้าไปทุกที (9.83 ล้านบาท ซึ่ง ณ ตอนนี้ หนังอยู่อันดับที่ 6 แอนิเมชั่นทำเงินสูงสุดของปีนี้) และมีลุ้นที่จะแซง The Lorax (10 ล้านบาท) ขึ้นเป็นหนังดัดแปลงจากวรรณกรรมของ Dr.Seuss ทำเงินสูงเป็นอันดับ 2 ในบ้านเราในไม่ช้า

อีกเรื่องก็คือหนังฮิตฝั่งอเมริกาอย่าง Bohemian Rhapsody เก็บเงินในบ้านเราสัปดาห์นี้ไปอีก 2.03 ล้านบาท กลายเป็นหนังเรื่องเดียวใน Top 10 สัปดาห์นี้ที่ทำเงินลดลงจากสัปดาก์ก่อนไม่ถึงครึ่ง (แต่ก็เฉียดฉิวมากทีเดียว ที่ 49%) และใช้เวลาสี่สัปดาห์(รวมรอบพิเศษ)ทำเงินทะลุ 15 ล้านบาทไปแล้ว

ส่วนกลุ่มหนังหัวตารางเมื่อสุดสัปดาห์ก่อนต่างจับมือกันทำเงินรูดระนาวกันถ้วนหน้า ทั้งหนังแอ็กชั่นมันส์ระห่ำ Overlord เก็บเงินสุดสัปดาห์ที่สองไปอีก 1.47 ล้านบาท (ลดลงจากสัปดาห์ก่อนถึง 74%!) และเก็บเงินสองสัปดาห์เข้าใกล้สิบล้านบาทเช่นเดียวกับเจ้าตัวเขียว The Grinch (9.45 ล้านบาท) แต่ยังตามหลังอีกหนึ่งหนังที่เจ.เจ.อับรามส์ นั่งแท่นโปรดิวเซอร์ให้แต่ไม่ได้กำกับ อย่าง 10 Cloverfield Lane (14 ล้านบาท) อยู่อีกพอสมควร

เช่นเดียวกับหนังภาคต่อของสาวลายสักมังกรฉบับฮอลลิวู้ดอย่าง The Girl in the Spider’s Web ที่เก็บเงินสัปดาห์นี้ไปอีก 7.4 แสนบาท (ลดลงจากสัปดาห์ก่อนถึง 81%!!) ส่วนรายได้รวมสองสัปดาห์ที่เก็บไป 6.42 ล้านบาท ก็ชักไม่แน่แล้วสิว่าจะแซงภาคก่อนอย่าง The Girl with the Dragon Tattoo (7 ล้านบาท) ไหวหรือไม่

ส่วนสองหนังไทยที่ยังเหลืออยู่ใน Top 10 สัปดาห์นี้อย่าง HOMESTAY และ ผีโทรศัพท์ อย่างที่เคยบอกไปว่าอาการหนักไม่แพ้กัน เรื่องแรกเก็บเงินสุดสัปดาห์นี้ไปอีก 3.4 แสนบาท (ลดลงจากสัปดาห์ก่อนเกือบ 90%!!!) ส่วนรายได้รวมสี่สัปดาห์ที่เก็บไป 66.58 ล้านบาท ก็ไม่รู้ว่าหนังจะเหลือแรกอีกซักเฮือกให้แซง ไบค์แมน​ ศักรินทร์ตูดหมึก ขึ้นไปเป็นหนังไทยทำเงินสูงอันดับ 3 ของปีนี้ได้อยู่มั้ย เพราะได้ยินมาว่าหนังจะฉายสัปดาห์นี้เป็นสัปดาห์สุดท้ายแล้ว

ส่วนเรื่องหลังเก็บเงินสัปดาห์นี้ไปอีก 2.3 แสนบาท (ลดลงจากสัปดาห์ก่อนถึง 83%!!) และเก็บเงินสองสัปดาห์ไปแบบเงียบเหงาเพียง 2.16 ล้านบาท แต่ก็ยังรั้งตำแหน่งอันดับ 2 หนังผีไทยทำเงินสูงสุดของปีนี้ได้อยู่ดี (เพิ่งจะมีหนังผีไทยทำเงินเกินหลักล้านเพียงแค่สองเรื่องในปีนี้ อีกเรื่องคือ ตีสาม After Shock ที่ยึดตำแหน่งแชมป์กลุ่มนี้ไว้ด้วยรายได้รวม 5 ล้านบาท)

Top 10 สุดสัปดาห์นี้ ทำเงินรวมกันไปถึง 88 ล้านบาท (Fantastic Beasts และ Burn The Stage สองเรื่องรวมกันก็ทำเงินเกิน 90% ของทั้ง Top10 เข้าไปแล้ว!)
เพิ่มขึ้นจาก Top 10  สุดสัปดาห์ก่อนถึง 173%  (32 ล้านบาท)
และเพิ่มขึ้นจาก Top 10  สุดสัปดาห์เดียวกันในปีก่อน 20% (74 ล้านบาท)
ซึ่งเป็นสุดสัปดาห์ที่หนังรวมพลฮีโร่ฝั่ง DC อย่าง Justice League ขึ้นแท่นอันดับหนึ่งตามคาด แต่ด้วยรายได้ที่อาจจะไม่กระหึ่มอย่างที่คาด ที่ 64 ล้านบาท