อันดับหนังทำเงินในบ้านเราเมื่อวันพุธที่ผ่านมา นอกเหนือจากหนังแอ็กชั่นสุดระห่ำอย่าง Overlord ที่คว้าอันดับหนึ่งไปครองด้วยรายได้เฉียดล้านบาท อีกหนึ่งไฮไลท์ที่สำคัญคือการมาของหนังสารคดีที่รวบรวมเรื่องราวตลอด 20 ปีของวง Coldplay อย่าง Coldplay: A Head Full of Dreams ที่เข้าฉายพร้อมกันทั่วโลกในวันพุธที่ 14 พฤศจิกายน เพียงวันเดียวเท่านั้น ซึ่งหนังก็ได้รับการต้อนรับจากแฟนๆ ของวง Coldplay แบบเนืองแน่น จนช่วยให้หนังเก็บเงินจากสิบกว่าโรงในกรุงเทพฯ, ปริมณฑลไปถึง 7 แสนบาทเลยทีเดียว (และเก็บเงินจากเกือบยี่สิบโรงทั่วประเทศไปถึง 1 ล้านบาท!) ถือเป็นตัวเลขที่สูงมากสำหรับหนังที่เข้าฉายจำกัดโรงเช่นนี้ โดยเฉพาะรายได้เฉลี่ยต่อโรงของหนังเพียงวันเดียวที่สูงถึงเกือบหกหมื่นบาท เรียกได้ว่าระดับน้องๆ หนังบล็อกบัสเตอร์หลายเรื่องในปีนี้เลยทีเดียว (ตามหลังรายได้เฉลี่ยต่อโรงวันแรกของหนังอย่าง Black Panther ไปไม่ถึงหนึ่งหมื่นบาทต่อโรง และทำได้แทบจะใกล้เคียงกับที่ Jurassic World: Fallen Kingdom ทำได้ ที่หกหมื่นบาทนิดๆ) ทำให้นอกจากหนังจะทำเงินเฉลี่ยต่อโรงวันแรกสูงสุดในกลุ่มหนังสารคดีของปีนี้แล้ว (สถิติเดิมเป็นของหนังสารคดีไทยอย่าง BNK48: Girls Don’t Cry ที่พลังของสาวๆ BNK ดึงดูดแฟนๆ ให้ตีตั๋วเข้าโรงไปถึงเกือบสามหมื่นห้าพันบาทต่อโรง) หนังยังทำเงินวันแรกสูงเป็นอันดับ 3 ในกลุ่มหนังสารคดีปีนี้ (เป็นรองสองสารคดีไทยอย่าง BNK48: Girls Don’t Cry และ 2,215 เชื่อ บ้า กล้า ก้าว เพียงสองเรื่องเท่านั้น) หรือหากนำไปเทียบกับรายได้สี่วันสุดสัปดาห์ของหนังสารคดีเรื่องอื่นๆ ก็ยังสูงถึงขนาดเป็นหนังสารคดีต่างประเทศเปิดตัวสุดสัปดาห์แรกสูงสุดของปีนี้ได้เลย (เอาชนะ Earth: One Amazing Day ไปพอสมควร ที่ 5 แสนบาท) และเทียบเท่าอันดับ 3 รายได้สุดสัปดาห์แรกของหนังสารคดีสูงสุดปีนี้ (เป็นรอง BNK48: Girls Don’t Cry และ 2,215 เชื่อ บ้า กล้า ก้าว เจ้าเก่า) รวมไปถึงใช้เวลาเพียงวันเดียว ไต่ขึ้นไปถึง Top 5 หนังสารคดีทำเงินสูงสุดของปีนี้อีกด้วย

ส่วนในกลุ่มหนังสารคดีจากค่าย Documentary Club ด้วยกัน นอกจากหนังจะขึ้นแท่นเป็นหนังสารคดีทำเงินรวมสูงสุดของค่ายในปีนี้ไปแบบไม่ยากเย็น (แซงรายได้ทั้งโปรแกรมของ Ryuichi Sakamoto: Coda ที่ 6 แสนบาท) หนังยังเก็บสองสถิติตลอดกาลของค่ายได้แบบสบายๆ อีกด้วย สถิติแรกคือหนังเปิดตัววันแรกสูงสุดของค่าย ควบตำแหน่งหนังเปิดตัววันแรกเกินครึ่งล้านบาทเป็นเรื่องแรกของค่าย (ทิ้งห่างสถิติเดิมของ We Are X ที่ 1.7 ล้านบาทไปแบบขาดลอย) อีกสถิติหนึ่งคือนำไปเทียบกับรายได้สุดสัปดาห์แรกของหนังในค่าย หนังก็สามารถขึ้นแท่นแชมป์ได้อย่างง่ายดายอีกเช่นกัน (แซง We Are X เจ้าเก่า ที่ 5.9 ล้านบาท) ซึ่งก็น่าเสียดาย หากหนังเข้าฉายนานกว่านี้ เราอาจจะได้เห็นสถิติมากมายกว่านี้ก็เป็นได้

– ขอบคุณรายได้ทั่วประเทศของหนังจากทาง Documentary Club –