สุดสัปดาห์นี้ตำแหน่งแชมป์มีพลิกโผเล็กน้อย เมื่อหนังแอนิเมชั่นจากค่าย Illumination อย่าง The Grinch ที่แม้วันแรกจะหยุดอยู่ที่อันดับสี่ด้วยรายได้เปิดตัวไม่ถึงหลักล้าน แต่ท้ายที่สุดหนังก็มาแซงเรื่องอื่นๆ เอาในช่วงโค้งสุดท้ายวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ คว้าแชมป์ประจำสุดสัปดาห์มานอนกอดแบบสบายใจ ที่รายได้เปิดตัว 5.8 ล้านบาท ซึ่งเจ้าตัวเขียวของเราเพิ่งจะเป็นหนังแอนิเมชั่นเรื่องที่สามในปีนี้เท่านั้นที่คว้าอันดับหนึ่งประจำสุดสัปดาห์ได้ (ตามหลัง ๙ ศาสตรา และ Incredibles 2) รวมไปถึงรายได้เปิดตัวของหนังในฐานะแชมป์ที่แม้จะไม่ใช่ตัวเลขที่หวือหวาอะไร แต่หนังกลับทำถึงสองสถิติในรอบปีนี้ที่คงไม่ใครอยากได้ซักเท่าไหร่ สถิติแรกคือหนังใหม่ที่ขึ้นแท่นแชมป์ทำเงินสูงสุดประจำสัปดาห์ด้วยรายได้เปิดตัวสัปดาห์แรกที่น้อยที่สุดในรอบปีนี้ (เป็นเรื่องแรกของกลุ่มนี้ที่เปิดตัวไม่ถึงหลักสิบล้านบาท โดยเจ้าของสถิติเรื่องก่อนหน้าเป็นของหนังแอ็กชั่นภาคต่อ The Equalizer 2 เคยขึ้นเป็นแชมป์ในสัปดาห์แรกด้วยรายได้ 11 ล้านบาท) และอีกสถิติคือหนังที่ขึ้นแท่นแชมป์ทำเงินสูงสุดประจำสัปดาห์ด้วยรายได้ที่น้อยที่สุดในรอบปีนี้ (สถิติเก่าเป็นของภาคต่อฮีโร่สุดกวนอย่าง Deadpool 2 ที่นั่งแท่นแชมป์สัปดาห์ที่สามด้วยรายได้เพียง 6.7 ล้านบาท) ซึ่งถึงแม้ว่ารายได้เปิดตัวของหนังในฐานะแชมป์ประจำสัปดาห์จะน้อยไปซักหน่อย แต่ในกลุ่มหนังแอนิเมชั่นปีนี้ด้วยกัน เจ้าตัวเขียวจอมป่วนของเราก็ยังถือว่าทำได้ตามมาตรฐานของหนังกลุ่มนี้ และยังติด Top 5 หนังแอนิเมชั่นเปิดตัวสูงสุดประจำปีนี้ได้อยู่ (อยู่อันดับที่ 5 ตามหลังเจ้าหุ่นยนต์แมวสีฟ้า Doraemon the Movie ภาคล่าสุดอย่าง Nobita’s Treasure Island อยู่นิดหน่อย ที่ 6.2 ล้านบาท) รวมไปถึงเมื่อนำมาเทียบกับรายได้เปิดตัวของแอนิเมชั่นจากค่าย Illumination ด้วยกัน หนังก็ยังถือว่าอยู่ในระดับกลางๆ ของค่ายอยู่ แม้จะค่อนไปทางล่างๆ ซักหน่อย (อยู่อันดับ 6 จากทั้งหมด 9 เรื่อง พ่ายอันดับ 5 อย่าง Sing ไปแค่แบบเฉียดฉิว ที่ 6 ล้านบาท) ซึ่งก็ต้องยอมรับว่าหนังจากวรรณกรรมของ Dr. Seuss ที่ได้เข้าฉายในบ้านเรา (ทั้งหมดสี่เรื่อง) ถือว่าได้รับความนิยมจากคนในบ้านเราค่อนข้างน้อยมาก (เทียบกับฝั่งอเมริกาที่โกยเงินในระดับฮิตแทบทุกเรื่อง) เพราะจากสถิติก่อนหน้ายังไม่มีเรื่องไหนเปิดตัวในบ้านเราเกินหลักสิบล้านด้วยซ้ำ จึงไม่น่าแปลกใจที่แอนิเมชั่นเจ้าตัวเขียวจะเปิดตัวขึ้นไปถึงอันดับสองของกลุ่มได้เลย เป็นรอง The Grinch เวอร์ชั่นคนแสดงเมื่อ 18 ปีก่อนอย่าง How the Grinch Stole Christmas ที่ได้ป๋าจิม แคร์รี่สมัยยังฮอตมาแปลงโฉมเป็นเจ้าตัวเขียวเพียงเรื่องเดียวเท่านั้น

แชมป์ตอนวันเปิดตัวอย่างหนังแอ็กชั่นบู๊ระห่ำ Overlord ลงมาอยู่อันดับสองด้วยรายได้สุดสัปดาห์แรกที่ก็ไม่หนีจากเจ้าตัวเขียวซักเท่าไหร่ ที่ 5.67 ล้านบาท ถือว่าพอใช้ได้อยู่สำหรับหนังแนวนี้และฟอร์มหนังที่อยู่ในระดับกลางๆ ซึ่งเมื่อเทียบกับหนังเรื่องก่อนหน้าที่ไม่ใช่หนังฟอร์มโตแล้วได้ เจ.เจ. แอบรัมส์ มานั่งแท่นโปรดิวเซอร์ แต่ไม่ได้กำกับเองอย่าง 10 Cloverfield Lane ก็เปิดตัวเอาไว้ไม่ไกลกันเท่าไหร่นัก ที่ 7.8 ล้านบาท หรือในกลุ่มหนังแอ็กชั่น-สยองเลือดสาดในปีนี้ เรื่องที่ใกล้เคียงสุดเห็นจะเป็นภาคเริ่มต้นของคืนพิพากษา อย่าง The First Purge เปิดตัวเอาไว้ที่ 8 ล้านบาท หรือถ้าจะนำไมเทียบกับหนังซอมบี้ซักหน่อย ที่เพิ่งเปิดตัวไปเมื่อสัปดาห์ก่อนอย่าง Rampant ก็ทำเงินในสัปดาห์แรกไป 2.7 ล้านบาทเท่านั้น
อีกหนึ่งหนังใหม่อย่างภาคต่อสาวลายสักมังกร The Girl in the Spider’s Web เปิดตัวในอันดับสามที่รายได้ 4.06 ล้านบาท แม้กระแสจะซาลงไปค่อนข้างมาก แต่ก็ยังถือว่าทำได้ค่อนข้างโอเคตรงที่เปิดตัวได้มากกว่าภาคแรกอย่าง The Girl with the Dragon Tattoo ที่ทิ้งห่างกันร่วม 7 ปีได้อยู่ (เปิดตัวสุดสัปดาห์แรกไป 2.8 ล้านบาท) แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังตามหลังผลงานเรื่องของผู้กำกับ เฟด อัลวาเรซ อย่าง Don’t Breathe ที่ยังคงครองตำแหน่งหนังเปิดตัวสูงสุดในบ้านเราของผู้กำกับท่านนี้เกินหนึ่งช่วงตัวเลยทีเดียว (ลุงขาโหดเปิดตัวในบ้านเราไป 10 ล้านบาท) รวมไปถึงนางเอกสาวลายสักมังกรคนใหม่อย่าง แคลร์ ฟอย ที่เพิ่งจะมีหนังโชว์ฝีมือลุ้นเข้าชิงรางวัลเข้าฉายก่อนหน้าไปไม่นาน อย่าง First Man ก็เปิดตัวได้มากกว่าเช่นกัน (แม้จะไม่ถึงกับทิ้งห่างมากนัก ที่ 4.9 ล้านบาท)
หนึ่งในเซอร์ไพรส์ประจำสัปดาห์นี้คงหนีไม่พ้นหนังเก่าอย่าง Bohemian Rhapsody ที่ดูเหมือนจะได้กระแสชื่นชมช่วยเรียกคนดูให้เข้ามาอุดหนุนกันไม่น้อย ทำให้สุดสัปดาห์นี้หนังเก็บรายรับไปอีก 4.01 ล้านบาท ซึ่งเพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ก่อน 3%! นอกจากจะเป็นหนังทำเงินสุดสัปดาห์ที่สองลดลงจากสุดสัปดาห์แรกเป็น % น้อยที่สุดของปีนี้ในกลุ่มหนังที่เข้าฉายด้วยจำนวนโรงมากกว่า 50 โรงขึ้นไป (สถิติเดิมเป็นของหนังฮิตเซอร์ไพรส์ในอเมริกา อย่าง Crazy Rich Asians เคยทำเงินลดลงจากสัปดาห์แรกไปเพียง 18% เท่านั้น) แต่ถ้านับหนังทุกเรื่องในปีนี้ทั้งวงแคบและวงกว้าง หนังถือเป็นเรื่องที่ 5 ของปีนี้ที่ทำเงินเพิ่มขึ้นจากสัปดาห์แรก และอยู่ในอันดับที่ 5 หนังทำเงินสุดสัปดาห์ที่สองลดลงจากสุดสัปดาห์แรกเป็น % น้อยที่สุดของปีนี้ด้วยเช่นกัน ส่วนรายได้รวมของหนังที่เก็บไปแล้ว 11.27 ล้านบาท ทำให้หนังชีวประวัติวงร็อคในตำนานอย่างวง Queen เรื่องนี้ กลายเป็นหนังดัดแปลงจากชีวิตของคนดนตรีต่างประเทศเรื่องแรก ที่ทำเงินในบ้านเราเกินหลักสิบล้านได้สำเร็จ! แม้จะยังตามหลัง พุ่มพวง ซึ่งเป็นหนังดัดแปลงจากชีวิตนักร้อง(รวมทุกสัญชาติ)ทำเงินสูงสุดในบ้านเราอย่างที่เคยพูดถึงไปอยู่ไกลสุดกู่ก็ตาม (ปิดยอดเอาไว้ที่ 44 ล้านบาท)
ส่วนเรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจในตาราง มีทั้งรองแชมป์สัปดาห์ก่อนอย่าง The Nutcracker and the Four Realms เก็บเงินสุดสัปดาห์ที่สองไปอีก 3.49 ล้านบาท ลดลงจากสัปดาห์ก่อน 60% โอกาสลุ้นหลักยี่สิบล้านคงยากเต็มที ในเมื่อหนังน่าจะได้รับผลกระทบเต็มๆ จากการมาของอีกหนึ่งหนังแฟนตาซีฟอร์มยักษ์ที่เตรียมจะเข้ามาแย่งทั้งโรงและคนดูในสัปดาห์หน้านี้แล้ว
แชมป์เก่าสองสมัยอย่าง HOMESTAY หลุดมาไกลถึงอันดับหกเก็บเงินสุดสุปดาห์นี้ไปอีก 3.29 ล้านบาท ลดลงจากสัปดาห์ก่อนเกือบ 70%! ส่วนรายได้รวมสามสัปดาห์ที่ทำไปแล้ว 65.7 ล้านบาท เรียกได้ว่าจ่อหลังหนังไทยทำเงินสูงอันดับ 3 ของปีนี้อย่าง ไบค์แมน ศักรินทร์ตูดหมึก แค่ล้านเดียวแล้ว! รวมไปถึงหลัก 70 ล้านที่ทั้งแฟนๆ และทีมงานลุ้นกันเอาไว้ก็ยังพอมีความหวังที่จะไปถึงได้อยู่ แฟนๆ ของแคปเฌอที่อยากเห็นฉากสระผมนอกจอก็คงต้องรีบตีตั๋วเข้าโรงอีกหลายรอบกันหน่อยแล้วล่ะ
ส่วนหนังไทยแห่งปีอย่าง นาคี ๒ เก็บเงินไปอีก 2.06 ล้านบาท แม้จะลดลงจากสัปดาห์ก่อนถึง 73% แต่อย่างน้อยๆ ก็ทำเงินทะลุหลัก 160 ล้านบาทได้เสียที! แม้ความหวังที่จะทำเงินแซง หลวงพี่แจ๊ส 4G เพื่อขึ้นเป็นหนังไทยทำเงินสูงสุดในรอบ 4 ปีที่ผ่านมา รวมไปถึงขึ้นเป็นหนังไทยทำเงินสูงเป็นอันดับ 8 ตลอดกาลจะเริ่มเลือนลางลงไปทุกทีก็ตาม
ขณะที่หนังไทยอีกหนึ่งเรื่องที่เข้าใหม่ในสัปดาห์นี้ อย่าง ผีโทรศัพท์ แม้จะเข้ามาในอันดับที่ 9 ด้วยรายได้เปิดตัวที่ค่อนข้างเงียบเหงาพอสมควร ที่ 1.41 ล้านบาท แต่ก็ยังเป็นรายได้เปิดตัวสุดสัปดาห์แรกสูงเป็นอันดับ 2 ในกลุ่มหนังผีไทยปีนี้อยู่ดี (เป็นรอง ตีสาม After Shock เพียงเรื่องเดียว ที่ 2.7 ล้านบาท) แต่ถึงอย่างไรก็ยังทำได้น้อยกว่าหนังเรื่องก่อนหน้าของนางเอกสาวพลอย ศรนรินทร์ อย่าง 15+ ไอคิวกระฉูด เมื่อปีก่อนอยู่ดี (เปิดตัวไป 2 ล้านบาท) เช่นเดียวกับหนุ่มเบส ณัฐสิทธิ์ ที่ปีนี้ก็เพิ่งจะมี HOMESTAY เป็นหนังทำสถิติกวาดรายได้เปิดตัวและรายได้รวมสูงสุดให้กับเจ้าตัวไปไม่นานนี้เอง
Top 10 สุดสัปดาห์นี้ เป็นอีกหนึ่งสัปดาห์ที่ไม่มีหนังเรื่องไหนทำเงินเกินสิบล้านขึ้นมาได้ จึงไม่น่าแปลกใจที่ทั้งสิบเรื่องจะเก็บเงินรวมกันไปเพียง 32.57 ล้านบาท (ยังดีที่ไม่ใช่สุดสัปดาห์ที่ทั้ง Top 10 ทำเงินรวมกันน้อยที่สุดในรอบปีนี้)
ลดลงจาก Top 10 สุดสัปดาห์ก่อน 31% (47.38 ล้านบาท)
และลดลงจาก Top 10 สุดสัปดาห์เดียวกันในปีก่อน 23% (42.29 ล้านบาท)
ซึ่งเป็นสุดสัปดาห์ที่เทะเจ้าสายฟ้าภาคสาม Thor: Ragnarok ยังคงครองแชมป์อีกหนึ่งสมัย ด้วยรายได้ที่ลดลงไปพอสมควรจากสัปดาห์แรก ที่ 34 ล้านบาท (โดยมีหนังภาคต่ออย่าง Beyond Skyline เปิดตัวได้ดีที่สุดในกลุ่มหนังใหม่ ที่ 4.5 ล้านบาท)