สุดสัปดาห์นี้อาจจะดูกร่อยๆ ลงไปซักหน่อย แม้จะยังคงมีหนังเข้าฉายมากมายหลากหลายแนวเช่นเคย แต่ก็มีเพียงสองเรื่องเท่านั้นที่ทำเงินเกิน 1 ล้านในวันพฤหัสที่ผ่านมา ซึ่งผู้ที่คว้าแชมป์ไปกลายเป็นหนังแอ็กชั่นระห่ำยุคสงครามโลก อย่าง Overlord ที่ได้ เจ.เจ. แอบรัมส์ มานั่งแท่นโปรดิวเซอร์ เปิดตัววันแรกไปเบาๆ ที่ 1.3 ล้านบาท ถือว่าพอใช้ได้สำหรับหน้าหนังเองที่ฟอร์มกลางๆ และไม่ได้เน้นขายดาราดังซักเท่าไหร่ เทียบกับหนังฟอร์มไม่ใหญ่มากเรื่องก่อนที่เจ.เจ. แอบรัมส์ นั่งแท่นโปรดิวเซอร์แต่ไม่ได้กำกับเองอย่าง 10 Cloverfield Lane ก็ถือว่าทำได้ไม่หนีกันมากเท่าไหร่ เปิดตัววันแรกไป 1.8 ล้านบาท หรือถ้าลองนำไปเทียบกับหนังซอมบี้ในปีนี้ด้วยกัน ก็เพิ่งจะมีเรื่องที่เปิดตัวไปเมื่อสัปดาห์ก่อนนี้เอง อย่างซอมบี้ย้อนยุคแดนกิมจิ Rampant เปิดตัววันแรกไม่มากเท่าไหร่ที่ 5 แสนบาท
อันดับสองไล่จี้เข้ามาติดๆ กับภาคต่อของสาวลายสักมังกรเวอร์ชั่นฮอลลิวู้ด อย่าง The Girl in the Spider’s Web เปิดตัววันแรกในบ้านเราไป 1 ล้านบาทพอดี ถือว่าทำได้ไม่เลวเลยแม้จะทิ้งช่วงจากภาคก่อนหน้าไปถึง 7 ปี และทำเงินเปิดตัววันแรกเพิ่มขึ้นจากภาคก่อนถึงเท่าตัวเลยทีเดียว (The Girl with the Dragon Tattoo เปิดตัววันแรกในบ้านเราไปเพียง 5 แสนบาท) แต่ถึงอย่างไรก็ยังไม่ใช่ผลงานเปิดตัววันแรกสูงสุดในบ้านเราของผู้กำกับ เฟด อัลวาเรซ อยู่ดี (เรื่องก่อนหน้าที่ทำได้ดีกว่าคือหนังฮิตขวัญใจคอหนังอย่าง Don’t Breathe เปิดตัวในบ้านเราวันแรกเกินล้านเช่นกันที่ 1.7 ล้านบาท เช่นเดียวกับนางเอกสาวลายสักมังกรคนใหม่อย่าง แคลร์ ฟอย แต่กรณีของสาวแคลร์นั้น เป็นการแพ้ไปแบบเฉียดฉิวเท่านั้น (พ่ายให้กับหนังที่เพิ่งเปิดตัวก่อนหน้าไปไม่นานอย่าง First Man ที่ 1.1 ล้านบาทไปแค่แสนเดียวเอง!)
หนังเก่าๆ ในสัปดาห์นี้ แม้จะพากันทำรายได้รูดระนาวกันถ้วนหน้าจากจำนวนโรงที่หายกันไปไม่น้อย แต่กลับมีอยู่หนึ่งเรื่องสวนกระแส ไต่อันดับพุ่งขึ้นมาจากสัปดาห์ก่อนเสียอย่างนั้น นั่นก็คือ Bohemian Rhapsody หนังของวง Queen วงร็อกระดับตำนานที่ได้กระแสปากต่อปากแง่บวกดันให้หนังเก็บเงินพฤหัสนี้ไปอีก 6.6 แสนบาท เพิ่มขึ้นจากพฤหัสที่แล้ว 10% เลยทีเดียว! ถือเป็นเรื่องไม่บ่อยนักที่จะได้เห็นหนังทำเงินเพิ่มขึ้นจากวันพฤหัสสัปดาห์ก่อนหน้าแบบนี้ (อย่างที่เพิ่งผ่านมาไม่นาน หนังแนวคล้ายๆ กันอย่าง A Star Is Born ที่รายได้วันพฤหัสสัปดาห์ที่สองก็แทบไม่ต่างจากของสัปดาห์แรก แต่ก็ยังลดลงมาเล็กน้อยอยู่ดี ที่ -4%) รวมไปถึงปีนี้หายากมากๆ ที่จะมีหนังเข้าฉายในระดับเกิน 50 โรงแล้วทำรายได้วันพฤหัสสัปดาห์ที่สองเพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ก่อนแบบนี้ (เรื่องเดียวในปีนี้ที่ทำได้เช่นนี้คือหนังไทยภาคต่ออย่าง ไทบ้านเดอะซีรีส์ 2 Part 1 ทำเงินเพิ่มขึ้นจากพฤหัสแรกไป 26% แต่กรณีนี้พิเศษหน่อยตรงที่วันพฤหัสสัปดาห์ที่สองของหนังตรงกับวันหยุดพอดี)
อีกหนึ่งหนังใหม่สัปดาห์นี้ก็คือแอนิเมชั่นจากค่าย Illumination อย่าง The Grinch ที่จับเอาวรรณกรรมชื่อดังของ Dr. Seuss มาขึ้นจออีกครั้ง โดยเปิดวันแรกไป 6.2 แสนบาท ถือเป็นตัวเลขที่ค่อนข้างเงียบเหงาพอสมควรสำหรับแอนิเมชั่นจากค่ายใหญ่เช่นนี้ (ส่วนหนึ่งอาจจะเพราะเข้าฉายหลังปิดเทอมด้วย ทำให้เก็บเงินได้ไม่มากเท่าที่ควร) ซึ่งเมื่อเทียบกับหนังแอนิเมชั่นในปีนี้ด้วนกัน รายได้วันแรกก็ขึ้นมาได้เพียงอันดับ 8 ของกลุ่มเท่านั้น รวมไปถึงแอนิเมชั่นจากค่าย Illumination ด้วยกัน มีเพียงไม่กี่เรื่องเท่านั้นที่เปิดตัววันแรกไม่ถึงหลักล้าน (เรื่องก่อนหน้าของค่ายที่เปิดตัววันแรกไม่ถึงหลักล้านคือ Sing พลาดหลักล้านไปแค่นิดเดียวที่ 9 แสนบาท) แต่เอาเข้าจริง ดูเหมือนว่าหนังจากวรรณกรรมของ Dr. Seuss ดูเหมือนจะไม่ค่อยได้รับความนิยมในบ้านเราเท่าไหร่นัก (เมื่อเทียบกับฝั่งอเมริกาที่ทำเงินเป็นกอบเป็นกำแทบทุกเรื่อง) อย่างก่อนหน้านั้นค่าย Illumination ก็เคยจับวรรณกรรมของ Dr. Seuss ขึ้นจอมาแล้วหนหนึ่งเมื่อ 6 ปีก่อน อย่างThe Lorax ซึ่งก็เปิดตัววันแรกไปไม่หนีกันซักเท่าไหร่ ที่ 7 แสนบาท
ส่วนเรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจในตาราง มีทั้งรองแชมป์สัปดาห์ก่อนอย่าง The Nutcracker and the Four Realms เก็บเงินพฤหัสนี้ไปอีก 5.5 แสนบาท ลดลงจากสัปดาห์ก่อนไปเกือบ 60% และน่าจะลุ้นทำเงินทะลุหลักยี่สิบล้านเหนื่อยหน่อย
แชมป์เก่าสองสมัยอย่าง HOMESTAY ยังคงแสดงอาการแผ่วลงอย่างต่อเนื่อง เก็บเงินพฤหัสนี้ไปอีก 4.7 แสนบาท ลดลงจากพฤหัสที่แล้วถึง 73%!! ทำเอาหลัก 70 ล้านที่แฟนๆ ลุ้นกันอยู่ขึ้นไปถึงได้ยากเย็นขึ้นไปอีกอย่างน่าเสียดาย รวมไปถึงตำแหน่งหนังไทยทำเงินสูงอันดับ 3 ของปีนี้ ที่แม้จะห่างจาก ไบค์แมน ศักรินทร์ตูดหมึก ไม่ถึงห้าล้านบาทแล้ว แต่ก็ชักจะมีเสียวๆ อยู่เหมือนกัน
เช่นเดียวกับหนังไทยสุดฮิตอย่าง นาคี ๒ ที่หวังไว้ว่าจะแซง หลวงพี่แจ๊ส 4G ขึ้นเป็นหนังไทยทำเงินสูงสุดในรอบ 4 ปีอาจจะต้องมีอันชะงักไปเสียแล้ว จากรายได้ของหนังที่ลดลงจากพฤหัสที่แล้วพอสมควร (-73%) เลยต้องเปลี่ยนมาลุ้นให้หนังทะลุหลัก 160 ล้านให้ได้ก่อนหนังฟอร์มโตจะมาแย่งโรงแย่งคนดูไปเสีย
หนังไทยอีกหนึ่งเรื่องที่เข้าใหม่ในสัปดาห์นี้ อย่าง ผีโทรศัพท์ ดูเหมือนจะได้รับการต้อนรับค่อนข้างเงียบเหงาพอสมควร เพราะเปิดตัววันแรกไปเพียง 2.5 แสนบาท แต่ก็ยังเป็นรายได้วันแรกสูงเป็นอันดับ 2 ในกลุ่มหนังผีไทยปีนี้อยู่ดี (เป็นรองตีสาม After Shock ที่ 6 แสนบาทเพียงเรื่องเดียว) ซึ่งยิ่งเป็นการตอกย้ำความเงียบเหงาของหนังไทยกลุ่มผีๆ ในช่วงที่ผ่านมาเข้าไปอีก